รายงานผลประชุมเฟดที่จะประกาศในค่ำคืนนี้ ถูกคาดว่าจะเห็นรายละเอียดของแผนและการสิ้นสุดมาตรการ QE ที่นำมาใช้ช่วง Covid-19 ระบาด ในช่วงกลางปี 2022 ขณะที่สิ่งที่เฟดจะให้ความสำคัญต่อไป คือ การดำเนินมาตรการใดๆ ในกรณีที่ "เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น" นานกว่าที่เคยประเมินไว้
ในรายงานการประชุมเฟดช่วง 21- 22 ก.ย. สะท้อนถึงบรรดาสมาชิกเฟดที่ส่งสัญญาณจะทำ Tapering QE ในวงเงิน 1.2 แสนล้านเหรียญ ณ ปัจจุบัน ที่อาจเห็นการอนุมัติเริ่มต้นดำเนินการได้ในการประชุมวาระนี้
ในประเด็นเงินเฟ้อ สมาชิกเฟด เล็งเห็นว่า บางช่วงของปีหน้า (ปี 2022) น่าจะยังเห็นปัญหาคอขวดด้านอุปทานทั่วโลกที่จะผ่อนคลายลงไป ท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่กลุ่มผู้บริโภคของสหรัฐฯ ดูจะชะลอการใช้จ่ายเรื่องรถยนต์, มอเตอร์ไซต์ และอื่นๆ ประกอบกับน่าจะเห็นประชาชนมากพอที่กลับเข้ามามีงานทำ ท่ามกลางค่าแรงและสวัสดิการที่จะได้รับเพิ่มมากขึ้น
สถานการณ์ในตอนนี้ เฟดกำลังเผชิญว่า "เงินเฟ้อ" จะคลี่คลายได้ก่อนหรือจะมีการยกระดับ "การขึ้นดอกเบี้ย" เพื่อมาสกัดเงินเฟ้อ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่า "เฟดจะอดทนรอ" เวลาในการขึ้นดอกเบี้ย
ณ ปัจจุบัน เฟดยังคงดอกเบี้ยในระดับต่ำศุนย์ ขณะที่การซื้อขายในปัจจุบัน มีการติดตามกระแส Fed Funds Futures ที่อาจเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยราว 0.75% ภายในปี 2022 แม้ว่ารายงานประชุมเดือนก.ย. จะยังสะท้อนความเห็นที่แตกต่างกันของสมาชิกเฟด
จับตาประธานเฟด
เฟดจะทำการเผยผลประชุมช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ตามเวลาไทย แต่จะไม่มีคาดการณ์เศรษฐกิจรอบใหม่ หลังจากนั้นจะมีการแถลงการณ์ของ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ประมาณครึ่งชั่วโมง โดยเริ่มที่ 01.30น. ที่ดูเหมือนเฟดมีการตั้งเป้าหมายการบรรลุการจ้างงานเต็มรูปแบบ และความมีเสถียรภาพของเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี "อาจเห็น" สัญญาณที่หนักแน่นมากขึ้นจากนายโพเวลล์ ซึ่งกำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในช่วงสิ้นเดือนก.พ. ปี 2022 ขณะที่ทางทำเนียบขาวยังไม่ประกาศว่านายโพเวลล์ จะได้กลับมาดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ต่อจากนี้หรือไม่
ท้ายที่สุดนี้ การหารือว่าเขาจะเป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 หรือไม่ จำเป็นต้อง "มีการหารือ" ถึงจำนวนของตลาดแรงงานว่ามีการฟื้นตัวเท่าไหร่ และความรวดเร็วในการจัดการ รวมไปถึงทิศทางเศรษฐกิจว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากช่วง Covid-19 อย่างไร ที่สะท้อนถึงเงินเฟ้อสูงในขณะที่คนกลับมามีงานทำเพียงเล็กน้อย
ที่มา: Reuters