ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 54.25 เหรียญ หรือ 2.8% มาอยู่ที่ระดับ 1,989.04 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับตัวขึ้น 57.5 เหรียญ หรือ 2.97% มาอยู่ที่ระดับ 1,993.4 เหรียญ
- สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน ปรับตัวขึ้น 95.7 เซนต์หรือ 3.81% มาอยู่ที่ระดับ 26.053 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 4.06 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,054.28 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 25.26 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 78.62 ตัน
- นักวิเคราะห์ของธนาคาร Standard Chartered กล่าวว่า สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองดูจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำเพียงชั่วคราว โดยเฉลี่ยราคาทองคำมักจะปรับตัวสูงขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์เสี่ยงและทำกำไรในรอบหนึ่งเดือน หากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองคลี่คลายภายในปีนี้ จะเห็นว่าราคาทองคำจะกลับคืนสู่สภาพเดิมจากผลตอบแทนที่แท้จริง
- หัวหน้านักวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของ Citigroup ระบุว่า สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคอย่างชัดเจน เช่น วิกฤตการณ์ขาดแคลนน้ำมันในปี 1973, วิกฤตเศรษฐกิจในละตินอเมริกาช่วงต้นปี 1980 และวิกฤตการเงินโลก หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ในช่วงปลายปี 2000 จากสถานการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนให้ความต้องการทองคำเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ทำให้อัตราเงินเฟ้อของสินค้าโภคภัณฑ์รุนแรงขึ้น ปัญหาคอขวดห่วงโซ่อุปทาน และเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป ราคาทองคำได้รับแรงหนุนอย่างยิ่งจากความเสี่ยงที่สูงและธนาคารกลางของยุโรปผ่อนคลายนโยบายการเงิน
- นักวิเคราะห์จาก StanChart กล่าวว่า หากนักลงทุนระยะยาวอย่างกลุ่ม ETF ไม่เข้าลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ก็มักจะไม่มีการปรับขึ้นของราคาทองคำในเชิงโครงสร้าง ท่ามกลางสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ราคาทองคำยังคงปรับตัวตามอัตราเงินเฟ้อ สร้างระยะของโอกาสปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ราคาจะยังคงผันผวนสูง
- นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs กล่าวว่า มีแรงซื้อเข้าของกองทุน SPDR หลังสงครามในยุโรปและผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนราคาทองคำ การเข้าซื้อทองคำ SPDR อาจเพิ่มขึ้นถึง 600 ตันในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปถึง 2,350 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า ปริมาณการซื้อเข้าของกองทุน SPDR ขณะนี้ มากกว่า 100 ตันแล้ว
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 1% ที่ 1.3216 ปอนด์ต่อดอลลาร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นๆ จากอุปสงค์สินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น และเฟดคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง
-
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 1.1 จุด หรือ 1.12% มาอยู่ที่ระดับ 98.89 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.171% มาอยู่ที่ระดับ 1.683%
- นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์กเปิดเผยเมื่อวานนี้ ว่า กรณีรัสเซียบุกยูเครนส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐมีความไม่แน่นอนมากขึ้น และอัตราเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นในระยะสั้น แต่การออมของภาคครัวเรือนและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งน่าจะช่วยจำกัดความเสียหายได้
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- รัสเซียและยูเครน จะจัดการเจรจายุติความขัดแย้งรอบที่ 3 ในวันจันทร์นี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการประชุม หลังจากการเจรจารอบที่ 2 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาที่ชัดเจน แต่ผู้เจรจาของรัสเซียและยูเครนเห็นพ้องกันในยุติการสู้รบชั่วคราวตามเส้นทางอพยพ แม้ปัจจุบันการดำเนินการตามข้อตกลงจะล่าช้า
- นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้เรียกร้องให้มีการจัดประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ในนิวยอร์ก หลังรัสเซียใช้อาวุธหนักยิงถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ของยูเครนเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ทั่วโลกต่างประณามการกระทำดังกล่าวอย่างหนัก
- นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) พร้อมที่จะปกป้องพันธมิตรและดินแดนจากการถูกโจมตีจากรัสเซีย นอกจากนี้ นายบลิงเกนยังได้ประณามการที่รัสเซียโจมตีพลเรือนและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครน โดยเขาเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารจากยูเครน และใช้การเจรจาทางการทูตเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จำนวนผู้ลี้ภัยชาวยูเครนคาดว่า จะสูงถึง 1.5 ล้านราย ภายหลังจากที่การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนย่างเข้าสู่วันที่ 11 แล้ว แม้ว่า ก่อนหน้านี้จะมีการประกาศยุติการสู้รบชั่วคราว เพื่อลำเลียงประชาชนออกจากพื้นที่ในเมืองมาเรียโพลและโวลโนวากา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้และอยู่ภายใต้การยึดครองของกองกำลังรัสเซีย
- ธนาคารรัสเซียพิจารณาใช้ระบบชำระเงิน Mir ของรัสเซียเองหรือใช้ UnionPay ของจีน เพื่อชดเชยการที่ Visa และ Mastercard ยุติการให้บริการธนาคารรัสเซีย
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียจากเดิมที่ “BB+” ลงสู่ “CCC-” ซึ่งเป็นอันดับขยะหลังประชาคมโลกร่วมกันคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่มาตรการป้องกันทางเศรษฐกิจของรัสเซียเองนั้นมีแนวโน้มเพิ่มความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียจากเดิมที่ “B3” ลงสู่ “Ca” พร้อมให้มุมมองลบ จากสาเหตุผลกระทบธนาคารกลางรัสเซียใช้มาตรการคุมการเคลื่อนไหวเงินทุน (Capital Control) ทำให้การชำระเงินระหว่างประเทศเผชิญข้อจำกัด ซึ่งรวมถึงการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นของพันธบัตรรัฐบาล
- นายอังเดร เบโลซอฟ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทต่างชาติที่ต้องการเลิกทำธุรกิจในรัสเซียจะได้รับสิทธิ์ขอยื่นล้มละลายแบบเร่งด่วน หรือสามารถมอบสัดส่วนการถือหุ้นของตนให้กับผู้จัดการในท้องถิ่นได้จนกว่าจะกลับมาดำเนินธุรกิจในรัสเซียอีกครั้ง ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่บังคับใช้กับรัสเซียโทษฐานที่รุกรานยูเครนนั้น ส่งผลให้บริษัทระดับโลกหลายสิบแห่งต้องหยุดดำเนินงานในรัสเซียชั่วคราว และบางส่วน รวมถึงบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่างบีพีและเชลล์ได้กล่าวว่า จะเลิกกิจการในรัสเซียโดยสิ้นเชิง
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 300 จุดและดีดกลับ ปิดตลาดปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
- ดัชนี Dow jones ปรับตัวลดลง -180.29 จุด หรือ -0.53% มาอยู่ที่ระดับ 33,614.67 จุด
- ดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลง -34.62 จุด หรือ -0.79% มาอยู่ที่ระดับ 4,328.87 จุด
- ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลง -197.38 จุด หรือ -1.41% มาอยู่ที่ระดับ 13,837.83 จุด
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 678,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 440,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือยก.พ. 2563 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.9%
- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้แถลงว่าจีนตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2022 ไว้ที่ร้อยละ 5.5
- จีนเพิ่มงบด้านการทหาร 7.1% ปีนี้ เป็น 1.45 ล้านล้านหยวน (2.29 แสนล้านดอลลาร์) โดยเพิ่มขึ้น 7.1% จากปีที่ผ่านมาซึ่งเพิ่มขึ้น 6.8% เพื่อที่จะปกป้องอธิปไตย, ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของประเทศ
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (4 มี.ค.) เนื่องจากการสู้รบอย่างต่อเนื่องระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทานพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 8.01 ดอลลาร์ หรือ 7.4% ปิดที่ 115.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2551 และในรอบสัปดาห์นี้ ราคาสัญญาพุ่งขึ้น 26.3%
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 7.65 ดอลลาร์ หรือ 6.9% ปิดที่ 118.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2556 และในรอบสัปดาห์นี้ ราคาสัญญาพุ่งขึ้น 25.5%
- แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรกำลังหารือเกี่ยวกับกับกีดกันการน้ำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นสูงอยู่ระดับสูงกว่า 120 เหรียญต่อบาร์เรล
- ราคาน้ำมันปรับตัวพุ่งขึ่น หลังจากกำหนดการเจรจานิวเคลืยร์ของอิหร่าน ถูกเลื่อนออกไป โดยนักวิเคราะห์จาก Energy Aspects ชี้ว่า ประเด็นน้ำมันอิหร่านเป็นปัจจัยลบหลักที่จะกดดันราคาน้ำมัน และการเลื่อนการประชุมออกไป จะทำให้ปริมาณน้ำมันสำรองของโลกยิ่งลดลงไปเร็วขึ้นอีก โดยเฉพาะการที่น้ำมันรัสเซียถูกกีดกันออกจากตลาดเป็นระยะเวลานาน เป็นปัจจัยทำให้ปริมาณน้ำมันสำรองลดลงเร็วขึ้น
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะทำการระบายน้ำมัน 7.5 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองฉุกเฉินภายใต้แผนการดำเนินการร่วมกันของกลุ่มประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน หลังรัสเซียออกปฏิบัติการโจมตียูเครน
ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19
- สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,162 ราย ผู้ป่วยสะสม 824,422 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,047,857 ราย เสียชีวิต 65 ราย เสียชีวิตสะสม 23,300 ราย
- เกาหลีใต้ตัดสินใจที่จะผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อคุมโควิด-19 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากมาตรการกักตัวที่เข้มงวดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลเสียต่อธุรกิจรายย่อย
- ญี่ปุ่นฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์สกัดโควิด-19 ได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่วันละ 1 ล้านโดส เมื่อช่วงกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ขณะเร่งเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนเพื่อสกัดไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่ระบาดในประเทศ
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.71 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 32.69 บาทต่อดอลลาร์ โดยแนวโน้มที่จะผันผวนในกรอบกว้างต่อ ปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าจะมาการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์จากภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดท่ามกลางสถานการณ์สงครามที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าพลังงานที่อาจกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ได้ เนื่องจากประเทศไทยมีการนำเข้าสินค้าพลังงานที่สูง
- นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.พ.65 อยู่ที่ระดับ 104.10 ขยายตัว 5.28%YoY จากตลาดคาด 4.0-4.1% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) อยู่ที่ 102.20 ขยายตัว 1.80%YoY สาเหตุหลักที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 5.28% มาจากสินค้าในกลุ่มพลังงาน รวมถึงสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ที่ปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและราคาวัตถุดิบ ประกอบกับฐานในเดือน ก.พ.64 ต่ำสุดในรอบปี 64 ส่งผลให้การคำนวณอัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้สูงขึ้นด้วย
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest , CNBC, Bloomberg