MTS Help Center

ทองคำตลาดโลกขยับขึ้น 0.1% ที่ 1,790.57 เหรียญ

Gold Futures ปรับลง 0.2% ที่ 1,790.60 เหรียญ

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศเมื่อวานนี้ถึงเรื่องของการอาจใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อจำกัดการระบาดของ Omicron หลังจากที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ประกาศกลับมาใช้ภาวะ Lockdown รอบที่ 4  และนานาประเทศในแถบยุโรปมีการพิจารณามาตรการเข้มงวดก่อนคริสมาสต์

ซิลเวอร์ปรับลง -0.1% ที่ระดับ 22.20 เหรียญ

แพลทินัมปรับลง -0.2% แถว 930.72 เหรียญ

พลาเดียมปรับลง -0.1% ที่ระดับ 1,747.46 เหรียญ

·                     Reuters ระบุว่า การระบาดของ Omicron ทั่วโลกก่อให้เกิดการกลับมา Lockdown และการเลื่อนการกลับมาเปิดประเทศ

 

·                     นิวซีแลนด์เลื่อนแผนเปิดพรมแดน ท่ามกลางความกังวล Omicron

·                     ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมุมมองต่อสภาวะ Omicron สดใส และอาจจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

·                     WHO เตือนภาวะการระบาดอย่างรวดเร็วของ Omicron  ที่รวดเร็วกว่า Delta และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว หรือผู้ป่วยที่รักษาอาการหายแล้ว

·                     บรรดาภาคธุรกิจแสดงความเป็นกังวลว่า เกาหลีใต้อาจกลับมาใช้มาตรการเคอร์ฟืวส์อีกครั้ง เพื่อสกัดการระบาดของไวรัส Covid-19 ที่เป็นตัวทำลายเศรษฐกิจและธุรกิจบางส่วน

แนวคิดดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีใต้มีการประกาศใช้มาตรการ Social Distancing จนถึง 2 ม.ค. ประกอบกับการจำกัดการรวมกลุ่มไม่เกิน 4 คน, ข้อบังคับของร้านอาหาร, คาเฟ่ และบาร์ต่าๆง ที่จะปิดในช่วงเวลา 21.00น.

·                     น้ำมันดิบปรับตัวลดลง แต่ตลาดยังกังวลเรื่อง Omicron

ราคาน้ำมันปรับขึ้น แม้ว่านักลงทุนจะยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับ Omicron ที่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก และทำให้นานาประเทศพิจารณาจะคุมเข้มทางการเงินและดูจะเป็นอุปสรรคต่ออสุปงค์พลังงาน

น้ำมันดิบ Brent Futures ปรับขึ้นประมาณ 59 เซนต์ หรือ +0.8% ที่ระดับ 72.11 เหรียญ/บาร์เรล

น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นประมาณ 73 เซนต์ หรือขยับขึ้น 1.1% ที่ระดับ 69.34 เหรียญ/บาร์เรล

·                     หุ้นเอเชียปรับขึ้น แม้หุ้นสหรัฐฯร่วง แต่ตลาดยังสนใจความเสี่ยงเรื่อง Omicron

·                     หุ้นยุโรปรีบาวน์ ท่ามกลางนักลงทุนกังวลโอไมครอน โดยดัชนี Stoxx 600 เพิ่ม 1% ด้านหุ้นทรัพยากรพื้นฐานเพิ่มขึ้น 2.3%  ท่ามกลางตลาดหุ้นทุกภาคส่วนและตลาดหุ้นหลักซื้อขายกันในแดนบวก

·                     อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

 

- ครม.ไฟเขียวของขวัญปีใหม่ ช้อปดีมีคืน ลดภาษีสูงสุด 3 หมื่น ใช้ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 65

- ศูนย์การศึกษาระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย ชี้ ส่งออกไทยปี 65 ขยายตัว 4.8% มูลค่า 275,074 ล้านเหรียญ ท่ามกลางปัญหารุมเร้า ทั้งโอมิครอน ค่าเงินบาท เงินเฟ้อ นโยบาย ZERO COVID ของจีน สงครามการค้า ฯ

ส่วนปัจจัยบวกต่อการส่งออกที่สำคัญคือ1.เศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้ายังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแต่คาดว่าการฟื้นตัวน้อยกว่าปี 64  2. เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า โดยในปี 2564 ค่าเงินบาทไทยอ่อนค่าเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน  3. หลายประเทศมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ครอบคลุมประชากรมากขึ้น4. แนวโน้มความต้องการสินค้าสุขภาพและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อที่มากขึ้น

ขณะที่ปัจจัยลบที่ต้องติดตามคือ 1. การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศจากสายพันธุ์โอมิครอน 2. ปัญหาเงินเฟ้อในประเทศต่างๆ ที่ลดทอนกำลังซื้อของผู้บริโภค 3. นโยบาย Zero Covid ของจีน  4. ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางสูง 5. ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้น 6. ปัญหาการสะดุดของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Disruption)

- สภาอุตสาหกรรมฯ แถลงยอดการผลิตรถยนต์เดือนพ.ย. 64 คาดยอดการผลิตทั้งปีถึงเป้า 1.6 ล้านคัน ภาพรวมมูลค่าส่งออกยานยนต์แตะ 1 ล้านล้านบาท สะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจโลกฟื้น ยังห่วงปัญหาชิพขาดแคลน จับตาการระบาดโควิด-19 โอมิครอน