MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ  โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -2.27 เหรียญ หรือ -0.12% มาอยู่ที่ระดับ 1,929.08 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง -4.4 เหรียญ หรือ -0.23% ปิดที่ 1,923.1 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง -7.6 เหรียญ หรือ -0.31% ปิดที่ 24.458 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,087.3 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ขายสุทธิ 4.14 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 111.64 ตัน

• นักกลยุทธ์จากธนาคาร ANZ คาดการณ์ ราคาทองคำจะสามารถยืนเหนือระดับ 1,900 เหรียญได้ไปตลอดทั้งปีนี้ และชี้ว่านักลงทุนกำลังสะสมสถานะซื้อทองคำครั้งใหม่ 
• โดยความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาทองคำโดยสังเหตุได้จากความต้องการที่แข็งแกร่งของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะที่อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง(Real yield) อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ และความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวสูงขึ้น ช่วยหนุนนักลงทุนสะสมทองคำในฐานะสินทรัพย์ช่วยกระจายความเสี่ยง 
• แต่การที่เฟดมีแนวโน้มใช้นโยบายการเงินเข้มงวดอย่างมากและความต้องการทองคำจริงที่จับต้องได้ (Physical Gold) ยังคงอ่อแอ เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ

• นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ City Index กล่าวว่า นักลงทุนยังคงซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าอย่างหนัก และนั่นก็ช่วยสนับสนุนราคาทองคำโดยรวมได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลง ช่วยจำกัดการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ รวมทั้งทำให้ราคาทองคำทรงตัวอยู่แถวบริเวณแนวรับ 1,916 เหรียญ 

• นักวิเคราะห์ของ FXStreet กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงเผชิญแรงเทขายต่อเนื่องในวันพุธ ทำให้ราคาทองคำกลับมาเคลื่อนไหวแถวบริเวณ 1,903 เหรียญ ทั้งนี้ตลาดยังคงให้ความสำคัญกับรายงานการประชุมโยบายทางการเงินที่สำคัญของเฟดในเดือนมี.ค. ที่จะมาอภิปรายการคุมเข้มนโยบายการเงินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และส่งสัญญาณการปรับลดงบดุล อย่างไรก็ตาม ภาพรวมราคาทองคำรายวันแสดงให้เห็น ว่าราคาทองคำกำลังท้าทายแนวรับด้านล่างที่บริเวณ 1,915 เหรียญ ซึ่งหากราคาทองคำหลุดลงไปได้ จะเข้าทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย DMA 50 วันแถวบริเวณ 1,903 เหรียญ และแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,890 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• เฟดประกาศแผนอย่างเป็นทางการในการลดขนาดงบดุลมูลค่า 95,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เริ่มต้นเดือนพฤษาคมนี้ จากรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ หรือ FOMC โดยเป็นจะแบ่งเป็นการลบขนาดงบดุลของพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัย 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน (Mortgage-backed security (MBS)) ทั้งนี้การลดขนาดงบดุลมีขนาดเป็นสองเท่าของการดำเนินการที่เคยเกิดในอดีตช่วงปี 2017-2019

• เฟดส่งสัญญาณขั้นดอกเบี้ย 0.50% เป็นเรื่องเหมาะสม โดยเฉพาะหากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง จากรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.46 จุด หรือ 0.46% มาอยู่ที่ระดับ 99.46 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.21% มาอยู่ที่ระดับ 2.603% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.429% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.174%

• มาร์ติน โฟลเดน รองผู้ว่าการธนาคารกลางสวีเดน Riksbank กล่าวในวันพุธว่า เขาเชื่อว่าจะเป็นการดีกว่าหากอัตราดอกเบี้ยค่อยๆ ปรับขึ้น ซึ่งเป็นการกล่าวหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ในวันอังคารที่ผ่านมาว่า อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าการคาดการณ์ล่าสุดของเราอย่างมาก ซึ่งจะต้องดำเนินการประเมินนโยบายทางการเงินอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป

• นักเศรษฐศาสตร์จาก UOB Group คาดการณ์ ธนาคารกลางอินเดียจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 8 เมษายนนี้ เป็นการปรับขึ้นครั้งแรก และมีสาเหตุจากความเสี่ยงเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในปี 2022 และปี 2023

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ

• เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ลีเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียเพิ่มเติม และมีความเป็นไปได้ว่าจะระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย หลังจากสหภาพยุโรป (EU) เสนอเมื่อวันอังคารที่จะห้ามการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย

• รัฐบาลสหรัฐและเยอรมนีประกาศคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ ด้วยการสั่งปิดไฮดรา มาร์เก็ต (Hydra Market) ซึ่งเป็นเว็บตลาดมืดสัญชาติรัสเซีย และเป็นแหล่งซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีซึ่งรัสเซียใช้เป็นช่องทางในการระดมเงินทุนหลังจากถูกนานาประเทศคว่ำบาตรทางการเงิน อันเนื่องมาจากการใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน ทั้งนี้ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐแถลงว่า “ภัยคุกคามด้านไซเบอร์และแรนซัมแวร์ทั่วโลกที่มีจุดเริ่มต้นมาจากรัสเซีย และการที่บรรดาผู้นำในรัฐบาลรัสเซียได้ก่ออาชญากรรมนั้น ถือเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับสหรัฐเป็นอย่างมาก

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ  หลังรายงานการประชุมเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดของงบดุลและเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,496.51 จุด ลดลง 144.67 จุด หรือ -0.42%,
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,481.15 จุด ลดลง 43.97 จุด หรือ -0.97% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,888.82 จุด ลดลง 315.35 จุด หรือ -2.22%

• ภาคบริการจีนเดือนมี.ค.หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 2 ปี จากผลกระทบมาตรการคุมโควิด ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 42.0 ร่วงลงจากระดับ 50.2 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PMI เดือนมี.ค.หดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 ทั้งนี้ ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนอยู่ในภาวะหดตัว

• ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียซึ่งรวมถึงจีนและอินเดีย ลงสู่ระดับ 5.2% ในปีนี้ จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 5.3% และลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการขยายตัวในปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 6.9% โดย ADB ระบุว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชีย

ข่าวเกี่ยวกับเงินเฟ้อ

• รายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อฟิลิปปินส์ประจำเดือนมีนาคม ปรับพุ่งสูงขึ้น ในอัตราเร่ง ที่ 4.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 3.0% และสูงกว่าที่คาดการณ์ที่ 3.6% ปัจจัยหลักมาจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานและราคาอาหาร ประกอบกับการปรับขึ้นค่าไฟ และค่าเงินเปโซที่อ่อนค่าลง

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ในวันพุธ  หลังจากประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ตกลงว่าจะระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพื่อรับมือกับภาวะอุปทานตึงตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 5.73 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 96.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2565
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.57 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 101.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2565

• นักวิเคราะห์จาก Hargreaves Lansdown ชี้ว่า การที่ชาติตะวันตกกล่าวหารัสเซียมากขึ้น และเตรียมเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียต่อเนื่อง อาจทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่รัสเซียจะตอบโต้กลับทางเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่ความกังวลที่ผลักดันราคาน้ำมันปรับขึ้น และความผันผวนยังคงมีต่อไป ตราบเท่าที่สถานการณ์การเมืองระดับโลกยังไม่คลี่คลาย

ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19

• สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26,081 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,584,473 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,807,908 ราย เสียชีวิต 91 ราย เสียชีวิตสะสม 25,788 ราย 

• สหราชอาณาจักรตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ XE จำนวน 637 ราย

• คณะนักวิทยาศาสตร์จีนเสนอกลยุทธ์การผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบใหม่ เป็น วัคซีนอาร์เอ็นเอแบบวงแหวน (circRNA) ซึ่งอาจกระตุ้นการสร้างแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์เดลตา วัคซีนอาร์เอ็นเอแบบวงแหวน (circRNA) เป็นวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ที่มุ่งโจมตีโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสที่ก่อโรคโควิด-19 เป็นหลัก ต่างกับวัคซีนที่มีโครงสร้างอาร์เอ็นเอแบบเส้น มักพลาดเป้าหมายในการลบล้างฤทธิ์เชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ที่อุบัติขึ้นมาใหม่

• เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ปรับเปลี่ยนศูนย์การประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ (NECC) ให้กลายเป็นโรงพยาบาลชั่วคราวที่จะมีเตียงรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 40,000 เตียง โดยที่ รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ติดเชื้อในนครเซี่ยงไฮ้ 311 ราย และผู้ป่วยไม่แสดงอาการ 16,766 ราย เมื่อวันอังคาร (5 เม.ย.) ที่ผ่านมา

• ประธานโรงพยาบาลสู่กวงในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า อัตราการใช้แพทย์แผนจีนรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในเซี่ยงไฮ้สูงกว่า 98% โดยข้อมูลทางคลินิกเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าแพทย์แผนจีนมีข้อได้เปรียบเฉพาะตัวในการเร่งอัตราฟื้นตัวและยับยั้งไม่ให้อาการป่วยย่ำแย่ลง

• การประชุมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าจากข้อมูลที่มีแนวโน้มดี ว่า แพทย์แผนจีนมีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงเกิดอาการป่วยรุนแรงในกลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการป่วยเล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้แจกจ่ายยาแพทย์แผนจีนให้กับผู้อยู่อาศัยในเมืองมากกว่า 21 ล้านชุดแล้ว เมื่อนับถึงวันอังคาร (5 เม.ย.)

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  33.58 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลง จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.43 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ วันที่ 5 เม.ย.) มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.50-33.70 บาทต่อดอลลาร์

 

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, CNBC, Bloomberg