ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 2,000 ดอลลาร์ในวันอังคาร เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกลุเงินดอลลาร์
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 45.94 เหรียญ หรือ 2.3% มาอยู่ที่ระดับ 2,044.38 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 47.4 ดอลลาร์ หรือ 2.37% ปิดที่ 2,043.3 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.175 ดอลลาร์ หรือ 4.57% ปิดที่ 26.895 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 4.64 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,067.34 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 38.32 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 91.68 ตัน
- นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs คาดว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นถึง 2,300 เหรียญในช่วง 3 เดือน ท่ามกลางสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ของราคาทองคำในช่วงเวลาที่แตกต่าง ดังนี้
- โดยคาดการณ์ราคาทองคำจะปรับขึ้นที่ระดับ 2,300 เหรียญ ภายในระยะเวลา 3 เดือน จากระดับ 1,950 เหรียญ ในช่วงก่อนหน้า
- คาดการณ์ราคาทองคำจะปรับขึ้นที่ระดับ 2,500 เหรียญ ภายในระยะเวลา 6 เดือน จากเดิมคาดการณ์ที่ 2,050 เหรียญในช่วงก่อนหน้า
- คาดการณ์ราคาทองคำจะปรับขึ้นที่ระดับ 2,500 เหรียญ ภายในระยะเวลา 12 เดือน ากเดิมคาดการณ์ที่ 2,150 เหรียญในช่วงก่อนหน้า
- เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นจากผู้บริโภค นักลงทุน และธนาคารกลาง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการเมือง
- นักวิเคราะห์จาก Saxo bank กล่าวว่า เรากำลังจะเผชิญช่วงเวลาภาวะเงินเฟ้อสูงอย่างสุดขีด ในขณะที่ธนาคารกลางเผชิญมีข้อจำกัดการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อจัดการเงินเฟ้อ เป็นสาเหตุให้ทองคำยังเป็นที่ดึงดูดของนักลงทุนต่อไป
- นักวิเคราะห์อาวุโสจาก ActivTrades ชี้ว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันภาวะเศรษฐกิจเติบโตต่ำเงินเฟ้อสูง หรือ stagflation ได้เป็นอย่างดี และดีมากยิ่งขึ้นหากภาวะดังกล่าวยกระดับความรุแรงมากขึ้น
- นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า จุดสูงสุดของราคาทองคำอยู่ไม่ไกลจากจุดนี้ ซึ่งยังคงมีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง และในขณะนี้มีความผันผวนและไม่แน่นอนของสถานการณ์โลกส่งผลให้ safe haven อย่างทองได้รับความสนใจอย่างมาก
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.43 จุด หรือ 0.44% มาอยู่ที่ระดับ 99.08 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.18% มาอยู่ที่ระดับ 1.863%
- นักเศรษฐศาสตร์จาก ING คาดการณ์ ดัชนีดอลลาร์จะแตะระดับ 100 จุดในเร็ววันนี้ จากปัจจัยบวกระหว่างการปรับตัวขึ้นพร้อมความผันผวนของราคาพลังงาน ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลง และตวามกังวลด้านสภาพคล่อง ทำให้นักลงทุนแสวงหาการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินดอลลาร์
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Morgan Stanley ระบุว่า เฟดจะยังคงแนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยเช่นเดิมในปีนี้ แม้ว่าสถานการณ์สงครามยูเครน-รัสเซีย จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม
- นักเศรษฐศาสตร์จาก MUFG Bank คาดการณ์ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับช่วง 1.0750 จนถึง 1.0650 จากราคาก๊าซธรรมชาติยุโรปปรับเพิ่มขึ้นเกือบกว่า 200% จากการวิกฤติยูเครน สร้างแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งการทิศทางเศรษฐกิจยูโรโซนที่อ่อนแอลงถูกสะท้อนผ่านค่าเงินยูโรที่อ่อนแอลง
- ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่น คุโรดะ ให้ความเห็นว่า ยังไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมที่จะใช้นโยบายการเงินตึงตัว แม้ว่าต้นทุนราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะผลักดันเงินเฟ้อสูงขึ้นก็ตาม
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- สหรัฐประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยสหรัฐจะเริ่มต้นเป็นประเทศแรก โดยที่ชาติพันธมิตรในยุโรปไม่ร่วมในการกีดกันน้ำมันรัสเซียด้วย
- รัสเซียขู่ปิดท่อก๊าซธรรมชาติท่อหลักที่ส่งไปยังเยอรมัน และเตือนว่าน้ำมันอาจปรับสูงขึ้นถึง 300 เหรียญต่อบารร์เรล เป็นการตอบโต้หากชาติตะวันตกกีดกันการส่งออกพลังงานของรัสเซีย จากการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ของนายกรัฐมนตรีรัสเซีย
- สหราชอาณาจักรประกาศชะลอการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในช่วงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งหมายถึงยังเหลือเวลาประมาณ 9 เดือนให้ทางสหราชอาณาจักรปรับแผนในการเข้าซื้อน้ำมันจากสหรัฐและกลุ่มประเทศตะวันออกกลางแทน
- นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี UK กล่าวว่า ทุกคนจะเห็นว่าเราจำเป็นต้นลดการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย โดยการเคลื่อนไหวการยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียครั้งนี้เป็นเพียงแค่ก้าวแรกเท่านั้น
- ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายหน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมยูเครนแถลงในวันนี้ กองกำลังทหารของยูเครนได้สังหารพลตรี วิตาลี เจอราไซมอฟ รองผู้บัญชาการกองทัพบกที่ 41 ของรัสเซีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ใกล้เมืองคาร์คิฟที่ถูกปิดล้อม ยูเครนกล่าวว่ากองทัพของตนสังหารทหารรัสเซียไปแล้วมากกว่า 11,000 นาย แต่ทางรัสเซียได้ยืนยันจำนวนทหารที่เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 500 ราย โดยทั้งสองฝ่ายไม่ได้เปิดเผยจำนวนเสียชีวิตของยูเครนในขณะนี้
- ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ (DNI) เปิดเผยรายงานการประเมินภัยคุกคามทั่วโลกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่า เกาหลีเหนืออาจกลับมาดำเนินการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) และอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้งปีนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2560 ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จากสหรัฐกล่าวว่า ภาพถ่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์เผยให้เห็นการก่อสร้างที่ฐานทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปิดดำเนินการเมื่อปี 2561 และเกาหลีเหนือได้เดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลักอย่างเต็มกำลังที่เมืองยองเบียน ซึ่งอาจสร้างเชื้อเพลิงเพิ่มเติมสำหรับอาวุธนิวเคลียร์
- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะมีบทบาทอย่างมากในการแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตามที่ทุกฝ่ายมองว่ามีความจำเป็น นาย สี จิ้นผิงยังระบุว่า จีน ฝรั่งเศส และเยอรมนีควรร่วมมือกันสนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน นอกจากนี้ ผู้นำจีนยังได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นอย่างที่สุด รวมทั้งป้องกันมิให้สถานการณ์เลวร้ายลงจนควบคุมไม่ได้ ขณะเดียวกัน นาย สี จิ้นผิงแสดงท่าทีคัดค้านการที่สหรัฐและชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อตอบโต้การส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
- ธุรกิจสหรัฐมีมุมมองเชิงลบเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินงานในจีน เนื่องจากมีความตึงเครียดระดับทวิภาคี, การบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง, มาตรการจำกัดด้านกฎระเบียบ และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจบริษัทสมาชิกกว่า 300 แห่งของสภาหอการค้าอเมริกันระบุว่า ความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของตลาดภายในประเทศจีนนั้น ลดลง 11% จากปีก่อนหน้า
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในยูเครนทั้งหมดจะเดินทางออกจากประเทศชั่วคราว โดยระบุถึงเหตุผลด้านความปลอดภัย เนื่องจากการบุกโจมตีของรัสเซียทวีความรุนแรงมากขึ้น
- เกาหลีใต้เข้าร่วมกับสหรัฐและสหภาพยุโรป ในการห้ามดำเนินธุรกรรมกับธนาคารกลางและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (SWF) ของรัสเซีย ซึ่งเพิ่มความรุนแรงให้กับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์ว่า การดำเนินธุรกรรมของเกาหลีใต้กับธนาคารกลางรวมถึงกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติและกองทุนการลงทุนโดยตรงของรัสเซียนั้น จะยุติลงในวันที่ 8 มี.ค.
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น และทำให้ตลาดวิตกกังวลว่าความขัดแย้งระหว่างประเทศอันเนื่องมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,632.64 จุด ลดลง 184.74 จุด หรือ -0.56%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,170.70 จุด ลดลง 30.39 จุด หรือ -0.72% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,795.55 จุด ลดลง 35.41 จุด หรือ -0.28%
- นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐ เตรียมลงนามในสัปดาห์นี้ในคำสั่งฝ่ายบริหารที่เกี่ยวกับกลยุทธ์ของรัฐบาลสหรัฐทางด้านสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี หลังจากสหรัฐและบรรดาชาติพันธมิตรได้พากันคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลว่าองค์กรต่าง ๆ และประชาชนชาวรัสเซียอาจใช้คริปโทฯ เป็นเครื่องมือในการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร โดยคาดว่าไบเดนจะสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหรัฐ ทำการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมาย รวมทั้งผลกระทบด้านความมั่นคงของชาติ และทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ คาดว่าคำสั่งของฝ่ายบริหารจะระบุถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) อย่างไรก็ดี คาดว่าคำสั่งดังกล่าวอาจจะไม่ลงรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ CBDC เนื่องจากเฟดยังคงศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียของ CBDC อยู่ในขณะนี้
- รัฐบาลเยอรมนีประกาศเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเกษตรของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ชาติหรือ G7 ผ่านทางระบบออนไลน์ในวันศุกร์ที่ 11 มี.ค. เพื่อหารือถึงผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีต่อความมั่นคงทางอาหารของโลก และวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างเสถียรภาพในตลาดอาหาร อย่างไรก็ดี การจัดหาอาหารในเยอรมนีและสหภาพยุโรปนั้นถือได้ว่ามีความปลอดภัยดี แต่ภาวะขาดแคลนอาหารมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในบางประเทศนอกกลุ่มสหภาพยุโรป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เผชิญภาวะขาดแคลนอยู่แล้วในปัจจุบันจากผลพวงของปัญหาต่าง ๆ เช่น ภัยแล้ง
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 5%ในวันอังคาร หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 4.30 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 123.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 4.77 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 127.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2551
- หน่วยข่าวกรองนักเศรษฐศาสตร์ตะวันออกกลางและแอฟริกา (EIU) คาดการณ์ว่า การคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียในรอบนี้จะส่งผลต่อราคาน้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้นไปอีก แม้ว่าสหรัฐจะไม่ได้ต้องการพลังงานจากรัสเซียมากนัก แตการประกาศอย่างชัดเจนของนายโจ ไบเดนที่จะระงับการนำเข้าน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินของรัสเซียกระตุ้นให้ราคาน้ำมันพุ่งทะยานทะลุเหนือ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- ธนาคาร UBS ชี้ว่า กรณีน้ำมันจากอิหร่านเข้าสู่ตลาดและลดความตึงตัวของตลาดน้ำมัน แต่ปริมาณน้ำมันสำรองตลาดที่ลดลงและกำลังการผลิตสำรองที่ถดถอยลง จะยังคงทำให้นักลงทุนยังคงกังวลและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
- บริษัทกลั่นน้ำมันของออสเตรเลีย Viva Energy เปิดเผยว่า บริษัทจะหยุดการสั่งซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย โดยร่วมกับบริษัทอื่น ๆ อีกจำนวนมากเพื่อตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับรัสเซีย หลังจากที่บุกโจมตียูเครน
- นายอเล็กซานเดอร์ โนวัก รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เผย ว่า รัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับราคาพลังงานที่กำลังพุ่งสูงขึ้น รวมถึงความผันผวนของตลาดพลังงานในปัจจุบัน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายโนวัก เปิดเผยข้อมูลว่า ก๊าซพรอม (Gazprom) ยักษ์ใหญ่ด้านก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย กำลังเดินหน้าทำตามข้อผูกพันด้านการจัดหาก๊าซให้ยุโรป โดยรัสเซียเป็นผู้จัดหาน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของยุโรป คิดเป็น 30% ของปริมาณการบริโภคน้ำมันในยุโรป และรัสเซียได้ทำตามข้อผูกพันทั้งหมดอย่างเต็มที่ โดยกำลังดำเนินการส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันสู่ตลาดยุโรปตามแผนการ
ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19
- สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,073 ราย ผู้ป่วยสะสม 865,438 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,088,873 ราย เสียชีวิต 69 ราย เสียชีวิตสะสม 23,438 ราย
- บริษัทโมเดอร์นา อิงค์เปิดเผยว่า ทางบริษัทวางแผนที่จะพัฒนาและเริ่มการทดลองวัคซีนที่จะสามารถป้องกันไวรัส 15 ชนิดที่ก่อให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงภายในปี 2568 ขณะเดียวกัน โมเดอร์นาจะมอบสิทธิบัตรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างถาวรให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐแจ้งเตือนชาวอเมริกันให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเยือนไทย ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก นอกจากนี้ CDC ยังได้เพิ่มรายชื่อของไทย ฮ่องกง และนิวซีแลนด์อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงในระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และหมายความว่ามีความเสี่ยงในระดับสูงมาก โดยประเทศและดินแดนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวมีจำนวน 135 แห่ง
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.22 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.19 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.10-33.30 บาทต่อดอลลาร์
- หอการค้าไทย-จีน และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นจากประธาน ผู้บริหาร กรรมการ สมาชิกหอการค้าไทย-จีน และกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ของหอการค้าไทย-จีน ช่วงไตรมาสที่ 1/65 บว่า สมาชิกมีความกังวลในประเด็นดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยในเรื่องเงินเฟ้อ พบว่า ทั่วโลกและไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยผู้ประกอบการเกือบครึ่ง คาดว่าเงินเฟ้อไทยจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ส่วนที่เหลือ คาดจะถึงจุดสูงสุดช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ เพราะต้นทุนการผลิตของสินค้าและบริการสูงขึ้น
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest , CNBC