ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- JPmorgan ยังคงมองว่า ราคาทองและซิลเวอร์มีการดีดตัวในระยะสั้น ในขณะที่ในระยะยาวยังเป็นขาลง
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -4.62 เหรียญ หรือ -0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1820.6 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับตัวลดลง -5.0 เหรียญ หรือ -0.27% มาอยู่ที่ระดับ 1820.1 เหรียญ
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน ปรับตัวลดลง -8.1 เซนต์หรือ -0.35% มาอยู่ที่ระดับ 23.046 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 976.21 ตัน ภาพรวมเดือนมกราคม ซื้อสุทธิ 0.55 ตัน
- Merk Investments ชี้ราคาทองคำจะสามารถทรงตัวระดับราคาได้ดี ไม่ว่าเฟดจะดำเนินการอย่างไรในปี 2022 คาดราคาทองคำที่ยืนเหนือ 1,800 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ และกำลังสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับปี Merk Investments คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ เมื่อพิจารณาถึงอัตราเงินเฟ้อแล้ว จุดยืนในปัจจุบันของธนาคารกลางสหรัฐ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหมายความว่าพวกเขาจะไม่ทนต่ออัตราเงินเฟ้อได้ เและหากธนาคารกลางสหรัฐจริงจังเรื่องเงินเฟ้อ ก็จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 5% หรือ 6% ตามกฎของเทย์เลอร์ ทั้งนี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะผ่อนคลายลงจากการเพิ่มขึ้น 7% ของเดือนที่แล้ว แต่ Merk กล่าวว่าแม้ระหว่าง 3% ถึง 4% ก็ยังสูงเกินไปสำหรับผู้บริโภค
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.13 จุด หรือ -0.13% มาอยู่ที่ระดับ 94.86 จุด
- ค่าเงินบาท ปรับตัวลดลง -0.04 บาท หรือ -0.12% มาอยู่ที่ระดับ 33.22 บาทต่อดอลลาร์
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 เบสิสพ้อยท์ มาอยู่ที่ระดับ 1.706 %
- นางเลเอล เบรนนาร์ด รองประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะเริ่มจัดวางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่สิ้นสุดการเข้าซื้อพันธบัตร (เดือนมีนาคม) เนื่องจากการซื้อพันธบัตรใกล้จะสิ้นสุดลง การขึ้นดอกเบี้ย รวมไปถึงการลดขนาดงบดุลของธนาคารกลาง เราจะทำอย่างโปร่งใส
- บาร์คกิน ประธานเฟดสาขา Richmond กล่าวว่า ยิ่งอัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าหมาย จะทำให้ง่ายต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป
- นางแมรี่ เดลี ประธานและซีอีโอของธนาคารกลางแห่งซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดไม่ต้องการให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไป โดยอธิบายว่าพวกเขาเห็นอัตราเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในเดือนมีนาคม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสูงที่เพิ่มสูงขึ้น ถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มย้ายที่พักบางส่วน และเห็นว่าราคากำลังลดลงเนื่องจากความไม่สมดุลของอุปทานบรรเทาลง
- ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสินค้าจะผ่อนคลายลงเนื่องจากแรงกดดันในห่วงโซ่อุปทานลดลง
- นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธาน Fed สาขาฟิลาเเดเฟีย คาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยสามครั้งในปี 2022 แต่เฟดอาจจะถูกโน้มน้าวให้มีการปรับทั้งหมด 4 ครั้ง และชี้ว่า เมื่อ Fed จบกระบวนการยุติการซือสินทรัพย์ หรือ QE Tapering จากนั้น Fed จึงจะขึ้นดอกเบี้ย และจากนั้นจึงจะเริ่มลดขนาดงบดุลธนาคารกลาง ซึ่งอาจจะเริ่มในช่วงปลายปี 2022 หรือต้นปี 2023
- นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ ให้ความเห็นว่า อาจจะเห็น Fed ขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ และเริ่มขึ้นดอกเบี้ยทันทีตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้
- ประธานธนาคารสาขาที่เห็นด้วยกับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมนี้ มีจำนวนมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ ประธานธนาคารสาขาของ Fed 3 ท่านที่เห็นด้วย ได้แก่ เจมส์ บุลลาร์ด ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์, เอสเทอร์ จอร์จ ประธาน Fed สาขาคันซัสซิตี้, ลอเรทตา เมสเตอร์ ประธาน Fed สาขาคลีฟแลนด์ และครั้งนี้มีผู้เห็นด้วยเพิ่มขึ้นอีก 2 ท่านคือ แพทริก ฮาร์เกอร์ ประธาน Fed สาขาฟิลาเดเฟีย และเลล เบรนนาร์ด รองประธานเฟด รวมเป็น 5 ท่าน
- จากข้อมูลของ CME FedWatch Tool ตลาดกำลังซึมซับข้อมูลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยจะมีการปรับขึ้นราคาในเดือนมีนาคม นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลที่ที่มีขนาดมหาศาลก่อนสิ้นปีนี้
- นักวิเคราะห์ ING มองว่า ดอลลาร์จะปรับฐานเข้าสู่ภาวะที่สมดุลมากขึ้นหลังจากที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งจะทำให้คู่สกุลเงินยูโรดอลลาร์ยังคงต่ำกว่า 1.150 ดอลลาร์ต่อยูโร มองว่าดอลลาร์จะมีการปรับตัวลงแต่จะไม่ปรับลงลึก และยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และอาจเห็นการดีดกลับของค่าเงินดอลลาร์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ตาม (1) แนวทางการนโยบายการเงินของ Fed ที่เข้มงวดขึ้น และ (2) มุมมองของประธานธนาคารสาขาเซนต์หลุยส์ นายเจมส์ บุลลาร์ด ที่มองการขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ คอยหนุนค่าเงินดอลลาร์
- นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo ยังคงมุมมองดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องตลอดปี 2022 จนถึงปี 2023 โดยให้เหตุผลว่า (1) Fed เร่งดำเนินการยุติการซื้อพันธบัตรหรือ QE Tapering (2) การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed มีความชัดเจนว่าจะกำลังเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอน และจากการที่ Fed ยังคงดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้า จึงคาดการณืว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่เงินดอลลาร์อย่างมีนัยยะสำคัญตลอดช่วงทั้งปี
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,113.62 จุด ลดลง 176.70 จุด หรือ -0.49%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,659.03 จุด ลดลง 67.32 จุด หรือ -1.42% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,806.81 จุด ร่วงลง 381.58 จุด หรือ -2.51%
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ที่ 2-8 มกราคม 2022 เพิ่มขึ้น 230,000 ราย มากกว่าสัปดาห์ก่อน 23,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขโดยรวมของผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานทั้งหมดลดลงสู่ระดับ 1.559 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 2 มิถุนายน 1973
- ยอดขาดดุลการคลังสหรัฐขาดดุลน้อยกว่าที่คาด โดยรายงานตัวเลขขาดดุลการคลัง 21,300 ล้านเหรียญในเดือนธันวาคม น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 25,000 ล้านเหรียญ และต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 ทั้งนี้ตลาดการใช้จ่ายภาครัฐมีมูลค่าสูงกว่า 1.43 ล้านล้านดอลลาร์ และรายได้จัดเก็บมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญ
- เฮงดา เรียลเอสเตท กรุ๊ป (Hengda Real Estate Group) บริษัทหลักในเครือของเอเวอร์แกรนด์ บรรลุข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นกู้เพื่อชะลอการชำระเงินออกไปอีก 6 เดือนสำหรับหุ้นกู้จำนวน 4,500 ล้านหยวน หรือประมาณ 707.52 ล้านเหรียญสหรัฐ
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 52 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 82.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 84.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐเพิ่มขึ้น 9.7% ในปี 2021 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการคำนวณดัชนีนี้ครั้งแรกในปี 2010 สำหรับ PPI เดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว ราคาผู้ผลิตสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 0.2% ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนที่ดัชนีเพิ่มขึ้น 1% ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิตประจำเดือนธันวาคม ลดลงเนื่องจากราคาแก๊สโซลีนลดลงไป 6.1% ตามมาด้วยราคาเนื้อสัตว์ ราคาก๊าซหุงต้ม ผักสดและผักอบแห้ง ราคาน้ำมันดีเซล และกลุ่มเคมีภัณฑ์ปฐมภูมิ ก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน
ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19
- Janet Woodcock ผู้อำนวยการ อย. สหรัฐระบุว่า ประชาชนสหรัฐเกือบทั้งหมดจะกลายเป็นผู้ติดเชื้อในที่สุด เนื่องจากเชื้อโอไมครอนมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทาง Anthony Fauci ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า ทุกคนจะได้รับเชื้อโอไมครอนในท้ายที่สุดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว หรือผู้ที่ได้รับเข็มกระตุ้นแล้วก็ตาม เพียงแค่ไม่มีอาการรุนแรงถึงกับต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐคาดการณ์ว่า สหรัฐจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่า 62,000 รายในช่วง 4 สัปดาห์ข้างหน้า
- สหรัฐฯ ได้เข้าซื้อวัคซีนแอสตร้าเซเนกาเพิ่มเติม อีก 500,000 โดส หลังจากที่ก่อนหน้านี้สั่งไป 700,000 โดส โดยทางแอสตร้าเซเนเกามีกำหนดที่จะส่งมอบภายในไตรมาสแรกของปีนี้
- อินเดียพบคนติดโควิดรายใหม่เกือบ 250,000 ราย ยอดสะสมเป็น 36,317,927 ราย
- จีนพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในเมืองต้าเหลียน หวั่นส่งผลห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกสะดุด
- ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริสทอล แอโรซอล แสดงว่า ไวรัสโควิดสูญเสียความสามารถในการแพร่เชื้อหลัง 20 นาทีหลังเข้าสู่อากาศ และเสียความสามารถส่วนใหญ่หลังสัมผัสอากาศใน 5 นาทีแรก
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ประเมินว่า มีประชาชนประมาณ 4.3 ล้านคนที่กักตัวในบ้านจากติดเชื้อโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นจาก 3.7 ล้านคนในสัปดาห์ก่อนหน้า และมากเป็นสถิติใหม่
- สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กว่า 90% ของผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไปในสหราชอาณาจักรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดสแรกแล้ว และกว่า 83% ได้รับวัคซีน 2 โดสแล้ว ขณะที่กว่า 62% ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์หรือวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดส 3 แล้ว