ราคาทองคำขยับขึ้นจากดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลง
· ราคาทองคำปรับขึ้นได้ แม้ว่าธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกดูมีแนวโน้มจะถอนนโยบายผ่อนคลาย โดยทองคำได้รับอานิสงส์หลักจาก
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้น
- ดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงทำต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์
· ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้นราว 0.7% มาแถว 1,776 เหรียญ
· สัญญาทองคำส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับขึ้น 0.7% บริเวณ 1,778 เหรียญ
· นักวิเคาะห์จาก ABC Bullion มองทองคำจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ ซึ่งหากสามารถยืนเหนือ 1,760 เหรียญได้ ก็อาจไปทดสอบ 1,782 เหรียญ และอาจมีลุ้นแถว 1,800 เหรียญได้ แต่หากทองคำ "ต่ำกว่า" 1,759 เหรียญ อาจกลับลงหา 1,741 - 1,737 เหรียญได้
ทั้งนี้ บรรดานักลงทุนยังไม่เข้ามาหนุนตลาดทองได้อย่างเพียงพอ ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ เนื่องจากมีกระแสที่จะเห็นธนาคารกลางต่างๆทำการถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
· หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Nirmal Bank Commodities ระบุว่า เศรษฐกิจโลกดูจะได้รับผลกระทบและความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงดูจะเริ่มเห็นถึงการปรับฐาน ดังนั้น ทองคำมีโอกาสกลับมาสดใสอีกครั้ง และประมาณช่วงสิ้นเดือนพ.ย. น่าจะเห็นทองคำไปแตะแนว 1,850 - 1,860 เหรียญได้ แม้ว่าจะเห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้นได้เป็นบางช่วง
· จับตาทองคำบริเวณ 1,780 เหรียญ ท่ามกลางดอลลาร์ที่ "อ่อนค่า"
ราคาทองคำเผชิญกับการปรับขึ้นรอบใหม่ที่ยืนได้เหนือ 1,770 เหรียญ ท่ามกลางแรงเทขายที่เกิดขึ้นในดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวลงแตะ 1.57% ลดลงมาราว -0.57% และเป็นปัจจัยที่ช่วยกดดันดอลลาร์
รายงานจาก FXStreet ระบุว่า ราคาทองคำมีการซื้อขายระหว่างกรอบ 1,721 - 1,800 เหรียญ โดยหากทองคำไม่สามารถทรงตัวแถว 1,770.4 เหรียญได้ ก็อาจทำให้ราคามีโอกาสลงมาทดสอบ เส้น Fibonacci Retracement 50% ที่ระดับ 1,761.02 เหรียญได้ แต่ก็จะเป็นจุดที่นักลงทุนฝั่งซื้อรอที่จะเข้าถือครองและจะช่วยพยุงให้ทองคำไม่ตกลงไปเยอะนัก
ระยะสั้นๆ ทองคำอยู่ในสภาวะ "ขาลง" และหากทองคำ Break หลุดต่ำกว่า 1,761 เหรียญ ในภาพราย 4 ชั่วโมงก็จะยืนยันภาวะขาลงของราคาได้ ขณะที่สัญญาณ RSI เคลื่อนไหวในแดนสะสมพลังแนว 42 จุด ด้านโมเมนตัมในตลาดยังยืนยันภาวะอ่อนตัวแนว Oversold จึงสะท้อนโอกาสเป็นขาลงต่อ
แนวต้าน ($): 1,770.40 1,777.75 1,790.59
แนวรับ ($): 1,761.00 1,750.00 1,735.80
· Gold Price Forecast: ดอลลาร์อ่อนค่าลุ้นทองแนว 1,780 เหรียญ
บรรดานักลงทุนในตลาดดูเหมือนจะให้ความสนใจกับการที่เฟดจะถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินภายในสิ้นปีนี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่เริ่มสนใจโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยที่น่าจะเกิดขึ้นได้ช่วงปี 2022 นี้ ประกอบกับตลาดมีความกังวลเรื่อง "เงินเฟ้อ" ที่ดูจะปรับตัวสูงขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์
นอกจากนี้ การที่บีโออี มีการส่งสัญญาณครั้งใหม่เกี่ยวกับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ก็ดูจะตอบรับโอกาสที่บีโออีจะดำเนินนโยบายการเงินในลักษณะคุมเข้มทางการเงินแบบเดียวกับ "เฟด" ซึ่งถือเป็นตัวการรันตีตลาด ควบคู่กับการระมัดระวังบางส่วนก่อนที่จะกลายมาเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
สำหรับช่วงนี้ ไม่มีปัจจัยสำคัญในตลาดมากนัก โดยทองคำน่าจะมีความเสี่ยงจาก "อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ" และ "ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยง" เป็นสำคัญ
อย่างไรก็ดี อาจต้องติดตามถ้อยแถลงจากสมาชิกบีโออี และผู้ว่าการบีโออี ที่อาจมีนัยยะสำคัญต่อทองคำ
นอกจากนี้ ยังมีถ้อยแถลงของนางมิเชลล์ โบแมน ผู้ว่าการฝ่ายปกครองของเฟด ที่อาจมีอิทธิพลต่อค่าเงินดอลลาร์ และจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำด้วย
วิเคราะห์แนวโน้มทองคำทางเทคนิค
ทั้งนี้ ตลาดทองคำยังคงมีลักษณะ "รอ" ดูแรงเทขายอีกครั้ง ก่อนจะเป็นตัวยืนยันว่าจะขึ้นหรือจะลง โดยทองคำจะมีระดับแนวรับต่อไปบริเวณ 1,750 เหรียญ ซึ่งหากราคาหลุดต่ำกว่าระดันนี้ มีลุ้นเห็นทองคำทดสอบต่ำสุดเดิมแถว 1,722 - 1,721 เหรียญ
ในทางกลับกัน หากทองคำยืนได้เหนือแนวต้าน 1,780 - 1,782 เหรียญ ก็มีลุ้นที่จะเห็นทองคำขึ้นได้ต่อไปทดสอบ 1,800 เหรียญได้อีกครั้ง และน่าจะหนุนให้กลุ่มผู้ซื้อเข้ามาช้อนซื้อช่วยดันราคาไปทดสอบ 1,832 - 1,834 เหรียญ
แต่ช่วงแรก หากทองคำผ่าน 1,810 เหรียญไปได้ ก็มีโอกาสทดสอบ 1,818 เหรียญที่จะเป็นบททดสอบสำหรับการปรับขึ้นของราคาทองคำ
· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น +1.6% ที่ 23.53 เหรียญ
· ราคาแพลทินัมปรับขึ้น +1.5% ที่ 1,050.84 เหรียญ
· พลาเดียมปรับขึ้น +1.8% แถว 2,051.22 เหรียญ
· Reuters Survey ชี้ จีนถูกคาดคงดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 ในเดือน ต.ค. นี้ แม้จะเผชิญแรงกดดันต่อทิศทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น
· Alibaba เปิดตัว "ชิป" สำหรับเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ หวังกระตุ้นธุรกิจและกำลังสร้างความท้าทายแก่บริษัท Amazon และ Microsoft
· บรรดานักวิเคราะห์ชี้ จีนมีทางเลือกน้อย ท่ามกลางการเผชิญกับ "วิกฤตพลังงาน" และต้องเพิ่มการบริโภคถ่านหินมากขึ้น
· ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เผยรายงานประชุม เล็งโอกาสเศรษฐกิจฟื้นหลังพ้น Delta - แต่จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2024
· ทัพเรือรบจีน - รัสเซีย แล่นผ่านช่องแคบญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ท่ามกลางญี่ปุ่นที่กำลังเฝ้าจับตาดูกิจกรรมการเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
· รายงานจากเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไม่ระบุชื่อลงสู่ทะเลในช่วงเช้าวันนี้
ด้าน นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่า เกาหลีเหนือมีการยิงขีปนาวุธนำวิถีจำนวน 2 ลูก พร้อมกล่าวประณามการกระทำดังกล่าวที่เป็นการ "ยั่วยุ" ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
· มัลดีฟ เรียกร้องกลุ่ม G20 ในการเร่งดำเนินการต่อสู้กับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ท่ามกลางมลพิษทั่วโลกที่คิดเป็น 75% ในเวลานี้
ดังนั้น นานาประเทศจึงควรร่วมมือกันปรับลดมลพิษทางอากาศอย่างเร่งด่วน ในสภาวะที่การระบาดกำลังจะลดลงในปีนี้ ท่ามกลางมลพิษที่เพิ่มขึ้นราว 5% ของประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก