ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ - ผลผลิตสหรัฐฯแย่ ตลาดกังวลอุปสงค์
ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับลงต่อเนื่อง 2 วันทำการ หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจจีนสะท้อนถึงสภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง 2 วันทำการ และการที่ผลผลิตโรงงานสหรัฐฯร่วงลงต่อเนื่องในเดือนก.ย. ประกอบกับความกังวลครั้งใหม่ที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับอุปสงค์ ท่ามกลางการฟื้นตัวขึ้นได้จากการระบาดของไวรัส Covid-19
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิด -43 เซนต์ หรือ -0.5% ที่ 83.90 เหรียญ/บาร์เรล หลังปรับลงไป -0.6% เมื่อวันจันทร์ ขณะที่เดือนต.ค. สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นได้มากถึงเกือบ 7%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด -33 เซนต์ หรือ -0.4% ที่ 82.11 เหรียญ/บาร์เรล หลังเมื่อวานนี้ปิด +0.2% ขณะที่ภาพรวมเดือนต.ค. ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 10%
ข้อมูลผลผลิตภาคโรงงานในสหรัฐฯปรับตัวลดลงมากสุดรอบ 7 เดือนในเดือนที่แล้ว ท่ามกลางการขาดแคลนของกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ส และการชะลอตัวของการผลิตรถยนต์ รวมทั้งหลักฐานที่บ่งชี้ถึงปัญหาด้านอุปทานที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สำหรับจีนกำลังเผชิญกับปัญหาคอขวดด้านอุปทาน ประกอบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลงไปทำต่ำสุดรอบ 1 ปี และปัญหาการขาดแคลนพลังงานและการระบาดของ Covid-19 ที่เป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจ
อัตราการผลิตน้ำมันดิบรายวันปรับตัวลดลงอีกครั้งในเดือนก.ย. ทำต่ำสุดตั้งแต่พ.ค. ปีที่แล้ว ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า การปรับตัวลงดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงชั่วคราว โดยรคาน้ำมัน, ถ่านหิน และก๊าซยังมีแนวโน้มจะอยู่ในระดับสูงอยู่
AccuWeather.com ระบุถึง สภาพอากาศที่หนาวจัดดูจะเริ่มต้นขึ้นในประเทศจีน พร้อมมีคาดการณ์ว่าจะเห็นอุณหภูมิปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในพื้นที่ทางตอนเหนือ
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ยังช่วยสนับสนุนราคาน้ำมัน คือการที่ผลผลิตน้ำมันในสหรัฐฯยังพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการผลิตน้ำมันเชลล์รายใหญ่ที่คาดจะเพิ่มมากขึ้นในเดือนหน้า
ที่มา: CNBC