MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยดึงดูดแรงซื้อทองคำ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 7.34 เหรียญ หรือ 0.4% มาอยู่ที่ระดับ 1,853.57 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 5.7 เหรียญ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,847.80 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.9 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 21.723 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 4.64 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,068.07 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 26.48 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 92.41 ตัน

• นักวิเคราะห์อาวุโสของ OANDA กล่าวว่า ตลาดกำลังประเมินสถานการณ์ของราคาทองคำขณะนี้ว่าราคาทองคำสามารถฝ่าทะลุแนวต้านในระยะกลางได้ หรือราคาทองคำแค่ฟื้นตัวเพียงชั่วคราว เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการกลับมาแข็งค่าขึ้น หลังจากทำอ่อนค่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาในรอบเกือบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนลดคาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่ามากขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ท่ามกลางความหวังว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ลง เพื่อช่วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้ทองคำได้รับความสนใจของนักลงทุนต่างชาติ

• นักวิเคราะห์จาก Commerzbank  ชี้ว่า ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับความนิยมจากกองทุน ETF อีกครั้ง

• นักวิเคราะห์จาก ANZ กล่าวว่า เศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อราคาทองคำ ขณะที่ได้เพิ่มความเสี่ยงให้แก่ตลาดหุ้น ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำ เพื่อกระจายความเสี่ยงแทน

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -1.01 จุด หรือ -0.98% มาอยู่ที่ระดับ 102.14 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.055% มาอยู่ที่ระดับ 2.861% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.629% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.0%

• Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย. 

• ประธานธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB นางคริสติน ลาร์การ์ด ชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก(ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) ขึ้นเหนือระดับที่เคยเป็นอัตราติดลบ ภายในเดือนกันยายนปีนี้ พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่า อาจปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากอัตราเงินเฟ้อมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของยุโรปปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.50% และอัตราเงินเฟ้อยุโรปอยู่ที่ระดับ 7.4% ในเดือนเมษายน

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร รวมทั้งข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนส่งสัญญาณยุติการทำสงครามการค้ากับจีน

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,880.24 จุด พุ่งขึ้น 618.34 จุด หรือ +1.98%,
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,973.75 จุด เพิ่มขึ้น 72.39 จุด หรือ +1.86% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,535.27 จุด เพิ่มขึ้น 180.66 จุด หรือ +1.59%

• ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า เขากำลังพิจารณาการปรับลดภาษีสินค้าจีน ขณะที่ได้เรียกร้องให้โอเปกเพิ่มการผลิตน้ำมัน ซึ่งเป็นการต่อสู้กับวิกฤตภาวะเงินเฟ้อ 

• คำสั่งของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.50 แสนล้านดอลลาร์จะหมดอายุลงโดยอัตโนมัติในวันที่ 6 ก.ค.นี้ ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่ารัฐบาลของปธน.ไบเดนจะไม่ขยายระยะเวลาการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐ

• กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนเศรษฐกิจโลกอาจแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากผลพวงการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยระบุว่าการสูญเสียบูรณภาพที่ก่อตัวขึ้นตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาจะทำให้โลกยากจนลงและมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ IMF ระบุว่า นานาประเทศควรลดอุปสรรคทางการค้าเพื่อบรรเทาภาวะขาดแคลนและลดราคาสินค้า หลังจากที่กว่า 30 ประเทศออกมาตรการจำกัดการค้าในภาคอาหาร พลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญอื่น ๆ

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นฤดูที่ชาวอเมริกันจะออกเดินทางท่องเที่ยว

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 110.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 113.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

• นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ปัญหาความตึงตัวของการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในสหรัฐที่ยังคงยืดเยื้อ และความเสี่ยงยูเครน-รัสเซีย เป็นปัจจัยที่ตรึงราคาน้ำมันไว้

• ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าพลังงานของ Mizuho ชี้ว่า ปัจจุบันมีความกังวลในตลาดการเงินมากขึ้น และความกังวลนั้นเริ่มส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจของโลกยังเป็นที่สงสัยว่าจะอยู่ในสถานะที่ดีต่อไปได้อีกหรือไม่

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ

• ความไม่ลงตัวในการเจรจาระหว่างชาติสมาชิกสหภาพยุโรป อาจทำให้ประเด็นการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียอาจถูกเลื่อนไปในเดือนมิถุนายน หลังงานที่ฮังการีส่งสํญญาณไม่เห็นด้วย และเตรียมโหวตไม่เห็นด้วยในการประชุมคณะกรรมการยุโรปในวันที่ 30-31 พฤษภาคมนี้

• ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมเปิดเผยแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในเอเชียระหว่างการเดินทางเยือนภูมิภาค ท่ามกลางการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้น โดยการประกาศนโยบายกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการเยือนภูมิภาคเอเชียของปธน.ไบเดน ซึ่งประกอบด้วยเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ก่อนจะเผยแผนดังกล่าวนั้น ปธน.ไบเดนได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ และจะร่วมหารือระดับทวิภาคีกับนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะหารือเรื่องความมั่นคงเป็นวาระสำคัญ อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า แผนเศรษฐกิจที่ปธน.ไบเดนจะประกาศไม่ได้เป็นข้อตกลงทางการค้ารูปแบบเดิม โดยการค้าเป็นเพียง “เสาหลัก” เสาหนึ่ง แต่จะครอบคลุมด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น การสร้างระบบซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นมากขึ้น การส่งเสริมพลังงานสะอาด และการต่อต้านคอร์รัปชัน

• ประธานาธิบดีอันด์แชย์ ดูดาแห่งโปแลนด์ แสดงการสนับสนุนยูเครน ขณะกล่าวต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติของยูเครน โดยเรียกร้องให้ประชาคมโลกกดดันให้รัสเซียถอนกำลังทหาร และระบุว่าการยกดินแดนใด ๆ เพื่อยุติสงครามจะเป็นการสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับฝั่งตะวันตก

• นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ มีกำหนดประชุมกันในวันนี้ที่กรุงโตเกียว โดยคาดว่าจะเน้นย้ำถึงความเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่างสหรัฐ-ญี่ปุ่นเพื่อตอบโต้สงครามของรัสเซียในยูเครน รวมทั้งท่าทีก้าวร้าวของจีนที่เพิ่มขึ้น และภัยคุกคามจากขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19

• ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 4,144 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,196,302 ราย เสียชีวิต 36 ราย

• กรุงปักกิ่งรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากเป็นประวัติการณ์ในระลอกปัจจุบัน ทำให้เกิดความกังวลว่าปักกิ่งอาจล็อกดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่พยายามกำจัดการแพร่ระบาดของโควิดในชุมชน ปักกิ่งรายงานพบผู้ติดเชื้อ 99 รายในวันอาทิตย์เพิ่มขึ้นจาก 61 รายในวันเสาร์ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรวมยังต่ำ แต่นี่นับเป็นหนึ่งในการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาด โดยส่วนใหญ่ยังพบผู้ติดเชื้อใหม่วันละประมาณ 50 ราย

• บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของยุโรป (EMA) ให้ใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สามในผู้ใหญ่ โดยขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์สามารถใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สามได้ในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนสองเข็มแรกเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีน mRNA ที่ผ่านการรับรองจากสหภาพยุโรป (EU)

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.16 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นในรอบกว่า2สัปดาห์  จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.21 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.05-34.45บาทต่อดอลลาร์

• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.00-34.75 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.29 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 34.25-34.72 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินย่อลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี และเป็นการปรับฐานลงครั้งใหญ่นับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม

• สภาพัฒน์ แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาส 1/65 พบว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้นทั้งในภาคเกษตรกรรมและนอกภาคเกษตรกรรม ขณะที่อัตราการว่างงาน ลดลงต่ำสุดในช่วงที่มีการระบาดของโควิด ส่วนหนี้ครัวเรือนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง โดยสถานการณ์แรงงานไตรมาส 1/65 ภาพรวมการจ้างงานมีจำนวนทั้งสิ้น 38.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรม สำหรับการจ้างงานภาคเกษตรกรรม มีจำนวน 11.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.0% จากการเพิ่มการผลิตสินค้าเกษตรในกลุ่มพืชสำคัญ ส่วนนอกภาคเกษตรกรรมมีการจ้างงาน 27.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.0% 

ข่าวอื่นๆ

• ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเรด เดต เทคโนโลยี เผยว่า แพลตฟอร์มเครือข่ายบริการบนบล็อกเชน (Blockchain-based Service Network – BSN) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนนั้น กำลังวางแผนขยายฐานธุรกิจครั้งใหญ่ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ขณะที่จีนเดินหน้าผลักดันให้เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ของประเทศ ทั้งนี้ BSN ถูกกำหนดให้เป็น “ร้านค้าครบวงจร” เพื่อการปรับใช้บล็อกเชนในคลาวด์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้นทุนสูงและใช้เวลามาก โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการเชื่อมโยงบล็อกเชนต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อช่วยธุรกิจใช้เทคโนโลยีนี้

• นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า คริปโทเคอร์เรนซีไม่ได้อิงมูลค่ากับสิ่งใด และควรได้รับการควบคุมดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนนำเงินออมออกมาซื้อคริปโทเคอร์เรนซีเพื่อเก็งกำไร

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest