• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 19 มกราคม 2565

    19 มกราคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.


  • ราคาทองคำตลาดโลก  ปรับตัวลดลง -5.14 เหรียญ หรือ -0.28% มาอยู่ที่ระดับ 1813.92 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange)  ปรับตัวลดลง -5.1 เหรียญ หรือ -0.28% มาอยู่ที่ระดับ 1813.6 เหรียญ
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน ปรับตัวขึ้น 45.1 เซนต์หรือ 1.96% มาอยู่ที่ระดับ 23.471 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 976.21 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ซื้อสุทธิ 0.55 ตัน


  • นักวิเคราะห์จาก TD Securities มีมุมมองเชิงลบต่อทองคำ จากเฟดส่งสัญญาณนโยบายการเงินเข้มงวดและตลาดเองก็คาดหวังว่าเฟดกำลังจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีน่าคมนี้  และคาดหวังเฟดจะลดขนาดงบดุลธนาคารกลางภายในปีนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนลดการถือสถานะ long พร้อมเพิ่มสถานะ short

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.47 จุด หรือ 0.49% มาอยู่ที่ระดับ 95.73 จุด
  • ค่าเงินบาท ปรับตัวลดลง -0.001 บาท หรือ -0.003% มาอยู่ที่ระดับ 33.094 บาทต่อดอลลาร์
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.061 มาอยู่ที่ระดับ 1.879 %


  • นักลงทุนเตรียมรับมือกับความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ risk premium พุ่งสูงขึ้น และผลักดันอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี หรือ Bond Yield ดีดขึ้นไปแตะ 1.85% ทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 2 ปี ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น  จากการคาดว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนมีนาคม


  • นักวิเคราะห์จาก OCBC ระบุว่า ค่าเงินบาทได้รับประโยชน์จากพัฒนาการเชิงบวก จากการที่รัฐบาลไทยเร่งพิจารณานำมาตรการ Test&Go กลับมาดำเนินการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก OCBC ประเมินว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจเพียงส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรในเงินบาทชั่วคราว และยังไม่มีสัญญาณใดที่ชี้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศในจำนวนมากเพียงพอที่จะทำให้ประคองเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง


  • นักวิเคราะห์ Wells Fargo ประเมินว่า ในการประชุมเฟดเดือนมกราคมที่จะถึง น่าจะเห็นเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม โดยคาดการณ์จะมีการระบุว่า คำกล่าวปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนมีนาคมนี้ จะถูกเขียนลงในคำแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด หลังการประชุมรอบเดือนมกราคมนี้


  • นักวิเคราะห์จาก Rabobank ระบุว่า การตอบคำถามล่าสุดของประธานเฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่า เฟดพร้อมที่จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม โดยการประชุมเฟดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 25-26 มกราคม จะยังไม่มีการพูดถึงเกี่ยวกับแผนงานเศรษฐกิจ มีเพียงถ้อยแถลงตามพิธีและการแถลงข่าวต่อสื่อเท่านั้น พอใกล้ถึงสัปดาห์การประชุมเดือนมีนาคม นาย Powell จะเริ่มกล่าวย้ำแสดงความเห็นถึงการต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อชักจูงตลาด ต่อสาธารณะ และผู้กำหนดนโยบาย ว่า ณ ขณะนี้เฟดกำลังกังวลกับการจัดการภาวะเงินเฟ้ออย่างหนัก นอกจากนี้ การแถลงข่าวหลังการประชุมเฟดวันที่ 26 มกราคม นาย Powell อาจเผยว่าจะมีหารือเรื่องบัญชีงบดุล และอาจเห็นรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้ในรายงานการประชุมที่จะออกมาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์


  • ธนาคารกลางจีน ให้คำมั่นว่าจะใช้เครื่องมือการเงินมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติการชำระหนี้ ซึ่งมีสัญญาณอันตรายจากภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ และจะออกมาตรการเพื่อช่วยให้การเติบโตของเศรษฐกิจมีเสถียรภาพและเป็นการดำเนินการเชิงรุก อย่างไรก็ตาม ช่องว่างนโยบายการเงินในการลดระดับ RRR หรืออัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ แคบลงเป็นข้อจำกัด ในขณะที่คาดระดับหนี้สินจะทรงตัวในปี 2022

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุด เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยกำไรลดลงในไตรมาส 4/2564 ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,368.47 จุด ลดลง 543.34 จุด หรือ -1.51%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,577.11 จุด ลดลง 85.74 จุด หรือ -1.84% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,506.90 จุด ลดลง 386.86 จุด หรือ -2.60%


  • ดัชนีภาคการผลิตในนิวยอร์คของสหรัฐออกมาที่ระดับ  -0.70 ในเดือนมกราคม ต่ำกว่าการคาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาที่ 25.70 และลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ตัวเลขอยู่ที่ระดับ 31.90 ทำให้ตัวเลขดัชนีดังกล่าวต่ำสุดตั้งนับแต่เดือนมิถุนายน 2020


  • ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐกำลังเผชิญกับปัญหา เช่น ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน การขาดแคลนพนักงานเป็นระยะ และจำนวนลูกค้าที่ลดลง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอน


  • SCB EIC คาดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทย ในช่วงครึ่งแรกของปี 65 ยังทรงตัวสูง คาดว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนในช่วงครึ่งแรกของปี 65 นี้ จะอยู่ในช่วง 89.5-90.5% ต่อ GDP ก่อนที่จะทยอยปรับลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้เป็นต้นไป หลังการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเบาบางลง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังมีรายงานว่ากลุ่มกบฏฮูตีได้ก่อเหตุโจมตีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 85.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2557
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 87.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2557


  • นักวิเคราะห์จาก ANZ Research ระบุว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นใหม่ ตอกย้ำสัญญาณว่าตลาดน้ำมันจะตึงตัวต่อไป


  • เยอรมนีเผยไม่สามารถขัดขวางการใช้นอร์ด สตรีม 2” ซึ่งเป็นท่อส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปตะวันตก มีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ได้แก่ ยูเครนและสหรัฐ ให้เหตุผลว่า โครงการนี้จะทำให้ยุโรปต้องพึ่งพารัสเซียมากเกินไป หากจำเป็น ทั้งนี้ปัจจุบัน ท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ด สตรีม 2 ได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างรออนุมัติเพื่อเปิดดำเนินการ 


  • นักกลยุทธ์จาก RBC Capital Market ชี้ว่า ทิศทางราคาน้ำมันยังคงมีทิศทางเชิงบวก จาก (1) อุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น (2) ปริมาณน้ำมันสำรองที่หดตัวลง (3) ยังมีข้อสงสัยในความสามารถปรับขึ้นกำลังการผลิตน้ำมันของ OPEC

 

ข่าวเกี่ยวกับเงินเฟ้อ


  • จากการสำรวจธนาคารกลางแคนาดา พบว่า หลายบริษัทมองว่าปัญหาแรงงานขาดแคลนจะรุนแรงขึ้น และยังคงมีแรงกดดันค่าแรงปรับสูงขึ้น จากภาวะอุปสงค์ที่แข็งแกร่งกับปัญหาคอขวดในอุปทาน สร้างแรงกดดันเงินเฟ้อตลอดทั้งปี บริษัทวางแผนปรับขึ้นค่าแรงเพื่อดึงดูดแรงงานพร้อมขยายแผนการลงทุน ทั้งนี้ อัตราความคาดหวังเงินเฟ้อยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง


  • ค่าขนส่งทางทะเลยังคงคาดว่าทรงตัวอยู่ระดับสูงในปี 2022 เหล่านักเศรษฐศาตร์เตือนอาจกดดันภาวะเงินเฟ้อสูงต่อ ค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดที่ 20,000 เหรียญในปี 2021 ปรับขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ระดับ 2,000 เหรียญ และปัจจุบันทรงตัวระดับ 14,000 เหรียญ ปัญหาจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่จำกัด และท่าเรือที่หนาแน่น ทำให้ปริมาณการขนส่งทำได้จำกัด กิจการขนาดเล็กได้รับผลกระทบหนัก ในขณะที่กิจการขนาดใหญ่เช่นวอลมาร์ทสามารถต่อรองราคาลงจากการส่งสินค้าปริมาณมาก

 

ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19


  • อิสราเอลเปิดเผยผลการทดลองฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สี่ไม่เพียงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้

 

 

ที่มาจาก :  CNBC, Reuters, Bloomberg, FXstreet, Infoquest, Kitco, Guardian

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com