ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 1,854.2 เหรียญต่อออนซ์ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ และการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 5.74 เหรียญ หรือ 0.31% มาอยู่ที่ระดับ 1,849.3 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับตัวขึ้น 5.8 เหรียญ หรือ 0.31% มาอยู่ที่ระดับ 1,849.5 เหรียญ
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน ปรับตัวลดลง -6.1 เซนต์หรือ -0.25% มาอยู่ที่ระดับ 23.889 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 4.65 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,013.1 ตัน ภาพรวมเดือนมกราคม ซื้อสุทธิ 37.44 ตัน
- นักวิเคราะห์จาก JP Morgan ชี้ว่า การซื้อขายทองคำจะทรงตัวในระดับสูงในระยะสั้นตามสภาวะเงินเฟ้อในช่วงระยะสั้นที่ยังสูง และสอดคล้องกับตลาดยังมีข้อสงสัยว่า อัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้หรือไม่ ตามที่ตลาดคาดการณ์ในระยะยาว
- ผู้อำนวยการของ AirGuide กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่กระทบราคาทองคำได้แก่ (1) ภาวะหลักหนีความเสี่ยงความตึงเครียดทางการเมืองยังคงเป็นปัจจัยหลักที่หนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (2) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับสูงขึ้น จากความคาดหวังว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน และ(3) กองทุนเฮดจ์ฟันด์ลดสถานะซื้อทองคำ
- นักกลยุทธ์จาก Rabobank ชี้ว่า การเริ่มต้นสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะทำให้เกิดภาวะ “ปิดความเสี่ยง” หรือ Risk-off จะนำพาเม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยน ค่าเงินสวิสฟรัง และทองคำ
- นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ตลาดทองคำดูใกล้จะสิ้นสุดการปรับฐาน โดยกำลังเข้าทดสอบจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ $2,000 ต่อออนซ์ ซึ่งล่าสุดมีการขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดในรอบสองเดือนบริเวณ $1850 หากสามารถยืนเหนือระดับ $1866 ได้ ราคาทองคำจะทะยานขึ้นไปทำ all time high เช่นเดียวกับราคาซิลเวอร์กำลังสร้างฐานอย่างแข็งแกร่ง และถ้าสามารถยืนเหนือ $24.43 ได้จะส่งสัญญาณ breakout
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.05 จุด หรือ 0.05% มาอยู่ที่ระดับ 95.97 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.004% มาอยู่ที่ระดับ 1.776%
- นักวิเคราะห์จาก JP Morgan คาดการณ์ การปรับขึ้นของค่าเงินดอลลาร์จะมีขอบเขตจำกั ดแม้ว่าเฟดจะแสดงท่าทีเข้มงวดในนโยบายการเงิน ทั้งนี้ไม่คาดหวังการส่งสัญญาณที่ทำให้ตลาดตกใจในการประชุมเฟดในวันพุธนี้ ถึงแม้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะมีข้อสรุปว่าจะยุติ QE เร็วขึ้น แต่ก็จะไม่กระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐมากนักเนื่องจากตลาดได้รับรู้ (priced in)แล้วว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมนี้ และมูลค่าของพันธบัตรสหรัฐก็ได้ปิดช่องว่างมูลค่าที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมาแล้ว
- ธนาคารกลางสิงคโปร์ประกาศ ใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน พื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ สร้างความแปลกใจให้กับตลาด เนื่องจากเป้นการดำเนินการนอกการประชุมรอบปกติ โดย องค์การเงินตราแห่งประเทศสิงคโปร์ (MAS) ใช้นโยบายการเงินเข้มงวดผ่านการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน ด้วยการปรับกรอบควบคุมค่าเงินสิงคโปร์ดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ OCBC ประเมินว่า ธนาคารกลางจะใช้นโยบายที่คุมเข้มมากขึ้นอีกครั้งในเดือนเมษายนนี้ ขณะที่การปรับใช้นโยบายการเงินในวันนี้ เป็นการส่งสัญญาณนโยบายการเงินเข้มงวดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนและแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,297.73 จุด ลดลง 66.77 จุด หรือ -0.19%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,356.45 จุด ลดลง 53.68 จุด หรือ -1.22% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,539.30 จุด ลดลง 315.83 จุด หรือ -2.28%
- ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 18.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ
- ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board สถาบันวิจัยเศรษฐกิจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 113.8 ในเดือนม.ค. จากระดับ 115.2 ในเดือนธ.ค. โดยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคถูกกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และการแพร่ระบาดของโควิด-19
- IMF คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.4% ในปี 2565 ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.9% พร้อมกับคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 4.0% ในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 5.2% โดยได้รับผลกระทบจากการที่เฟดถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงิน
- จีนเตือน ภาคการส่งออกอาจเผชิญความยากลำบากเนื่องจากต่างประเทศถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง จากการให้ส้มภาษณ์โดย ผอ.กระทรวงการค้าระหว่างประเทศของจีน
- รายงานการประเมินภาวะเศรษฐกิจประจำเดือนมกราคมของญี่ปุ่นระบุว่า เศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาคกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อันเนื่องมาจากการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคในกลุ่มผู้บริโภคและการผลิตรถยนต์ แม้ว่าเศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบอยู่บ้างจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19, ปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน และการพุ่งขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ
- ตลาดสมาร์ทโฟนในอินเดีย กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2021 ด้วยยอดจัดส่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 162 ล้านเครื่อง หรือเติบโต 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้จะเผชิญกับการเริ่มต้นปีที่ยากลำบากเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 3% โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและบรรดาชาติพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 85.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.93 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 88.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Rakuten Securities ระบุว่า ความเสี่ยงการปรับตัวลงของราคาน้ำมันมีจำกัด จาก (1) ภาวะสถานการณ์ที่ยกระดับความตึงเครียดขึ้นในยูเครนหรือในตะวันออกกลาง ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งทะยาน และ (2) อุปทายน้ำมันที่คาดว่าจะคงตึงตัวต่อไป จากโอเปคพลัสไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันได้ตามเป้าหมายได้ทัน และมีแนวโน้มว่าการปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นจะเป็นการทยอยปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- ประธานาธิบดีสหรัฐ ไบเดน กล่าวว่า หากรัสเซียบุกยูเครนจะ ‘จะเปลี่ยนโลก’ ในแง่ประวัติศาสตร์ โดยกล่าวว่า มันจะเป็นการรุกรานครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 คำพูดของไบเดนสะท้อนให้เห็นถึงฉันทามติที่เพิ่มขึ้นในหมู่พันธมิตรของ NATO ว่าความขัดแย้งใดๆ ในยูเครนไม่น่าจะจำกัดอยู่แค่ในพื้นที่เล็กๆ หรือช่วงเวลาสั้นๆ
- เลขาธิการนาโต (NATO) กล่าวว่า นาโตได้เสริมกำลังทหารทั้งทางบก ทะเล และทางอากาศตามพรมแดนฝั่งตะวันออก เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่รัสเซียอาจทำการโจมตียูเครนในไม่ช้า ทั้งนี้ รัสเซียกำลังตรึงกำลังทหารเกือบ 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน และอาจบุกโจมตียูเครนในไม่ช้า ขณะที่การเจรจาระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกเพื่อแก้ไขความขัดแย้งเกี่ยวกับยูเครนยังคงไม่มีความคืบหน้า
- กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ แล่นเข้าน่านน้ำทะเลจีนใต้ เพื่อซ้อมรบ หลังจากที่ไต้หวัน รายงานว่า จีนส่งกองทัพอากาศ รวมถึงเครื่องบินรบอิเล็กทรอนิกส์ ล่วงล้ำเขตน่านน้ำทะเลจีนใต้
- เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถี 2 ลูกลงทะเลนอกชายฝั่งตะวันออกในวันนี้ หลังจากที่ทดสอบขีปนาวุธจำนวนมาก การยิงขีปนาวุธดังกล่าวเป็นการทดสอบครั้งที่ 5 ของปี เนื่องจากผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนกองทัพด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ขณะที่การเจรจากับเกาหลีใต้และสหรัฐฯหยุดชะงักลง ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญจากเกาหลีใต้ ชี้ว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นความพยายามสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคและอาจเป็นการกดดันให้สหรัฐกลับมาสนใจใช้ยุทธศาสตร์การเจรจาใหม่กับกับเกาหลีเหนือ
ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19
- ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของสหรัฐฯอาจถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดกำลังพุ่งขึ้น แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของสหรัฐฯ จะลดลง และจำนวนผู้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลไม่เพิ่มขึ้นมากแล้ว แต่จำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดจำนวนยอดผู้เสียชีวิตของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
- ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอิตาลีเพิ่มเป็นสองเท่าตัวที่ 186,740 รายต่อวัน จากวันก่อนหน้าที่ 77,696 ราย โดยยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 352 รายเป็น 468 ราย จากการที่มีผู้เข้าตรวจเชื้อเพิ่มเป็น 1.4 ล้านรายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเทียบกับวันก่อนหน้าที่มีผู้เข้าตรวจเชื้อ 519,293 ราย
- นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นเผยผลการศึกษาในห้องทดลอง พบว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนสามารถมีชีวิตรอดบนพื้นฟิวพลาสติกและผิวหนังมนุษย์ ได้ยาวนานกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า
- ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคได้เริ่มต้นทดลองวัคซีนสำหรับป้องกันเชื้อโอไมครอนในวัยผู้ใหญ่ที่อายุ 18-55 ปี ซึ่งจะพร้อมส่งมอบสรุปแฟ้มงานในเดือนมีนาคม
- เนเธอร์แลนด์จ่อผ่อนปรนมาตรการสกัดโควิด แม้ยอดผู้ติดเชื้อแตะระดับประวัติการณ์ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เตรียมประกาศอนุญาตให้ร้านอาหาร บาร์ และโรงภาพยนตร์กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ก็ตาม
ที่มาจาก : Reuters, Bloomberg, FXstreet, Infoquest, Kitco, The Guardian