· ทองหลุด 1,785 เหรียญก่อนทราบผลประชุมเฟด
ปัจจัยสำคัญที่ตลาดทองคำให้ความสำคัญวันนี้
- ประชุมเฟด
- รายงานจ้างงานเอกชนสหรัฐฯ
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ
- ยอดคำสั่งซื้อสินค้า
แต่ภาพหลักใหญ่ดูเหมือนตลาดจะให้ความสำคัญว่า เฟดจะมีการทำ Tapering QE มากน้อยเพียงใด ที่อาจต้องพิจารณาในเรื่องความกังวลต่อสถานการณ์ Covid-19 รอบใหม่ รวมถึงความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
· FXStreet วิเคราะห์ทิศทางทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนไหวปรับลงมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย DMA ราย 100 วัน บริเวณ 1,781 เหรียญ โดยที่สัญญาณ MACD ยังสะท้อนภาวะขาขึ้น แต่ RSI มีสภาวะขาลง
ขณะที่ภาพรวมของ Oscillators โดยส่วนใหญ่ไม่น่าจะขึ้นได้ต่อ และมีโอกาสจะเห็นราคามีแนวโน้มปรับตัวลดลงได้ต่อและมาแกว่งตัวแถว 1,770 เหรียญ ซึ่งหากหลุดลงมามีโอกาสทดสอบบริเวณ 1,745 เหรียญ เมื่อ 16 ก.ย. และอาจเห็นราคาอ่อนตัวลงไปทำต่ำสุดที่ 1,721 เหรียญได้
ในทางกลับกัน หากราคาปรับขึ้นเหนือ 1,785 เหรียญได้ ก็มีโอกาสเผชิญกับแนวต้านสำคัญ 1,810 เหรียญในเวลานี้ และหากยืนได้เหนือระดับดังกล่าวอาจไปถึง 1,824 เหรียญ ซึ่งน่าจะมีแรงส่งเพื่อกลับไปหาจุด Double Top ที่ระดับ 1,834 เหรียญ ซึ่งเคยทำไว้เมื่อเดือนก.ค. และ ก.ย.
สรุปได้ว่า ระยะสั้นๆค่อนข้างชัดเจนว่า "ทองคำเป็นขาลง" ก่อนทราบผลประชุมเฟด
· เฟดถูกคาดว่าจะประกาศกรอบเวลาการทำ Tapering QE ในคืนนี้เวลาประมาณตี 1 เป็นต้นไป (ตามเวลาไทย) และมีแนวโน้มที่จะเริ่มเห็นการปรับลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนราว 1.5 หมื่นล้านเหรียญในแต่ละเดือน จนถึงช่วงสิ้นสุดการดำเนินการช่วงกลางปีหน้า
การลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและโอกาสการขึ้นดอกเบี้ย "สนับสนุน" ให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น "จึงกดดันทองคำ"
ธนาคารกลางอังกฤษอาจสามารถก้าวออกจากนโยบายผ่อนคลายการเงินได้ ท่ามกลางจำนวนว่างงานใหม่ที่ไม่พบจำนวนการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในอังกฤษ "ไม่มีแนวโน้ม" จะเพิ่มขึ้นต่อ จึงอาจเป็นตัวหนุนให้ บีโออีตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย ในการประชุมวันพรุ่งนี้ได้
บรรดาสมาชิกบีโอเจเมื่อวานนี้ ยังยืนยันเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% หลังหารือร่วมกับผู้ว่าธนาคารกลางและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น
ข้อมูลกิจกรรมภาคบริการของจีนขยายตัวได้อย่างรวดเร็วในเดือนต.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีแรงกดดันเงินเฟ้อที่สร้างความกังวลต่อการเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ
· Ether ปรับตัวสูงขึ้นถึง 4,643 เหรียญ ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยทะลุ 4,600 เหรียญ ของวันก่อนหน้าและทำให้กำไรในสัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่า 10%
ด้าน Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 63,078 เหรียญและเพิ่มขึ้นประมาณ 117% ในปีนี้ ขณะที่ Ether เพิ่มขึ้นหกเท่า
· นาย Glenn Youngkin ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย โดยเตือนว่าพรรคเดโมแครตของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังประสบปัญหาในการเลือกตั้งรัฐสภาปีหน้า
· จีนมีแผนกำหนดเป้าการใช้ถ่านหินสำหรับโรงจ่ายไฟฟ้าประมาณปี 2025
· เที่ยวบินจีนกว่าครึ่งมีการยกเลิกเที่ยว ท่ามกลางเมืองหลวงจีนมีการใช้มาตรการเข้มงวด Covid-19
· Commonwealth Bank of Australia (CBA) จะกลายเป็นธนาคารแห่งแรกในออสเตรเลียที่รองรับ Cryptocurrencies
· ทางเกาหลีใต้จะเพิ่มการทดสอบไวรัสโคโรนาที่โรงเรียน หลังจากมีการติดเชื้อในเด็กเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายสัปดาห์ก่อนแผนการเปิดโรงเรียนทั่วประเทศอีกครั้ง
· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียอาจเลิกใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินภายในปี 2040 หากได้รับความช่วยเหลือทางการเงินที่เพียงพอจากประชาคมระหว่างประเทศ
· นิวซีแลนด์เผยอัตราว่างงาน Q3/64 ร่วงทำระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากนโยบายพยุงเศรษฐกิจ
· ผลสำรวจเผย กิจกรรมภาคเอกชนของอียิปต์ที่ไม่ใช่ปิโตรเลียมในเดือนต.ค.หดตัวเป็นเดือนที่ 11 โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ IHS Markit ลดลงเหลือ 48.7 เนื่องจากปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศทำให้การผลิตช้าลงและส่งผลกระทบต่อความคาดหวังของผลผลิตในอนาคต