นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยผลการตัดสินใจเลือก "นายเจอโรม โพเวลล์" ประธานเฟดคนปัจจุบัน (ที่จะครบกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ. ปีหน้า) ให้กลับมาดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 เพื่อให้สานต่อด้านการดำเนินนโยบายการเงินที่มีความต่อเนื่อง ประกอบกับดำเนินการนำเศรษฐกิจให้ก้าวพ้นจากวิกฤตโรคระบาดให้แล้วเสร็จ
ขณะที่ทางทำเนียบขาว เปิดเผยเพิ่มเติมว่า "นางลาเอล เบรนาร์ด" หนึ่งในสมาชิกผู้ว่าการของเฟด จะได้รับการดำรงตำแหน่ง "รองประธานเฟด" ในสมัยหน้า เป็นไปตามกระแสตลาดที่มีคาดการณ์ก่อนหน้าว่า เธอจะได้รับโอกาสดำรงตำแหน่งรองประธานเฟดด้านการดำเนินนโยบาย ที่แยกกับรองประธานเฟดฝ่ายกำกับดูแลระบบภาคธนาคาร
ดังนั้น นางเบรนาร์ด จึงจะมาดำรงตำแหน่งรองประธานเฟดแทน นายริชาร์ด แคลริด้า รองประธานเฟดคนปัจจุบันที่จะครบกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 31 ม.ค. ปี 20222 และจะกลายมามีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจเรื่องนโยบาย
การประกาศผลดังกล่าว ช่วยให้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้นโดยทั่วกัน ซึ่งตลาดต่างๆ ค่อนข้างจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะเห็นความผันผวนต่อแนวทางการดำเนินนโยบายหรือไม่ สำหรับผู้จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป
บรรดาสมาชิกเฟด พร้อมที่จะเริ่มต้นลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยจะเริ่มลดขนาด 1.5 หมื่นล้านเหรียญ/เดือน และน่าจะจบการลด QE ช่วงกลางปีหน้า ประกอบกับน่าจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปี 2022 เช่นกัน
อย่างไรก็ดี ประธานเฟดโดยส่วนใหญ่ แสดงความคิดเห็นว่า จะยังไม่พิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม จนกว่าจะจบการลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล แต่ตลาดเล็งเห็นกรอบเวลาการดำเนินการที่อาจรวดเร็วขึ้นสำหรับการขึ้นดอกเบี้ย ประมาณช่วง มิ.ย. ปี 2022
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ผู้เคยเป็นอดีตประธานเฟดคนก่อนหน้านายโพเวลล์ แสดงความชื่นชม "นายโพเวลล์" ว่ามีวิธีการจัดการที่ดีในการรับมือกับการเผชิญ Covid-19 และไม่เพียงแต่ทำให้สหรัฐฯพลิกฟื้นกลับ แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยภายในระยะเวลาที่สั้นมากที่สุดอีกด้วย
ที่มา: CNBC, Reuters