

น้ำมันร่วง หลังจีนพิจารณาแทรกแซงบรรเทาวิกฤติถ่านหิน
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากที่รัฐบาลจีนได้เพิ่มความพยายามที่จะควบคุมราคาถ่านหินที่สูงเป็นประวัติการณ์ และรับประกันว่าเหมืองถ่านหินจะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยราคาถ่านหินของจีนและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงต้น ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจากการปรับขึ้นในช่วงเช้าของวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 43 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.5% ที่ระดับ 84.65 เหรียญ/บาร์เรล หลังเพิ่มขึ้น 75 เซนต์ในช่วงก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายปี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 37 เซนต์ หรือคิดเป็น 82.59 เหรีญญ/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 45 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.6% ที่ระดับ 81.99 เหรียญ/บาร์เรล
ขณะที่ตลาดน้ำมันโดยทั่วไปยังคงได้รับแรงหนุนจากวิกฤตถ่านหินและก๊าซทั่วโลก ซึ่งผลักดันให้เปลี่ยนไปใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาเพื่อการผลิตไฟฟ้า
แต่วันนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลจากกลุ่มอุตสาหกรรม American Petroleum Institute ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ต.ค.
ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรลในการสำรวจของ Reuters
อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงดีเซล น้ำมันฮีทติ้งออยล์ และน้ำมันเครื่องบิน ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก บ่งชี้ให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ สำหรับวันนี้จะมีการประกาศข้อมูลจาก U.S. Energy Information Administration
ที่มา: CNBC