• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 27 มกราคม 2565

    27 มกราคม 2565 | Gold News

 ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • ทองดิ่งลง หลังคำแถลงการณ์ของพาวเวลล์ที่มีท่าท่าเข้มงวดทางนโยบายการเงิน สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ราคาทองคำปรับตัวลดลง 28 เหรียญต่อออนซ์

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปิดปรับตัวลดลง -1.6% มาอยู่ที่ระดับ 1,818.66 เหรียญ หลังจากที่ทำต่ำสุด -1.8% หรือที่ระดับ 1,815.06 เหรียญ ในสัปดาห์
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange)  ปรับตัวลดลง -1.2% มาอยู่ที่ระดับ 1,829.70 เหรียญ
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน  ปรับตัวลดลง -1% มาอยู่ที่ระดับ 23.59 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 1.16 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,014.26 ตัน ภาพรวมเดือนมกราคม ซื้อสุทธิ 38.6 ตัน 

  • ในวันศุกร์ที่ผ่านมา กองทุน ETF SPDR มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2004 โดยมีมูลค่าในรูปเงินดอลลาร์กว่า 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐภายในวันเดียว คิดเป็นน้ำหนักทองคำ 27.9 ตัน ในขณะที่นักวิเคราะห์จาก Commerzbank AG กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมากที่ราคาทองคำไม่ปรับขึ้นแม้ว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน ETF มูลค่ามหาศาล

  • นักกลยุทธ์ MKS PAMP ผู้นำด้านทองคำระดับโลกสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ กล่าวว่า ทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความผิดพลาดทางนโยบายของเฟด หากที่เฟดเร่งใช้นโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่ง การลงทุนในทองคำจะสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในหุ้น

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ นายเจอโรม พาวเวลล์แถลงเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในทุกการประชุมถ้าจำเป็นสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการแถลงเชิงนโยบายการเงินเข้มงวดมากกว่าที่ตลาดคาด แลเฟดยังไม่ระบุกรอบเวลาและปริมาณการลดขนาดงบดุลธนาคารกลางที่เฉพาะเจาะจง แต่ระบุว่า คณะกรรมการเฟดอาจดำเนินการอย่างรวดเร็วขึ้นและล่วงหน้ากว่าเดิม กว่าที่ดำเนินการครั้งก่อน ส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.855% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.172% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.095%

  • นายเจอโรม พาวเวลล์ แถลงคณะกรรมการมีความพร้อมที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในโยบายในการประชุมรอบเดือนมีนาคมเป็นไปตามที่ตลาดคาด และระบุผมคิดว่า สภาพเศรษฐกิจมีพื้นที่เพียงพออยู่บ้างสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยโดยที่จะไม่กระทบตลาดแรงงาน

  • ในถ้อยแถลงหนึ่งของพาเวลล์ บ่งชี้ว่า เฟดคาดการณ์ว่าการดำเนินการลดขนาดงบดุลจะเริ่มขึ้นหลังจากที่เฟดเริ่มขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 

  • เฟดยังไม่ระบุกรอบเวลาและปริมาณการลดขนาดงบดุลธนาคารกลางที่เฉพาะเจาะจง แต่ระบุว่า คณะกรรมการเฟดอาจดำเนินการอย่างรวดเร็วขึ้นและล่วงหน้ากว่าเดิม กว่าที่ดำเนินการครั้งก่อน

  • ในถ้อยแถลงหนึ่งของพาเวลล์ ระบุว่ามีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงอย่างยาวนาน แม้ว่าจะไม่ใช่อยู่ในการคาดการณ์กรณีปกติของเรา

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.53 จุด หรือ 0.56% มาอยู่ที่ระดับ 96.48 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.012% มาอยู่ที่ระดับ 1.781%

  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  33.15 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลง จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  32.96 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ33.05-33.25 บาทต่อดอลลาร์

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ หลังจากเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอย่างใกล้ชิด

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,168.09 จุด ลดลง 129.64 จุด หรือ -0.38%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,349.93 จุด ลดลง 6.52 จุด หรือ -0.15% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,542.12 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด หรือ +0.02%

  • เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์จากบริษัท Oanda Corporation กล่าวว่า ในช่วงแรกนั้นตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวในแดนบวกเนื่องจากผลการประชุมเฟดออกมาสอดคล้องกับการคาดการณ์ แต่หลังจากที่นักลงทุนได้ฟังการแถลงข่าวของนายพาวเวลแล้ว ตลาดก็ไหลลงสู่แดนลบทันที เนื่องจากคำแถลงดังกล่าวส่งสัญญาณชัดเจนว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าและรุนแรงมากกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้

  • ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐอเมริกาพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 9 เดือน ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 จากเดือนก่อนหน้าเป็น 811,000หลังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 760,000หลังทำให้ยอดขายบ้านแตะระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว

 

ข่าวเกี่ยวกับเงินเฟ้อ


  • อัตราความคาดหวังเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรปรับตัวเพิ่มสูงสุดเป้นประวัติการณ์ โดยความคาดหวังเงินเฟ้อใน 12 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นสู่ระดับ 4.8% ในเดือนมกราคมนี้ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.0% สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นสำรวจมา และอัตราความคาดหวังเงินเฟ้อระยะยาวในช่วง 5 - 10 ปีข้างหน้าทรงตัวที่ 3.8% สูงที่สุดในปรับ 8 ปี ทำให้มีมุมมองว่า ความคาดหวังเงินเฟ้อระยะยาวที่ยังคอยู่ในระดับสูง หนุนภาวะเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นในเดือนข้างหน้าให้เร่งตัวขึ้น

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนและความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน

  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ หรือ 2.04% ปิดที่ 87.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 89.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • ตลาดน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในการประชุมในวันที่ 2 ก.พ. เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตสำหรับเดือนมี.ค.

  • ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน ได้อนุมัติให้ทางกระทรวงพลังงานสหรัฐระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ (SPR) ปริมาณ 13.4 ล้านบาร์เรล ให้กับบริษัททั้ง 7 แห่ง เพื่อบรรเทาปัญหาราคาน้ำมัน

  • สต็อคน้ำมันดิบในคลังสำรองมันทางยุทธศาสตร์ (SPR) ของสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2002.ในขณะที่ราคาส่งมอบล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับ $90 ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014

  • หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Goldman Sachs กล่าวว่า จะไม่เกิดการขัดขวางการส่งน้ำมันในยูเครน โดยทั้งการส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์ความตึงเครียดที่ก่อตัวในยูเครน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสถานการณ์ตึงเครียดเปิดโอกาสขาขึ้นของราคาประมาณ 2 เหรียญต่อบาร์เรลสำหรับน้ำมัน และ 4 เหรียญต่อบีทียูสำหรับก๊าซธรรมชาติ

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ


  • บริษัทสหรัฐฯ หลายแห่ง เรียกร้อง ไบเดน และสภาคองเกรส ระวัง การใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หากนายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียลุกล้ำเข้ายูเครน ขณะที่ด้านบริษัทใหญ่หลายแห่ง รวมถึงภาคธุรกิจต่างออกมาเตือนทำเนียบขาวและสถานิติบัญญัติให้ระมัดระวังถึงการกระทำดังกล่าว โดยภาคธุรกิจต่างๆ ได้แก่ Chevron, General Electric รวมถึงบริษัทใหญ่หลายแห่งของสหรัฐฯ ที่ประกอบธุรกิจในรัสเซีย เรียกร้องให้ทำเนียบขาวพิจารณาอนุญาตให้บริษัทต่างๆ ปฏิบัติตามข้อตกลง และพิจารณาถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยกเว้น หากใช้มาตรการคว่ำบาตร ขณะที่บริษัทกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่หลายแห่งต่างผลักดันให้สภาคองเกรสกำหนดขอบเขตและกรอบเวลา

  • รมช. ต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า รัสเซียอาจเข้ารุกรานยูเครนในช่วงตั้งแต่เวลานี้ไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ หากเป็นช่วงก่อนการจัดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงปักกิ่งประเทศจีนก็จะส่งผลให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก โดยพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกจะจัดขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ประธานาธิบดีรัสเซีย นายปูติน จะเข้าร่วมพิธีเช่นกัน

  • สหรัฐประกาศแจ้งให้ชาวอเมริกันที่ยังอยู่ในยูเครนให้ออกจากพื้นที่

  • รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเยอรมนีระบุว่า จะส่งมอบหมวกทหารจำนวน 5,000 ใบกับยูเครน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเยอรมนีปฏิเสธการสนับสนุนอาวุธให้กับยูเครนเพื่อป้องกันการรุกรานจากรัสเซีย

 

ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19


·  สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,078 ราย ผู้ป่วยสะสม 183,587 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 2,407,022 ราย เสียชีวิต 22 ราย เสียชีวิตสะสม 22,098 ราย 


  • เยอรมนีรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทำ new high อีกครั้งที่ 164,000 ราย ปัจจุบันมีเพียง 75% ของชาวเยอรมันได้รับวัคซีนอย่างน้อยเข็มแรก น้อยกว่าฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน ซึ่งหัวข้อที่ทางเยอรมนีกำลังเสนอโต้วาทีคือ จะให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนได้รับวัคซีน หรือจะแค่เพียงผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปเท่านั้น

  • ฝรั่งเศสรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทำ new high เช่นกันที่ 501,635 ราย แตะระดับครึ่งล้านรายเป็นครั้งแรก โดยผู้ป่วยมากกว่า 30,000 รายยังคงรักษาอาการโควิดที่โรงพยาบาล นับเป็นตัวเลขสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2020

  • ญี่ปุ่นรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงกว่าระดับ 70,000 รายต่อวันเป็นครั้งแรก โดยยอดสูงขึ้นทำ new high ติดต่อกันเป็นวันที่สอง ซึ่งเฉพาะยอดในกรุงโตเกียว ก็มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ทำจุดสูงสุดเช่นกันจำนวน 14,086 ราย 

  • องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เผยว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โควิด-19 ตัวถัดไป อาจจะแพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์โอมิครอน แต่สิ่งที่น่ากังวลคือจะอันตรายถึงชีวิตหรือไม่

 

ที่มาจาก :   Reuters, Bloomberg, FXstreet, Infoquest, Kitco, The Guardian

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com