ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ แต่เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซียยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 0.34 เหรียญ หรือ 0.02% มาอยู่ที่ระดับ 1838.76 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับตัวขึ้น 0.5 เหรียญ หรือ 0.03% มาอยู่ที่ระดับ 1839.3 เหรียญ
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน ปรับตัวขึ้น 28.9 เซนต์หรือ 1.2% มาอยู่ที่ระดับ 24.379 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 0.58 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 980.86 ตัน ภาพรวมเดือนมกราคม ซื้อสุทธิ 5.2 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.26 จุด หรือ 0.27% มาอยู่ที่ระดับ 95.77 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.021 มาอยู่ที่ระดับ 1.852 %
- นักวิเคราะห์จาก Scotiabank คาดการณ์เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ และคาดการณ์ปีนี้ จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 175 เบสิสพ้อยหรือ 1.75% พร้อมคาดการณ์ อัตราเงินเฟ้อจะยังคงทรงตัวในระดับสูงไปจนถึงปี 2023 ถึงแม้ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเป็นไปตามที่คาดก็ตาม
- หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยน จากธนาคารวาณิชธนกิจ มอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์อาจทำจุดพีคปีนี้ ทางธนาคารเปลี่ยนมุมมองต่อค่าเงินดอลลาร์จะมุมมองเชิงบวกเป็นมุมมองที่เป็นกลาง หมายถึง มองว่าค่าเงินดอลลาร์จะแกว่งตัวออกด้านข้างจากจุดนี้ หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มิถุนายนในปีก่อนหน้า จากการที่เฟดบ่งชี้ว่าใกล้จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้ธนาคารมองว่าการที่เฟดเริ่มขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นจุดจบของการปรับตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวขึ้นในเดือนก่อนเฟดขึ้นดอกเบี้ย และปรับตัวลดลงหลังขึ้นดอกเบี้ย เป็นตัวอย่างของการซื้อตามข่าวลือและขายเมื่อเกิดข้อเท็จจริง(Sell on fact)
- ในรายงานการประชุม ECB รอบเดือนธันวาคม มีการระบุคำเตือนว่า ไม่สามารถเพิกเฉยโอกาสเกิดกรณีเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน แม้ว่าปัจจุับนสมาชิกจะประเมินว่า ในปัจจุบันและระยะสั้นๆข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อจะถูกขับเคลื่อนจากปัจจัยชั่วคราวซึ่งคาดว่าจะคลี่คลายลงในปี 2022 อย่างไรก็ตาม ECB ก็มความพร้อมที่จะดำเนินการหากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงยืดเยื้อ ไม่กลับเข้าสู่ระกับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2% ได้ทันเท่าที่ ECB คาดการณ์ไว้
- หลังจากที่สกุลเงินยูโรปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ นักวิเคราะห์จาก Credit Agricole ระบุว่ามีความเสี่ยง 4 ประเด็นที่กระทบต่อค่าเงินยูโร 1) ด้านการเมือง ที่จะมีการเลือกตั้งในอิตาลีและฝรั่งเศส 2) ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่กระทบต่อราคาน้ำมัน 3) โรคระบาด ที่ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อในช่วงที่ยูโรโซนยังต้องนำเข้าพลังงานจากสหรัฐ 4) การตัดสินใจของเฟด ในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อ US ดอลลาร์และค่าเงินยูโร
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุด โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนส่งคำสั่งขายเข้ามาในช่วงท้ายตลาด อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,715.39 จุด ลดลง 313.26 จุด หรือ -0.89%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,482.73 จุด ลดลง 50.03 จุด หรือ -1.10%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,154.02 จุด ลดลง 186.23 จุด หรือ -1.30%
- ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน กล่าวว่า เขาไม่พร้อมทำจะยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน แม้ว่าบรรดาภาคธุรกิจในสหรัฐจะเรียกร้องให้ลดภาษีดังกล่าว
- ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมอายุหนึ่งปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ลง 10 เบสิสพ้อยสู่ระดับ 3.8% จากเดิม 3.7% โดยก่อนหน้านี้ในเดือนธันนวาคมปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนปรับลดดอกเบี้ยนโยบายแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกตั้งแต่ เดือนเมษายน ปี 2020
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 286,000 ราย นับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ตุลาคม ปีที่ผ่านมา จากสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 231,000 ราย บ่งชี้ว่าชาวอเมริกันจำนวนมากตกงานเมื่อสิ้นปี 2021 ทั้งนี้การขอรับสวัสดิการว่างงาน ยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนหน้าของการระบาดของไวรัส Covid-19 โดยผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานทั้งหมด ได้พุ่งขึ้นไปสูงถึง 6 ล้านคนในช่วงปลายเดือน มี.ค. ปี 2020 แต่จำนวนได้ลดลงมาระดับก่อนช่วงเกิดไวรัส เนื่องจากเศรษฐเริ่มฟื้นตัวและประชาชนได้รับวัคซีน
- นักวิเคราะห์เครดิตอาวุโสจาก CreditSights กล่าวว่า ภาคการส่งออกจะเป็นปัจจัยที่สำคัญของการเติบโตของเศณษฐกิจจีนในปี 2022 ในขณะที่การบริโภคภายในประเทศจะชะลอตัวลง
- สำนักงาน AP ระบุว่า หากยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานยังคงสูงขึ้นมากกว่า 250,000 ตำแหน่ง อาจขัดขวางความคิดของสมาชิกเฟดที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้
ข่าวเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
- อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนรายปีประจำเดือนธันวาคมออกมา 5.0% จาก 4.9% ในเดือนพฤศจิกายน นับเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันคือราคากลุ่มพลังงานปรับตัวสูงขึ้น 25.9% ต่อปี
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและรัสเซียยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 86.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 88.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 2,100,000 บาร์เรล
- ผู้อำนวยการสำนักข่าวกองกลางสหรัฐระบุว่า เยอรมนีควรยุติโครงการ Nord Stream 2 (หากโครงการนี้สำเร็จจะส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย 55 พันล้านคิวบิคเมตรผ่านเยอรมนีเพื่อส่งไปยังประเทศยุโรปตะวันตกอื่น ๆ) เนื่องจากเหตุการณ์ที่รัสเซียมีการคุกคามยูเครน
- นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Bloomberg Intelligence ชี้ว่า หากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นต่อ จะบีบให้เฟดต้องดำเนินการเพื่อต้อสู่กับอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้ยังให้ความเห็นว่า การที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นยังเป็นสัญญาณของการขายสินทรัพย์เสี่ยง จากการที่เฟดต้องจดจ่อกับการสู้กับเงินเฟ้อ จึงเป็นการยากที่เฟดจะสนับสนุนตลาดในเวลาเดียวกัน
ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19
- WHO รายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่รายสัปดาห์ในแอฟริกาลดลง 20% ยอดผู้เสียชีวิตลดลง 8% นับเป็นยอดที่ลดลงครั้งแรกตั้งแต่ที่มีการระบาดของเชื้อโอไมครอน อย่างไรก็ตาม มีชาวแอฟริกันเพียง 10% ที่ได้รับวัคซีนครบโดส จากประชากร 1,200 ล้านคน โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมด 234,913 ราย จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 10.5 ล้านราย
- เยอรมนีรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจำวันพุธทำจุดสูงสุดอีกครั้งที่ 133,536 ราย โดยครั้งนี้ทำ new high ติดต่อกันเป็นวันที่สอง
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- สหรัฐยืนยันว่า หน่วยข่าวกรองชาวรัสเซียกำลังว่าจ้างเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ของยูเครนเพื่อเข้าควบคุมรัฐบาลยูเครนในเมืองเคียฟและร่วมมือกับกองกำลังรัสเซีย โดยหน่วยงานสหรัฐ OFAC ได้ออกบทลงโทษเจ้าหน้าที่ยูเครนสองคน และอดีตเจ้าหน้าที่ยูเครนสองคนเป็นที่เรียบร้อย
ที่มาจาก : Reuters, Bloomberg, FXstreet, Infoquest, Kitco, The Guardian