• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564

    4 พฤศจิกายน 2564 | Gold News



ทองคำร่วงลงทรงตัวแถวต่ำสุด 3 สัปดาห์ หลังเฟดประกาศนโยบายตามคาด!

 

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.9ที่ระดับ 1,770.61 เหรียญ โดยเป็นการรีบาวน์กลับได้หลังทราบผลประชุมเฟด

ช่วงต้นตลาดราคาทองคำตลาดโลกทำต่ำสุดตั้งแต่ 13 ต.ค. บริเวณ 1,757.63 เหรียญ

 

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -1.4ที่ระดับ 1,763.9 เหรียญ

 

·         กองทุนทองคำ SPDR กลับมาขายทองอีก 1.45 ตัน ปัจจุบันลดการถือครองลงมาเหลือ 978.07 ตัน ยังคงเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ 6 เม.ย.

 




·        ราคาทองคำทรงตัวแถวระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือนต.ค. อันเป็นผลจาก


- เฟดตัดสินใจประกาศทำ Tapering QE ตามตลาดคาดการณ์


โดยเฟดจะทำการค่อยๆถอนนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจที่ใช้มาในยุคไวรัสระบาด ท่ามกลางตลาดแรงงานสหรัฐฯที่มีการฟื้นตัว และเงินเฟ้อที่ยังถูกคาดว่าเป็นเพียง “ชั่วคราว” แม้จะเห็นความเสี่ยง แต่ก็เชือว่า “เงินเฟ้อจะอ่อนตัวลงได้” และ “การจ้างงานจะแข็งแกร่ง” รวมไปถึง ภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นไปด้วยดี


แนวทางการสิ้นสุดการซื้อสินทรัพย์ของเฟด


เฟดประกาศจะเริ่มต้นทำ Tapering QE ในช่วงปลายเดือนนี้  และจะสิ้นสุดแผนดังกล่าวช่วงกลางปี 2022 โดยจะเริ่มลดวงเงินการเข้าซื้อ 1.5 หมื่นล้านเหรียญ/เดือน แบ่งเป็น


1 หมื่นล้านเหรียญ สำหรับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ


5 พันล้านเหรียญ สำหรับตราสารหนี้ MBS


จากวงเงินรายเดือน ณ ปัจจุบัน 1.2 แสนล้านเหรียญ


 

นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด มองจ้างงานเต็มที่จะบรรลุเป้าหมายช่วงกลางปี 2022 และอาจสร้างความชัดเจนให้เฟดพิจารณาที่จะทำการขึ้นดอกเบี้ยได้  ขณะที่มองเงินเฟ้อมีแนวโน้มขึ้นต่อ แต่จะค่อยๆเริ่มลดลงราวช่วงกลางปี 2022



สมาชิกเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะยังไม่ทำการปรับขึ้นดอกเบี้ย และกำหนดการ ณ ปัจจุบัน คือการที่เฟดจะลดวงเงิน QE จนถึงช่วงก.ค. ปี 2022 โดยจะยังไม่เริ่มขึ้นดอกเบี้ยใดๆ จนกว่าจะทำการ Tapering QE จบเรียบร้อย และภาพรวมของคาดการณ์ที่เปิดเผยในรายงานเดือนก.ย. ก็บ่งชี้ว่า น่าจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยได้ 1 ครั้งในปีหน้า

 

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นอีกครั้งกลับมาแถว 1.6ตามถ้อยแถลงเฟดคุมเข้มทางการเงิน ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น 2 ปี ปรับขึ้นมาบริเวณ 0.46%


 

ดอลลาร์อ่อนค่าตามถ้อยแถลงประชุมเฟด ทำต่ำสุดรอบ หลังเฟดจะตัดสินใจทำการ Tapering QE ช่วงปลายเดือนนี้

ดัชนีดอลลาร์ปิด -0.07ที่ 94.02 จุด


- เทรดเดอร์ปรับเพิ่มคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกราวช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ ปี 2022 (มิ.ย. - ส.ค.)

เครื่องมือ Fed Fund Futures สะท้อนให้เห็นมุมมองของเหล่าเทรดเดอร์ที่คิดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้ประมาณ 2 ครั้งในปี 2022 และจำนวน 3 ครั้งในปี 2023



ADP เผยจ้างงานสหรัฐฯเดือนต.ค. ขยายตัวได้เกินคาดแตะ 571,000 ตำแหน่ง อันได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มการจ้างงานด้านการโรงแรม/ที่พักมากขึ้น




-  ISM เผยข้อมูลดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐฯแกร่งในเดือนต.ค. แตะ 66.7 จุด ซึ่งถือเป็นสูงสุดตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 1997

ทั้งนี้ ข้อมูลภาคบริการและการจ้างงานเอกชนที่สดใสของสหรัฐฯ ดูจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงเริ่มต้นไตรมาสที่4 ได้ อันเป็นผลจากจำนวนติดเชื้อ
 Covid-19 ลดลง หนุนอุปสงค์ขึ้น แม้ว่าภาคธุรกิจจะยังได้รับผลกระทบจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และราคาต้นทุนระดับสูง


 

- ข้อมูลคำสั่งซื้อสินค้าใหม่สหรัฐฯออกมาดีเกินคาดในเดือนก.ย. แตะ 0.2% แม้จะยังเผชิญปัญหาขาดแคลนอุปทานการผลิต


- ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) อาจเริ่มต้นปรับขึ้นดอกเบี้ย จากการเผชิญปัญหาการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ

ภาพรวมนักลงทุนคาดกาณณ์กันว่าจะเห็นบีโออีตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ แต่ก็ยังมความไม่แน่นอนเนื่องจากสมาชิกบางรายก็ต้องการให้คุมเข้มทางการเงิน ขณะที่บางรายต้องการที่จะรอจนถึงการประชุมช่วงกลางเดือนธ.ค. นี้เสียก่อน

ตลาดส่วนใหญ่ยังเผชิญกับความไม่แน่นอนเรื่องกรอบเวลาการขึ้นดอกเบี้ยของบีโออี แต่บรรดานักวิเคราะห์ บ่งชี้ว่า การลงมติขึ้นดอกเบี้ยอาจเห็นเสียงแตกในการอนุมัติได้


 

S&P500 ปิดทำสูงสุดประวัติการณ์ หลังเฟดมองเศรษฐกิจสหรัฐฯแกร่งพอสำหรับการลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตร


·         หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า ราคาทองคำเตรียมจะปรับตัวลงหนักบริเวณ 1,758 เหรียญ และไม่คาดจะเห็นทองคำแกว่งตัวไม่มากนัก เนื่องจากยังมีจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในสัปดาห์

 

·         COVID-19 UPDATES:

 


 

·         ไทยพบติดเชื้อใหม่ยังต่ำหลัก 8,000 ราย ล่าสุดพบ 7,982 ราย และเสียชีวิต 68 ศพ



·         นักบริหารการเงิน คาด กรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ คาดไว้ที่ 33.00-33.50 บาท/ดอลลาร์ฯ


·         
สถานการณ์ในไทย


- ปตท.มั่นใจเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้น จับตาโอเปคเพิ่มกำลังผลิตช่วยราคาน้ำมันผ่อนคลายลง


- เอกชนเตรียมปฏิวัติการเกษตร ตัว BOOST เศรษฐกิจไทยหลังโควิด-19


- สุพัฒนพงษ์ หวังเศรษฐกิจไทยปีหน้าฟื้นแรง โต 5 - 6%



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com