• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 15 ธันวาคม 2564

    15 ธันวาคม 2564 | Gold News



ทองคำปรับตัวลดลงกว่า 1จากกระแสเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด


·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.9% ที่ 1,771.66 เหรียญ

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิด -0.9% ที่ 1,772.30 เหรียญ


·         ราคาทองคปรับตัวลดลงไปกว่า 1% เมื่อวานนี้ หลังจากทราบรายงานดัชนี PPI สหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นก่อนประชุมเฟด สะท้อนโอกาสอาจเห็นเฟดนำไปพิจารณาตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

 

·         ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายสินค้าโลหะมีค่าจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตที่ปรับสูงขึ้นเกินคาด ตอกย้ำเงินเฟ้อยังคงอยู่ระดับสูงต่อเนื่อง และทองคำดูจะได้รับอานิสงส์ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แต่ในขณะดียวกันสัญญาณเงินเฟ้อที่ร้อนแรงก็อาจหมายถึง “โอกาสการขึ้นดอกเบี้ย” ของเฟดที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้นได้

 

·         ปัจจัยลบหลักต่อตลาดทองคำ
- ดัชนีราคาผู้ผลิต 
(PPI) สหรัฐฯ ดีเกินคาด ขยายตัวได้ 0.8% ในเดือนพ.ย.  หนุนภาพรายปีแตะ 9.6% สูงสุดตั้งแต่พ.ย. ปี 2010

ด้านดัชนี
 Core PPI รายเดือนขยายตัวได้ 0.7% แต่รายปีทะยานสูง 7.7%



กองทุน SPDR กลับมาขายทองคำออกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ

โดยเมื่อวานนี้ขายออก 2.04 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ 980.60 ตัน ส่งผลให้ภาพรวมเดือนธ.ค. มีการขายทองคำออกแล้วสุทธิ 12.25 ตัน

นับตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน กองทุน SPDR มีการเทขายทองคำออกแล้วสุทธิ 190.14 ตัน



ราคากลุ่มโลหะมีค่าปิดร่วง


ซิลเวอร์ปิด -1.9% ที่ 21.89 เหรียญ


แพลทินัมปิด -1.2
ที่ 918.45 เหรียญ


พลาเดียมปิด -3.3
% ที่ 1,626.85 เหรียญ หลังไปทำต่ำสุดตั้งแต่มี.ค. ปีที่แล้วบริเวณ 1,579.01 เหรียญ


- ดอลลาร์แข็งก่อนทราบประชุมเฟดกับอีซีบี ท่ามกลางความแตกต่างด้านการดำเนินนโยบายการเงิน โดยดัชนีดอลลาร์ปิด +0.2
% ที่ 96.552 จุด ขณะที่ยูโรปิด -0.2ที่ 1.1256 ดอลลาร์/ยูโร

·         นักวิเคราะห์จาก UBS ชี้ ตลาดกำลังให้ความสนใจประชุมเฟดวาระนี้ ว่าจะมีท่าทีตอบรับกับข้อมูลเงินเฟ้ออย่างไร


·         
เฟดเริ่มต้นประชุม 2 วันนี้ โดยตลาดค่อนข้างคาดหวังจะเห็นการประกาศเร่งดำเนินการลด QE  เร็วๆนี้ รวมถึงอาจเห็นโอกาสที่เฟดจะกล่าวถึงการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ภายในปีหน้า

 

·         นักวิเคราะห์จาก FXTM กล่าวว่า เฟดอาจมีการเพิ่มโอกาสการทำ Tapering QE และมีแนวโน้มที่อาจเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ท่ามกลางดอลลาร์ที่แข็งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นจากกระแสคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

 

·         เฟดถูกคาดหวังว่า อาจเห็นสัญญาณการดำเนินการครั้งใหญ่ ในการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก

รายงานจาก CNBC ระบุว่า ถูกคาดว่าอาจมีการประกาศครั้งใหญ่ในการประชุมวาระนี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินนโยบาย และอาจเห็นความชัดเจนของการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในปหน้าด้วย

ภาพรวมตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดน่าจะเร่งการถอน
 QE และอาจเปลี่ยนแปลงกำหนดการสิ้นสุด QE จาก มิ.ย. มาเป็น มี.ค. แทนได้ พร้อมกับคาดหวังว่าเฟดอาจมีการ “เปิดเผยครั้งใหม่” เรื่องโอกาสขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 2 – 3 ครั้งในปี 2022 และอาจเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยได้อีก 3 – 4 ครั้งในปี 2023  ( คาดการณ์เดิม เฟดไม่ได้ระบุถึงโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยปี 2022 )

·         บรรดานักลงทุน เชื่อเฟดจะเร่ง Tapering QE และอาจเห็นสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า

รายงานจาก
 Rueters เผยว่า JP Morgan, Morgan Stanley Citi และ NatWest รวมถึงตลาดต่างๆ เริ่มประเมินโอกาสเฟดจะสิ้นสุด QE เร็วขึ้นในเดือนมี.ค. แทนมิ.ย. หลังจากที่เริ่มประกาศจะลด QE ตั้งแต่เดือนพ.ย. ที่ผ่านมา

Fed Funds Rate สะท้อนโอกาสกว่า 90% ที่อาจเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25ในการประชุมเดือนพ.ค. ปีหน้า ขณะที่นักลงทุนบางส่วนก็มองว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยได้มาก 2 – 3 ครั้งในปี 2022

ทั้งนี้ เราจะได้รับทราบผลประชุมในช่วงเวลา 02.00 น. (ตามเวลาไทย) และจากนั้นนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด จะมีแถลงการณ์โดยสรุปหลังจากนั้นประมาณช่วง 02.30 น. (ตามเวลาไทย)

 

·         สำหรับตลาดให้ความสำคัญกับประชุมของอีซีบี, บีโออี และบีโอเจ ที่มีกำหนดการในการประชุมสัปดาห์นี้เช่นกัน

·         ตลาดเชื่อว่า อีซีบีน่าจะยังคงแผนการสิ้นสุด QE วงเงิน 1.85 ล้านล้านยูโรภายในช่วง มี.ค. ปีหน้า


·         Dogecoin ปรับขึ้นกว่า 20% หลังจากที่ นายอีลอน มัสก์ CEO ของ Tesla เผยว่า ทางบริษัทจะยอมรับการนำค่าเงินดังกล่าวมาชำระค่าสินค้าและบริการ

 

·         วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายขยายวงเงินเพดานหนี้ เตรียมส่งต่อสภาผู้แทนราษฎรก่อนกำหนดเส้นตาย

ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ ขยายวงเงินเพดานหนี้สหรัฐฯออกไปอีก 2.5 ล้านล้านเหรียญ สู่ระดับ 31.4 ล้านล้านเหรียญ 

·         ข้อมูลการผลิตของยูโรโซนขยายตัวขึ้นในเดือนต.ค. แตะ 1.1% เมื่อเทียบรายเดือน และเมื่อเทียบปีขยายตัวได้ 3.3% ท่ามกลางต้นทุนและสินค้าคงทนที่อยู่ในเกณฑ์ดี

 

·         IMF เตือนธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ให้หลีกเลี่ยงการทำอะไรตามภาวะ Bias ต่อประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับสภาวะเงินเฟ้อสูง

 

·         จ้างงานอังกฤษแกร่ง หนุนโอกาสบีโออี ขึ้นดอกเบี้ย

 

·         ธนาคารกลางชิลีตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยจาก 2.75สู่ระดับ 4และมีแนวโน้มคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น จากสภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการต่อสู้กับเงินเฟ้อ

 

·         ผู้เชี่ยวชาญ มอง การเยือนนานาประเทศของรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีนที่กำลังเพิ่มมากขึ้น

 

·         COVID-19 UPDATES:


ยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกเพิ่มสูงกว่า 600,000 รายในวันเดียว ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมเวลานี้แตะ 271.70 ล้านราย ขณะที่เสียชีวิตจากโควิดสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 5.33 ล้านราย และรักษาหายอยู่ที่ 244.19 ล้านราย

 

·         WHO ชี้ Omicron ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ Covid ชนิดอื่นๆ

 

·         CDC เผย การระบาดของ Omicron ในสหรัฐฯ ส่งผลให้ยอดติดเชื้อในสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้นเกือบ 3ขณะที่กว่า 97ที่พบการติดเชื้อมาจากสายพันธุ์ Delta อยู่ในเวลานี้

 

·         สถานการณ์ในไทยวันนี้ พบติดเชื้อเพิ่ม 3,370 ราย เสียชีวิตอีก 29 ราย



ขณะที่รายงานจาก ศบค. วานนี้ พบไทยตรวจเจอ "โอไมครอน" 11 ราย ยืนยันผู้ติดเชื้อ 8 ราย มาจากต่างประเทศทั้งหมด และมติ ศบค. จะมีการปรับมาตรการเข้าไทย ตั้งแต่ 16 ธ.ค. เข้มคัดกรองโควิดโอมิครอน

 

·         กรมการแพทย์คาดไทยเจอ ‘โอไมครอน’ หลังปีใหม่-กลาง ม.ค.65 ชี้ติดง่าย แพร่เร็ว

 

·         ธนาคารโลกเผยไทยมีคนจนเพิ่ม 1.6 แสนคนหลังโควิด จีดีพีปีนี้โต 1%
ธนาคารโลกชี้ปี 2564 ไทยมีคนจนเพิ่มขึ้น 1.6 แสนคน คาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้ขยายตัว 1% ปี 2565 ขยายตัว 3.9% และ 4.3% ในปี 2566 ย้ำรัฐใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทย

 

นอกจากนี้ ยังแนะ เฝ้าระวังโอไมครอนหวั่นระบาดซ้ำ แนะรัฐเร่งหนุนดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และโดยรวมคาดเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเท่าก่อนโควิดได้ในปลายปี 65 ชี้หากโควิดกลับมาระบาดจีดีพีปี 65 อาจติดลบ 0.3% แนะรัฐบาลเร่งหนุนดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทั้งสร้างแรงจูงใจ เกิดการแข่งขัน และพัฒนาทักษะ

 

·         รมว.คลังไทย มั่นใจ เศรษฐกิจไทยปีหน้าโต 4% จ่อคลอดมาตรการกระตุ้นเพิ่ม

 

·         ‘เงินบาท’ วันนี้เปิด’อ่อนค่า’ ที่ 33.42 บาท/ดอลลาร์

กรุงไทย” ชี้วก่อนรู้ผลประชุมเฟด เงินบาทอาจแกว่งตัว Sideways หรือ อ่อนค่าลงได้บ้าง แต่เงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้น หลังผลการประชุมเฟดอาจไม่ได้ Hawkish เท่าที่ตลาดคาดหวังไว้ ทั้องกรอบเงินบาทวันนี้ที่ระดับ 33.40-33.50 บาท/ดอลลาร์


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com