• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564

    26 พฤศจิกายน 2564 | Gold News

เฟด Hawkish จำกัดการปรับขึ้นของทองคำ

ราคาทองคำทรงตัวแถว 1,790 เหรียญ ภาพรวมยังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,800 เหรียญ แม้จะเห็นดอลลาร์ขยับอ่อนค่าเล็กน้อย แต่ตลาดทองคำก็ยังมีปัจจัยจากรายงานประชุมเฟดเดือนพ.ย. ที่มีท่าที Hawkish และอาจเร่งถอนมาตรผ่อนคลายทางการเงิน จึงเป็นตัวจำกัดการปรับขึ้นของทองคำ

 

·         Gold Price Forecast: ทองมีแนวโน้มฟื้นตัวจำกัดบริเวณ $1,800

รายงานจาก FXStreet ระบุว่า ราคาทองคำมีการฟื้นตัวหลังเผชิญแรงเทขายทำกำไรและทำต่ำสุดรอบ สัปดาห์ที่ระดับ 1,779 เหรียญ

สำหรับวันหยุดเทศกาล Thanksgiving ส่งผลให้ตลาดเคลื่อนไหวเบาบาง และภาพรวมยังเคลื่อนไหวสะสมพลังท่ามกลางท่าทีเฟดในเชิงคุมเข้มมากขึ้นที่เห็นผ่านรายงานประชุมเฟด

ในทางเทคนิค ทองคำยังคงอยู่แถวระดับแนวรับสำคัญแรก 1,790 เหรียญ ที่เป็นเส้น SMA50 ในภาพรายวัน ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 38.2% ในกราฟรายเดือน และ Fibonacci 61.8% ในกราฟรายวัน

หากทองคำเผชิญแรงเทขายอาจกลับลงมาแถวเส้น Fibonacci 38.2% บริเวณ 1,785 เหรียญ  และ 1,782 เหรียญ ที่เป็นระดับสำคัญราย 1 ชั่วโมง ที่ระดับ 1,782 เหรียญ

หากไม่สามารถยืนอยู่ได้ อาจลงมาทำต่ำสุดที่ 1,779 เหรียญ อีกครั้ง

ในทางกลับกัน หากทองคำกลับมายืนเหนือ 1,797 เหรียญ ก็อาจทดสอบเป้าหมายขาขึ้นที่ 1,800 เหรียญ หากผ่านไปได้มีโอกาสเห็น 1,807 เหรียญ

 

·         Scotiabank ระบุว่า ราคาทองคำยังแกร่งเหนือแนวรับแม้จะเผชิญแรงเทขายทำกำไร แต่ปีหน้ามีลุ้นยืนเหนือ 1,800 เหรียญ

 

·         ดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อย ตลาดยังรับท่าทีเฟด Hawkish สวนทางธนาคารกลางรายใหญ่อื่นๆ

 

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยมาที่ 96.759 จุด หลังทำแข็งค่ามากสุดที่ 96.938 จุด ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากสุดตั้งแต่ก.ค. ปี 2020

ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 115.355 เยน/ดอลลาร์ หลังไปทำอ่อนค่ามากสุดตั้งแต่ม.ค. ปี 2017

ค่าเงินยูโรแข็งค่าแตะ 1.1210 ดอลลาร์/ยูโร หลังไปทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 17 เดือน

 

·         นักวิเคราะห์มอง อีซีบีเผชิญแรงกดดันในการปลดล็อกการลดพันธบัตรรัฐบาลและการหลีกเลี่ยงภาวะตลาดชะงักงัน

 

·         ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ระบุว่า การเตรียมสัญญาณชี้นำ เกี่ยวกับการจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน อาจเป็นเรื่อง “อันตราย” ได้

 

·         ธนาคารกลางเยอรมนี เตือน ภาวะราคาภาคอสังหาฯทะยานแรง ท่ามกลางปัญหาไวรัสระบาดหนัก

 

 

·         ธนาคารกลางเม็กซิโก ชี้ ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน กำลังสร้างแรงกดดันมากขึ้นและอาจฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

 

·         สหรัฐฯ ขู่อิหร่านอาจเผชิญแรงตึงเครียดมากขึ้นในการประชุม IAEA เดือนหน้า หากยังไม่สามารถหาแนวทางประนีประนอมได้เพิ่มเติมในการกลับสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015

 

·         ราคาน้ำมันร่วง รอท่าที OPEC+ รับมือสหรัฐฯในการนำปล่อยน้ำมันสำรอง

ราคาน้ำมันดิบ WTI แกว่งลงราว 9 เซนต์ หรือ -0.1% มาแถว 78.30 เหรียญ/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ 
Brent ปรับลง เซนต์ บริเวณ 82.20  เหรียญ/บาร์เรล

 

·         หุ้นยุโรปปิดขยับขึ้น แม้ว่าจะเผชิญความผันผวนจากสถานการณ์ Covid-19



·         ดัชนี FTSE 100 ปรับขึ้นต่อเนื่อง 4 วัน แม้หุ้นกลุ่มผู้บริโภคจะเป็นปัจจัยหนุนตลาด

 

·         COVID-19 UPDATES:


ยอดติดเชื้อ Covid-19 ทั่วโลกสะสมทะลุ 260 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่เสียชีวิตสะสมแตะ 5.198 ล้านราย และรักษาหายทั่วโลกแตะ 235.18 ล้านราย

 

·         WHO เรียกร้องจัดประชุมนัดพิเศษ เพื่อหารือถึงสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ที่พบในแอฟริกาใต้ และดูจะก่อให้เกิดรูปแบบการเปลี่ยนแปลงไวรัสขนาดใหญ่

 


·         COVID-19 คุกคามยุโรป ส่งผลให้เยอรมนีมีรายงานสั่ง Lockdown เต็มรูปแบบ เพื่อสกัดการเสียชีวิตทะลุ 100,000 ราย และมีแววฉุดเศรษฐกิจเยอรมนีอ่อนแอเพิ่ม

 

·         อังกฤษ ส่งสัญญาณเตือนภัยเพิ่มต่อสายพันธุ์ Covid ตัวใหม่ที่อาจเอาชนะวัคซีนได้


 

·         สถานการณ์ระบาดในไทยวันนี้ พบป่วยโควิดใหม่ 6,559 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 64 ราย หายป่วย 6,875 ราย


 

·         ศบค.ถกวันนี้(26 พ.ย.) เล็งผ่อนคลายสถานบันเทิง-สธ.ชงเปิดประเทศระยะ 2

 

 

·         นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.25 - 33.45 บาท/ดอลลาร์

 

·         อ้างอิงจากอินโฟเควสท์

CIMBT คาดเศรษฐกิจไทยปี 65 โต 3.8% ส่งออก-ท่องเที่ยว-กำลังซื้อในปท.หนุน


·         อ้างอิงจากประชาชาติธุรกิจ

- กนง.เกาะติด 3 ปัจจัยเสี่ยง ฉุดเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวสะดุด

ธปท.เปิดรายงานการปะชุมนโยบายการเงิน เผย เศรษฐกิจไทยระยะข้างหน้ายังเปราะบางและไม่แน่นอน เกาะติด 3 ประเด็น “พัฒนาการระบาดโควิดหลังเปิดประเทศ-ความต่อเนื่องมาตรการรัฐ-การส่งผ่านต้นทุนไปยังราคาสินค้า” ยันโจทย์สำคัญดูแลการฟื้นตัวไม่ให้สะดุด

โดยคณะกรรมการประเมินว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ายังเปราะบางและไม่แน่นอน โดยต้องติดตาม

(1) พัฒนาการของการระบาดหลังการเปิดประเทศ ซึ่งการฟื้นตัวและการจ้างงานในระยะถัดไปจะแตกต่างกันทั้งในมิติของธุรกิจและพื้นที่ โดยผลสำรวจผู้ประกอบการในประเทศพบว่าภาคการผลิต ธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหารจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าภาคโรงแรมและการขนส่งผู้โดยสาร

(2) ความต่อเนื่องของมาตรการภาครัฐ หลังจากมาตรการที่ออกมาในช่วงก่อนหน้าทยอยสิ้นสุดลง

(3) การส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังราคาสินค้า โดยหากราคา พลังงานโลกอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ประเมินไว้ หรือ global supply disruption ยืดเยื้อกว่าคาด หรือต้นทุน การผลิตหลายประเภทเพิ่มขึ้นพร้อมกัน อาจทำให้ผู้ผลิตปรับขึ้นราคาสินค้าได้

อ่านต่อhttps://www.prachachat.net/finance/news-808694

 

·         อ้างอิงจาก Brain Inside

 

ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยภัทร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร วิเคราะห์การฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยที่ซวนเซจากโควิด-19 ระบุว่า ปี 2022 ไทยฟื้นตัวลำบาก หนี้ครัวเรือนมาก SME รับศึกหนักต้องปรับโครงสร้างหนี้


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com