ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันอังคารหน้า ซึ่งคาดว่าจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 8%
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 11.58 เหรียญ หรือ 0.6% มาอยู่ที่ระดับ 1,944.42 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.8 เหรียญ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,945.6 เหรียญ และปรับตัวขึ้น 1.1% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 8.8 เหรียญ หรือ 0.36% ปิดที่ 24.823 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 3.19 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,090.49 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ขายสุทธิ 0.95 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 114.83 ตัน
- นักวิเคราะห์อาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ราคาทองคำทรงตัวได้ค่อนข้างดีในสัปดาห์นี้ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และสกุลเงินดอลลาร์ก็ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงเผชิญแรงซื้อ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- นักวิเคราะห์อาวุโสของ ActivTrades กล่าวว่า ความเสี่ยงของสงครามในยูเครน และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ยังคงเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำในเวลานี้ ขณะที่ปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ยังคงเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นของเฟด
- นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ระบุว่า ราคาทองคำกำลังปรับเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งดูเหมือนว่าทองคำยังคงเป็นที่ต้องการในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเก็บรักษามูลค่าไว้ได้ ถึงแม้ว่าจำนวนเงินที่ไหลเข้าซื้อกองทุน ETF ในสัปดาห์นี้จะอยู่ในระดับปานกลางมาก
- นักวิเคราะห์จาก JPmorgan ระบุว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจปรับเพิ่มขึ้น 40% หากนักลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินค้าวัตถุดิบเนื่องจากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.05 จุด หรือ 0.05% มาอยู่ที่ระดับ 99.8 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.076% มาอยู่ที่ระดับ 2.723% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 2.555% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.168%
- ธนาคารกลางรัสเซียประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 3% สู่ระดับ 17% ในการประชุมวันนี้ พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป การประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาด และมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินตามปกติของธนาคารกลางที่มีกำหนดในวันที่ 19 เม.ย.
- นักเศรษฐศาสตร์จาก Rabobank ชี้ว่า ค่าเงินยูโรมีความเสี่ยงอ่อนค่าลงในช่วงเดือนข้างหน้านี้ จากการที่ยุโรปพึ่งพิงแหล่งพลังงานจากรัสเซีย และหากยุโรประงับการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย จะนำไปสู่ความเสี่ยงเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่า
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- สหภาพยุโรปประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรชุดที่ 5 สั่งห้ามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย โดยจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในสัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคมนี้ และยังเพิ่มสินค้าที่ถูกระงับการนำเข้า ได้แก่ ไม้, ยาง, ปุ๋ย,วอดก้า และอาหารทะเลที่มีมูลค่าสูงอย่าง คาเวียร์ รวมมูลค่ากว่า 5,900 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
- โฆษกทำเนียบเครมลินของรัสเซีย ระบุว่า ตลาดยังคงมีความต้องการถ่านหินสูง และรัสเซียพร้อมจะเปลี่ยนการส่งออกถ่านหินจากยุโรป แทนที่ด้วยตลาดอื่น หากยุโรปปฏิเสธถ่านหินจากรัสเซีย
- สหภาพยุโรปเตรียมเริ่มใช้แพลตฟอร์มที่สามารถให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปสามารถร่วมกันสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติได้ เพื่อลดการพึ่งพิงพลังงานเชื้อเพลิงจากรัสเซีย และเป็นหลักประกันป้องกันการเกิดภาวะอุปทานพลังงานชะงักงันฉับพลัน
- บริษัทก๊าซพรอม บริษัทใหญ่ด้านพลังงานของรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าส่งออกก๊าซให้ยุโรปผ่านเส้นทางยูเครนตามปกติตามคำสั่งซื้อของลูกค้าจากยุโรป
- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้อนุมัติเงินช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนมากกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มเปิดฉากบุกยูเครนในปลายเดือนก.พ. และสหรัฐได้ให้เงินช่วยเหลือแก่ยูเครนรวม 2.4 พันล้านดอลลาร์แล้วนับตั้งแต่ปธน.ไบเดนเข้ารับตำแหน่ง
- กระทรวงกลาโหมสหรัฐยืนยัน จัดส่งระบบต่อต้านยานเกราะและระบบต่อต้านอากาศยานทั้งหมดปยังยูเครนแล้ว จากมาตรการช่วยเหลือด้านอาวุธทั้ง 2 ชุดที่ประกาศในเดือนมี.ค.นั้น พร้อมเสริมว่า สหรัฐกำลังพิจารณาการจัดหาระบบอาวุธเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือกองทัพยูเครน
- นาโตวางแผนตรึงกำลังทหารตามแนวพรมแดนประเทศสมาชิกที่ติดกับรัสเซียแบบถาวร ภายใต้ความพยายามในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซียในอนาคต
- หน่วยข่าวกรองของกองทัพอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ว่า กองทัพรัสเซียได้ถอนทัพออกจากพื้นที่ตอนเหนือของยูเครนไปยังเบลารุสและรัสเซียโดยสมบูรณ์แล้ว
- สถาบันฮูเวอร์ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย อาจหันไปใช้อาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง อย่างเช่น อาวุธเคมีหรืออาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี หากเขาล้มเหลวในการได้รับชัยชนะของกองกำลังทหารตามแผนที่วางไว้ในยูเครนตะวันออก
- กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นได้ตัดสินใจขับไล่นักการทูตรัสเซียบางส่วนออกนอกประเทศ โดยญี่ปุ่นได้หารือกับสหรัฐและประเทศในแถบยุโรปเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยุติการทำสงครามในยูเครน
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ดัชนี S&P500 ปิดลดลงหลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,721.12 จุด เพิ่มขึ้น 137.55 จุด หรือ +0.40%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,488.28 จุด ลดลง 11.93 จุด หรือ -0.27%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,711.00 จุด ลดลง 186.30 จุด หรือ -1.34%
- สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สถาบันวิจัยการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (CTA) คาดการณ์รายได้จากการท่องเที่ยวของจีนจะสูงแตะ 1.71 ล้านล้านหยวน และปริมาณการเดินทางภายในประเทศจะสูงเกิน 1.9 พันล้านครั้ง ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565
- กระทรวงแรงงานของสิงคโปร์เปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า อัตราการว่างงานของสิงคโปร์ได้กลับคืนสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนการเกิดโรคโควิด-19 ระบาดแล้วในเดือนก.พ. ทั้งนี้ อัตราว่างงานโดยรวมลดลงสู่ 2.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับ 2.3% ในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราว่างงานของผู้มีถิ่นพำนักในสิงคโปร์ลดลงสู่ 3.0% ในเดือนก.พ.จาก 3.1% ในเดือนม.ค. ส่วนอัตราว่างงานของพลเมืองสิงคโปร์ลดลงสู่ 3.2% ในเดือนก.พ.จาก 3.3% ในเดือนม.ค.
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ แต่ก็ยังคงลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยถูกกดดัน หลังจากประเทศต่าง ๆ ประกาศแผนการที่จะระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 2.23 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 98.26 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ยังคงลดลง 1% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 102.78 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ยังคงลดลง 1.5% ในรอบสัปดาห์นี้
- JPMorgan รายงานว่า การที่สหรัฐปล่อยน้ำมันออกจากคลังน้ำมันสำรองจะ “ประสบความสำเร็จในระยะสั้น” ที่จะชดเชยปริมาณน้ำมันรัสเซียกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันที่คาดว่าหายไปจากตลาดอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม หากมองข้ามไปปี 2023 เป็นต้นไป บรรดาผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกต้องเพิ่มการลงทุนเพื่อชดเชยส่วนต่างน้ำมันรัสเซียที่หายไป และเร่งเติมน้ำมันเข้าสู่คลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ขององค์การพลังงานระหว่างประเทศหรือ IEA
ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19
- สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,387 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,682,437 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,905,872 ราย เสียชีวิต 105 ราย เสียชีวิตสะสม 26,188 ราย
- จีนตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน +1,184 รายในเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 165,577 ราย โดยไม่มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
- รัฐบาลเมืองเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่า เซี่ยงไฮ้ได้สร้างโรงพยาบาลชั่วคราวมากกว่า 100 แห่งสำหรับการรักษาโรคโควิด-19 โดยมีจำนวนเตียงมากกว่า 160,000 เตียง นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลที่กำหนดขึ้นเฉพาะสำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิดอีก 8 แห่งซึ่งมีเตียงมากกว่า 8,000 เตียงในเซี่ยงไฮ้ และจะเปิดให้บริการเพิ่มอีกในสุดสัปดาห์นี้
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 33.58 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่า”ขึ้นจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 33.63 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ นักบริหารการเงิน ระบุเพิ่มเติมว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยงจากความกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยและเร่งลดงบดุลในสัปดาห์นี้ เรามองว่า นอกเหนือจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ตลาดจะจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก และผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
- นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC-CI) ประจำเดือนมี.ค. 65 ในระหว่างวันที่ 22-29 มี.ค. 65 โดยดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 35.5 ลดลงจากระดับ 36.1 ในเดือนก.พ. 65
- นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดยังคงมีมุมมองระมัดระวังต่อเศรษฐกิจไทย แต่ยังคงประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 65 เติบโต 3.3% แม้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเลขประมาณการของธนาคารจะต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ปัจจุบันหลายๆสถาบันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจกำลังปรับลดประมาณการ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 นี้ คาดว่าจะมีมูลค่า 2.23 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้น่าจะดีขึ้น เนื่องจากประชากรในประเทศส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม 1 และ 2 รวมถึงเข็มกระตุ้น ทำให้คนส่วนหนึ่งมีความเชื่อมั่นที่จะเดินทางท่องเที่ยว โดยเห็นได้ว่า หลังจากที่ทางการไทยได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, CNBC