• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

    30 พฤศจิกายน 2564 | Gold News
 
 

ทองทรงตัว-นักลงทุนกังวลผลกระทบจาก Omicron


ราคาทองตลาดโลกทรงตัวที่ 1,785.13 เหรียญ

สัญญาทองคำปรับขึ้น 0.2% ที่ 1,784.30 เหรียญ


เมื่อวานนี้ WHO ระบุถึงสายพันธุ์ ใหม่ Omicron มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเผชิญการระบาดมากขึ้น ขณะที่การปิดพรมแดนจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ อันจะเห็นได้จากการระบาดรอบ 2 ปี แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดจากแอฟริกาใต้ ระบุว่า วัคซีน Covid-19 อาจลดประสิทธิภาพวัคซีนในการต่อสู้กับสายพันธุ์ใหม่

 

เมื่อวานนี้ นายโพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวถึง การเตรียมแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งมองถึงเรื่องเงินเฟ้อมีโอกาสลดลงในปีหน้า ท่ามกลางอุปทานและอุปสงค์ที่จะสมดุลกันมากขึ้น แต่เตือนว่า สายพันธุ์ใหม่จะเป็นอุปสรรคต่อแนวโน้มการขยายตัวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

สมาชิกอีซีบี หาวิธีประเมินการระบาดต่อเศรษฐกิจยูโรโซน โดยการเรียนรู้กระบวนจัดการกับการระบาดหลายๆระลอกที่ผ่านมา

 

ขณะที่เงินเฟ้อขยายตัวได้อย่างรวดเร็วในรอบกว่า 20 ปี ท่ามกลางผลสำรวจภาคบริษัทบริการต่างๆในอังกฤษ

 

แพลทินัมปรับขึ้น 0.4% บริเวณ 966.58 เหรียญ

พลาเดียมปรับขึ้น 0.4% ที่ 1,801.27 เหรียญ

ซิลเวอร์ทรงตัวที่ 22.88 เหรียญ


·         ค่าเงินมีเสถียรภาพท่ามกลางสถานการณ์ความกังวล Omicron ระบาด

ดัชนีดอลลาร์ ทรงตัว 96.203 จุด หลังทำต่ำสุดวันศุกร์ที่ 95.973 จุด

ยูโรทรงตัวที่ 1.12955 ดอลลาร์/ยูโร


·         อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แนะ การผ่อนคลายภาษีจีน-สหรัฐฯ อาจช่วยผ่อนคลายเงินเฟ้อในสหรัฐฯได้


·         กิจกรรมภาคโรงงานจีนโตเกินคาดในเดือนพ.ย. แตะ 50.1 จุด จากแรงตึงเครียดด้านอุปทานที่บรรเทาลง


·         Think Tank ชี้ จีนประสานเสียงอิหร่าน จึงทำให้เจรจานิวเคลียร์อิหร่านเป็นเรื่องยากมากขึ้น


·         Moody’s Investors Service และ Fitch Ratings เปิดเผยว่า ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์โอไมครอนอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นด้วย โดยการคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า ไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น


·         นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เผย เลื่อนกำหนดการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศออกไปอีก สัปดาห์จนถึงวันที่ 15 ธ.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังประเมินความเสี่ยงของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอไมครอน


·         นายสเตฟาน บันเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโมเดอร์นา เตือนว่า วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอไมครอน


·         น้ำมันดิบร่วงหลังมีรายงานความไม่แน่นอนเรื่อง Omicron Covid

น้ำมันดิบ Brent ปรับลง 1.82 เหรียญ หรือ -2.5% ที่ 71.62 เหรียญ/บาร์เรล

น้ำมันดิบ WTI ปรับลง 1.61 เหรียญ หรือ -2.3% ที่ 68.34 เหรียญ/บาร์เรล

 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวกว่า 12% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา จากกระแส Omicron ที่จุดประกายโอกาส Lockdown และอาจกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน


·      Dow Futures พลิกกลับมาแดนลบ ดิ่งกว่า 400 จุด จากความไม่แน่นอนของ Omicron


Dow Futures ร่วง 424 จุด หรือ -1.21%

S&P 500 Futures ปรับลง -1.12%

Nasdaq  100 Futures ปรับลง -0.57%

 

ทั้งนี้ CEO จาก Moderna ระบุกับ Financial Times มองว่าวัคซีนที่มีอยู่อาจให้ประสิทธิภาพในการต้านสายพันธุ์ใหม่ได้เพียงเล็กน้อย และอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนในกทรพัฒนาและขนส่งวัคซีนที่มีประสิทธิภาพต้าน Omicron โดยเฉพาะ



·         หุ้นฮ่องกงดิ่งกว่า 2% ท่ามกลางหุ้นเอเชียร่วงรับกังวล Covid สายพันธุ์ใหม่ ด้านน้ำมันทรุด 2%



อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนต.ค. 64 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัว หลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด ประกอบกับการส่งออกเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

 

อีกทั้งปัญหา Supply Disruption ทยอยคลี่คลายตามสถานการณ์การปิดโรงงานในไทยและการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตบางประเภท อย่างไรก็ดี การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และตู้คอนเทนเนอร์ยังยืดเยื้อ และกดดันภาคการผลิตและการส่งออกต่อเนื่อง


อ้างอิงจากสำนักข่าวเดลินิวส์

ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ติดตามประเด็นการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด โอไมครอน (Omicron)อย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องขอรอดูข้อมูลอีกครั้ง ถึงจะประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย เพราะในตอนนี้ยังมีข้อมูลไม่ชัดเจน

 

ทั้งนี้ในปัจจุบัน ธปท.ได้คาดการณ์เศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ของปี 64 ไว้ที่ขยายตัว 0.7% และปี 65 จีดีพีจะขยายตัว 3.9% ซึ่งยังประเมินไม่ได้ถึงผลกระทบ แต่ถ้าดูในปีนี้ซึ่งเหลืออีกแค่ เดือนคือเดือนธ.ค. และเศรษฐกิจไตรมาส ออกมาดีกว่าตลาดคาด ทำให้ผลกระทบจากโอไมครอนอาจไม่ได้เยอะมาก แต่จะเป็นปี 65 ที่จะได้รับผลกระทบชัดเจน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com