• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2564

    8 ธันวาคม 2564 | Gold News



ทองคำปรับขึ้น ท่ามกลางเทรดเดอร์ที่จับตาข้อมูลเงินเฟ้อและประชุมเฟด

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.2ที่ 1,782.39 เหรียญ  

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิด +0.3% ที่ 1,784.70 เหรียญ

 

·         นักวิเคราะห์อาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ดูเหมือนจะเล็งเห็นการเคลื่อนไหวในสภาวะสะสมพลังเวลานี้ ซึ่งตลาดอาจจับตาไปยังการประชุมเฟดระหว่าง 14-15 ธ.ค. นี้ด้วย ขณะที่นักลงทุนกำลังมองหาความชัดเจนเพิ่มเติมในสภาวะที่ตลาดไม่แน่นอนจาก Omicron ระบาด

 

·         นักลงทุนกลับมามีท่าทีระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น โดยติดตาม 2 ปัจจัยหลัก

1) ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ

2) ประชุมเฟด 14 – 15 ธ.ค.

 

·         นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า การพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่าง “ไบเดน” และ “ปูติน” ผู้นำของสหรัฐฯและรัสเซีย กำลังเป็นที่สนใจของตลาดใกล้ชิด เพราะดูจะสร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองมากยิ่งขึ้น จึงอาจกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ แต่ราคาก็อาจปรับตัวลดลงได้ หากสาถนการณ์ระบาดของ Omicron ไม่ได้เลวร้าย

·         นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวกับ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ว่า ชาติตะวันตกมีความกังวลเรื่องการรุกรานยูเครนของรัสเซีย พร้อมเตือนถึงการใช้บทลงโทษต่อเศรษบกิจและมาตรการอื่นๆอย่างแข็งกร้าว เพื่อลงโทษรัสเซียที่เป็นคนก่อความเริ่มต้นความขัดแย้งทางทหาร

·         ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้น และดอลลาร์แข็งค่าจำกัดการปรับขึ้นของทองคำ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ Omicron ที่บรรเทาลง หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดของสหรัฐฯ กล่าวกับ CNN ว่า ไม่มีแนวโน้มที่ Omicron จะมีระดับความรุนแรงมากในเวลานี้

 

·         แพลทินัมปิด +1.7ที่ 953.06 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด +0.5ที่ 1,845.45 เหรียญ

·         ซิลเวอร์ปิด +0.6ที่ 22.49 เหรียญ

 

·         สถาบันที่ปรึกษา Metals Focus คาดราคาเฉลี่ยทองคำ, ซฺลเวอร์ และแพลทินัมในปีหน้าจะค่อนข้างใกล้เคียงกับระดับการเคลื่อนไหวในปี 2021 ขณะที่พลาเดียมมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลดลง
นอกจากนี้ ยังอาจเผชิญปัญหา
 Oversupply ในกลุ่มโลหะมีค่าทั้งหมดได้ ยกเว้น “ซิลเวอร์”


·         ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของ Omicron Covid-19 กำลังผ่อนคลายลง ประกอบกับการใช้มาตรการสนับสนุนของจีน ทีดู่จะช่วยหนุนความต้องการค่าเงินสกุลสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆให้แข็งค่าขึ้น นำโดย ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์

 

·         ตลาดหุ้นทั่วโลกและราคาน้ำมันขยับขึ้น ท่ามกลางนักลงทุนที่ลดการถือครองค่าเงิน Safe-Haven และพันธบัตรตต่างๆ โดยตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจากรายงานของแอฟริกาใต้ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ดูเหมือนการระบาดของ Omicron จะมีเพียงการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

·         ดัชนีดอลลาร์ทรงตัว แต่ปิดแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย 0.1ที่ 96.378 จุด ซึ่งก็ถือเป็นระดับสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์

 

·         ตลาดให้ความสนใจกับยอดดุลการค้าสหรัฐฯที่ดูจะเห็นยอดขาดดุลแคบลงต่อในเดือนต.ค. โดยที่ยอดส่งออกมีการปรับขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรับการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาสนี้

 

·         ปอนด์ยังแกว่งตัวใกล้ต่ำสุดของปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าบีโออีจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้าหรือไม่

ค่าเงินปอนด์ทรงตัวที่ 1.326 ดอลลาร์/ปอนด์ แกว่งตัวไม่ห่างจากระดับอ่อนค่ามากสุดของปีนี้ที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้วต่ำกว่า 1.32 ดอลลาร์/ปอนด์

อย่างไรก็ดี หากบีโออีสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 16 ธ.ค. ก็อาจกระตุ้นให้นักลงทุนทำการปิดสถานะ
 Short ในค่าเงินปอนด์ได้

 

·         Money Markets กำลังประเมินถึงโอกาส 50% ที่บีโออีอาจขึ้นดอกเบี้ยได้ 0.15% ในสัปดาห์หน้า จากเดิมที่มองโอกาส 70% ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน

·         ยอดส่งออกสหรัฐฯเพิ่มต่อทำสูงสุดประวัติการณ์ ช่วยลดยอดดุลการค้าเดือนต.ค. และดูจะเห็นการค้าที่เพิ่มขึ้นหนุนเศรษฐกิจจีดีพีไตรมาสนี้เป็นครั้งแรกรอบกว่า 1 ปี

ขณะที่รายงานจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ยอดนำเข้าสหรัฐฯเองก็มีการเพิ่มขึ้นทำ All-Time High และยังเห็นความแข็งแกร่งมากขึ้นในตลาดแรงงาน ควบคู่กับค่าใช้จ่ายผู้บริโภคก็ยังอยู่ระดับสูง รวมถึงกิจกรรมภาคบริการและการผลิตที่เติบโตได้ดี สะท้อนถึงอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วมากขึ้นในปี

Gap ของการค้าลดลงไป 17.6% ทำให้ยอดขาดดุลการค้าลดลงมาทำต่ำสุดรอบ 6 เดือนที่ 6.71 หมื่นล้านเหรียญ และอัตราเปอเซ็นต์ดังกล่าวยังเป็นการปรับตัวลดลงที่มากสุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2015 สะท้อนว่า มีเม็ดเงินเฟไหลเข้าสู่หมวดสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ช่วยขจัดอุปสรรคที่ได้รับช่วง Covid-19 ระบาด

·         ค่าใช้จ่ายด้านแรงงานสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนเงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูง

 

·         สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะลงมติแผนเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และการจำกัดการขยายการกู้ยืมรัฐบาลที่อยู่ที่ 28.9 หมื่นล้านเหรียญ

·         เศรษฐกิจฝรั่งเศสไตรมาสที่ 4 ขยายตัวต่ำกว่า 0.75%

·         CDC ชี้ สายพันธุ์ Omicron Covid ระบาดไปทั่ว 50 ประเทศ และพบการติดเชื้อในสหรัฐฯ 19 รัฐฯ ขณะที่อัตราการฉีดบูสวัคซีนในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นทำ All-Time High

·         จีนตำหนิสหรัฐฯที่บอยคอตทางการทูตในการจัดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปีหน้า

·         ไบเดน เตือน ปูติน ให้ระวัง “การคว่ำบาตร” และสหรัฐฯพร้อมให้ความช่วยเหลือทางทหารกับทางยูเครน หากพบว่ารัสเซียมีการรุกราน

 

·         จีดีพีญี่ปุ่นหดตัวลง -3.6ในไตรมาสที่ 3/2021 ออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ในช่วงต้น

 

·         Reuters Tankan เผย เชื่อมั่นผู้ผลิตญี่ปุ่นปรับขึ้นทำสูงสุดรอบ 4 เดือนในเดือนธ.ค.

·         ส่งออกไต้หวันในเดือนพ.ย. ทำสูงสุดประวัติการณ์ ส่งผลให้แนวโน้มสิ้นปีนี้สดใส 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com