ราคาน้ำมันดิบปรับลง รับข่าวการร่วมมือปล่อยน้ำมันสำรอง เพื่อบรรเทาความกังวลด้านอุปทาน
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากที่สหรัฐฯนำชาติพันธมิตรปล่อยน้ำมันสำรองด้านยุทธศาสตร์ (SPR) ขณะที่นักลงทุนมีการปิดสถานะทำกำไรหลังราคาน้ำมัปรับขึ้นต่อเนื่องช่วงหลายวันก่อน และเป็นการลดสถานะก่อนเข้าสู่วันหยุดเทศกาล Thanksgiving
น้ำมันดิบ WTI ปิด -12 เซนต์ หรือ -0.2% ที่ 78.38 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ Brent ปิด -32 เซนต์ หรือ -0.4% ที่ 81.99 เหรียญ/บาร์เรล
สหรัฐฯตัดสินใจจะปล่อยน้ำมันสำรองด้านยุทธศาสตร์ (SPR) ออกมา 50 ล้านบาร์เรล และเป็นการร่วมมือกับจีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และอังกฤษ เพื่อชะลอราคาพลังสูง หลัง OPEC+ เมินข้อเรียกร้องการเพิ่มกำลังการผลิต
รายงานจากสำนักข่าว Nikkei เผย ญี่ปุ่นจะมีการปล่อยน้ำมันสำรอง 4.2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ รายงานสต็อกน้ำมันดิบและก๊าซโซลีนของ API ที่พบว่า ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่แท่นขุดเจาะน้ำมันปรับลดลง ก็ยังเป็นปัจจัย "กดดัน" ราคาน้ำมันด้วย
ทั้งนี้ รายงานสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์รเลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกก๊าซโซลีนก็เพิ่มขึ้นเกินคาดประมาณ 600,000 บาร์เรล ทางด้านจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ลดลงราว 1.5 ล้านบาร์เรล
นักวิเคราะห์บางราย คาดว่า ผลกระทบต่อราคาพลังงานจากความร่วมมือกันด้านการปล่อยน้ำมันสำรองจะมีผลเพียง "ระยะสั้น" เท่านั้น
นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs คาด การร่วมมือปล่อยน้ำมันสำรองเวลานี้ อาจจมากถึง 70 - 80 ล้านบาร์เรล ยังน้อยกว่า 100 ล้านบาร์เรล ที่ตลาดเคยประเมินไว้