ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังที่ว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจะมีความคืบหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -34.25 เหรียญ หรือ -1.75% มาอยู่ที่ระดับ 1,917.82 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง -31.1 ดอลลาร์ หรือ -1.59% ปิดที่ 1,929.7 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง -14 เซนต์ หรือ -0.55% ปิดที่ 25.158 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.32 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,061.83 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 32.81 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 86.17 ตัน
- ปริมาณความต้องการทองคำแท่งในภาคครัวเรือนรัเซียที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางรัสเซียหยุดการเข้าซื้อทองคำจากธนาคารในประเทศไว้ชั่วคราว เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าจะมีปริมาณทองคำแท่งเพียงพอสำหรับประชาชน
- หัวหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของ UBS Wealth Management กล่าวว่า ตลาดเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- นักวิเคราะห์อาวุโสของ OANDA ระบุว่า ปัจจัยที่กดดันทองเวลานี้ คือ การประชุมของเฟดที่จะใช้นโยบายการเงินเข้มงวด และการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
- นักวิเคราะห์จาก Fxstreets กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันในการซื้อขายในวันอังคาร ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,940 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ท่ามกลางความผันผวนของตลาด อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับฐานจากระดับสูงสุดที่ 2,071 เหรียญ ในรอบ 19 เดือน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
- นักเศรษฐศาสตร์ของ TD Securities เผยว่า ทองคำกำลังท้าทายสู่แนวโน้มขาขึ้น ซึ่งผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้ออาจเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น
- นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ระบุว่า ความหวังที่จะยุติการสู้รบและความหวังที่สงครามในยูเครนจะจบลงในอีกไม่นาน ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างรุนแรง
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.18 จุด หรือ -0.18% มาอยู่ที่ระดับ 98.94 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.011% มาอยู่ที่ระดับ 2.149%
- นักเศรษศาสตร์จาก ING ชี้ว่า คู่สกุลเงินยูโรเทียบดอลลาร์พุ่งแข็งค่าขึ้นเหนือระดับ 1.10 ดอลลาร์ต่อยูโคร จากการที่ตลาดเลิกรับรู้ปัจจัยความเสี่ยงขาลงจากสถานการณ์ยูเครน โดยมีการเจรจาเพื่อสันติภาพอย่างต่อเนื่องระหว่างรัสเซีย-ยูเครน แม้จะยังไม่มีสัญญาณว่าสถานการณ์จะลกความรุนแรงลง และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ทยอยลดลงจากการรับรู้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงินยูโรเช่นกัน
- นักเศรษฐศาสตรฺจาก TD Securities ชี้ว่า ค่าเงินบาทและค่ารูปีของอินเดีย ได้รับผลกระทบเชิงลบมากที่สุดหากราคาน้ำมันปรับพุ่งขึ้น จากการที่ดุลบัญชีเดินสะพัดย่ำแย่ลง , เงินเฟ้อสูงขึ้น และได้รับแรงกดดันทางการคลัง
- นักเศรษฐศาสตรฺจาก TD Securities ชี้ว่า ประเทศเกิดใหม่ในฝั่งเอเชียส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น กดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้ออาจพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในประเทศอินโดนีเซีย, ประเทศจีน และประเทศไทย
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- สหรัฐเตือนบรรดาชาติพันธมิตรในยุโรปว่า รัสเซียได้ขอให้จีนช่วยจัดส่งโดรนติดอาวุธ หรืออากาศยานติดอาวุธไร้คนขับ ในช่วงปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รัสเซียเริ่มต้นปฏิบัติการรุกรานยูเครน
- สำนักงานประธานสภาสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อวันจันทร์ (14 มี.ค.) ว่า ประเทศสมาชิก EU ได้เห็นชอบกับการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเป็นรอบที่ 4 หลังรัสเซียรุกรานยูเครน
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรรอบล่าสุด แต่สำนักงานประธาน EU ได้ระบุว่า รัสเซียจะถูกเพิกถอนสถานะการค้า “ชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง” (Most-favoured nation) ซึ่งสามารถเปิดทางให้ EU ออกคำสั่งห้ามหรือจัดเก็บภาษีลงโทษต่อสินค้าของรัสเซีย และกำหนดให้รัสเซียมีสถานะเทียบเท่ากับเกาหลีเหนือหรืออิหร่าน
- รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีนเปิดเผยว่า จีนต้องการหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐบังคับใช้ต่อรัสเซีย หลังรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน รมว.ต่างประเทศของจีนยังย้ำว่า จีนได้คัดค้านการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวนอกเหนือจากมติขององค์การสหประชาชาติ (UN) มานานแล้ว สำหรับจีนเองนั้นก็เพิ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตรเรื่องสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงและฮ่องกง ดังนั้น การปฏิบัติตามบทลงโทษของสหรัฐจึงถือเป็นการละเมิดอธิปไตย และจีนก็ได้ให้คำมั่นว่าจะสานต่อความสัมพันธ์ทางการค้ากับรัสเซียตามปกติ
- รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ผู้อพยพชาวยูเครนทำงานในประเทศ หลังญี่ปุ่นเริ่มต้นรับผู้อพยพที่ลี้ภัยจากการรุกรานของรัสเซีย
- นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียอาจนำมาซึ่งยุคสมัยใหม่ต่อจากยุคหลังสงครามเย็น และวิธีที่โลกรับมือกับกรณีดังกล่าวมีแนวโน้มจะเป็นตัวกำหนดยุคใหม่ที่ว่านี้ ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ดำเนินการเช่นเดียวกับประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 อื่น ๆ ในการอายัดทรัพย์ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของรัสเซีย, ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และผู้นำอีกหลายราย ในขณะที่ผนึกกำลังกับบรรดาชาติตะวันตกในการตัดธนาคารพาณิชย์บางรายของรัสเซียจากการเข้าถึงระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ หรือ SWIFT
- รัฐบาลรัสเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า รัสเซียไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาขาดแคลนอาหารในประเทศ และเตือนให้ผู้บริโภคอย่ากักตุนสินค้าสำคัญ หลังจากที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียหลังเปิดฉากบุกยูเครน
- รัสเซียสั่งระงับการส่งออกธัญพืชไปยังกลุ่มประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตเป็นการชั่วคราว รวมถึงการส่งออกน้ำตาลส่วนใหญ่ ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวว่า รัสเซียจะยังคงให้สิทธิ์เทรดเดอร์ที่ได้รับโควต้าอยู่ในขณะนี้เป็นกรณีพิเศษ
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูเครนจะหดตัว 10% ในปี 2565 ซึ่งเป็นผลจากการที่รัสเซียบุกยูเครน แต่อาจจะย่ำแย่กว่าที่คาด ถ้าหากความขัดแย้งดังกล่าวยืดเยื้อออกไปอีก
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 600 จุดในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ หลังราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,544.34 จุด เพิ่มขึ้น 599.10 จุด หรือ +1.82%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,262.45 จุด เพิ่มขึ้น 89.34 จุด หรือ +2.14%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,948.62 จุด เพิ่มขึ้น 367.40 จุด หรือ +2.92%
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนก.พ. ปรับตัวสูงขึ้น 0.8% เมื่อกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.9% หลังจากที่พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนม.ค.
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นเยอรมนีต่ำลงเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีดิ่งลงสู่ระดับ -39.3 ในเดือนมี.ค. จากระดับ +54.3 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +10.0 เป็นการบ่งชี้ว่าเยอรมนีมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 6% ในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากการที่จีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ การที่นักลงทุนคาดหวังความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6.57 ดอลลาร์ หรือ 6.4% ปิดที่ 96.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 6.99 ดอลลาร์ หรือ 6.5% ปิดที่ 99.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
- WTI ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยมีปัจจัยกระทบจากความคาดหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะสามารถหาข้อยุติได้ในไม่ช้า และการระบาดของโควิด-19 ทำให้จีนประกาศล็อกดาวน์ส่งผลต่อปริมาณการใช้น้ำมันลดลงทันที นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหรัฐฯ พยายามเกลี้ยกล่อมให้ซาอุดิอาระเบียเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันและมีรายงานว่ามีแผนจะเยือนซาอุดีอาระเบีย
- สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า แหล่งจ่ายก๊าซธรรมชาติของรัสเซียไปยังยุโรปผ่านท่อส่งก๊าซยามาล-ยุโรป ถูกระงับในวันอังคารที่ผ่านมา ส่วนก๊าซจากรัสเซียที่ไหลไปยังยุโรปผ่านท่ออื่น ๆ รวมถึงท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 ผ่านทะเลบอลติกนั้น ยังคงทำงานตามปกติ
- นักวิเคราะห์จาก Fujitomi Securities ชี้ว่า ตลาดคาดหวังว่า พัฒนาการเชิงบวกระหว่างรัสเซีย-ยูเครยในการเจรจาสงบศึก จะช่วยลดความตึงตัวของตลาดน้ำมันโดยรวม และการที่จีนล็อคดาวน์รอบใหม่จากการะบาดของโควิดยังสร้างความกังวลชะลอความต้องการใช้น้ำมัน
- นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก NLI Research Institute ชี้ว่า แม้จะมีการสงบศึกในยูเครน แต่ระดับราคาน้ำมันจะยังคงสูงต่อ จากการที่ชาติตะวันตกพยายามแยกรัสเซียให้โดดเดี่ยว ผ่านการคว่ำบาตรที่ยังคงดำเนินต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดน้ำมันตึงตัวต่อไป นอกจากนี้ ยังชี้ว่า ราคาน้ำมันที่ร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากนักลงทุนเทขายทำกำไร เนื่องจากความกังวลที่มากขึ้นในความผันผวนของราคา
ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19
- รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาพรวมของการระบาดยังต้องคอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 23,945 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 3,250,642 ราย ไม่รวม ATK อีก 24,059 ราย สะสม 1,151,165 ราย อีกทั้งยังมียอดผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง
- ชลบุรี ยอดโควิดพุ่ง - รายงานพบผู้ป่วยโควิด 19 รายใหม่ 1,320 ราย รวมผล ATK กว่า 6 พันราย บุคลากรทางการแพทย์ยังติดเชื้อต่อเนื่อง เจออีก 23 ราย ส่วนใหญ่ติดจากคนในครอบครัว - ที่ทำงาน เสียชีวิตอีก 1 ราย
- รัฐบาลอังกฤษ เปิดเผยว่า เตรียมยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เหลือทั้งหมดสำหรับผู้เดินทางในวันศุกร์นี้ รวมถึงการกรอกแบบฟอร์มรายละเอียดการติดต่อ ของผู้เดินทาง รวมถึงข้อกำหนดสำหรับประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนที่จะต้องตรวจหาเชื้อก่อนและหลังเดินทางมาถึง เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงเทศกาลอีสเตอร์
- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) เปิดเผยในวันนี้ว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 5,154 ราย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดที่จีนพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงกว่า 5,000 ราย โดยขณะนี้จีนกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนตัดสินใจล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ เพิ่มอีกหลายเมือง และใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดมากขึ้น
- นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเปิดเผยว่า ฮ่องกงไม่ได้มีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการออกมาตรการล็อกดาวน์ และไม่มีระบบการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภาคบังคับที่รวดเร็วเช่นเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.52 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.45-33.65 บาทต่อดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest , CNBC, Bloomberg