• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 25 พฤษภาคม 2565

    25 พฤษภาคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 13.89 เหรียญ หรือ 0.75% มาอยู่ที่ระดับ 1,867.78 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 17.6 เหรียญ หรือ 0.95% ปิดที่ 1,865.4 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 1.57% ปิดที่ 22.063 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,068.07 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 26.48 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 92.41 ตัน


  • นักวิเคราะห์อาวุโสการตลาดของ City Index กล่าวว่า สกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าช่วยสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าสกุลเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงต่อ ทั้งนี้ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจน้อยลงจากนักลงทุน เนื่องจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทองคำยังคงเผชิญแรงเทขายค่อนข้างมาก แต่ยังคงปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วันได้


  • นักวิเคราะห์ของ Fxstreet กล่าวว่า ราคาทองคำระหว่างวันได้รับแรงกดดันจากการเทขายของนักลงทุน และการกลับเข้ามาซื้อใหม่ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงใกล้ระดับต่ำสุดแถวบริเวณ 1,850 เหรียญ ในช่วงก่อนการซื้อขายของตลาดยุโรป ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และการเติบโตของเศรษฐกิจในจีน ขณะที่นโยบายการการเงินที่เข้มงวดของเฟดยังเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ และตลาดยังคงจับตาตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ


  • นักเศรษฐศาสตร์จาก Commerzbank ชี้ว่า การที่นาง Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น และได้หนุนให้ทองคำขึ้นไปที่ 1,865 เหรียญ


  • ข้อมูลจาก Commodity Future Trading Commission (CFTC) บ่งชี้ว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์กำลังลดสถานะซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางอีกครั้งหลังจากราคาดีดกลับขึ้นมายืนสูงกว่าระดับ 1,800 เหรียญได้


  • นักวิเคราะห์จาก TD Securities ชี้ว่า นับจากนี้ไป หากเฟดยอมสูญเสียการเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อแลกกับการควบคุมเงินเฟ้อ จะทำให้ระดับแนวต้านราคาทองคำเลื่อนลงมาอยู่ระดับที่ต่ำลงอีก สะท้อนถึงแรงกดดันที่มากขึ้น


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -1.4 จุด หรือ -1.36% มาอยู่ที่ระดับ 101.75 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.052% มาอยู่ที่ระดับ 2.754% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.52% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.234%


  • Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย. 


  • ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากบริษัทที่เน้นการส่งออกได้ขายสกุลเงินต่างประเทศเพื่อใช้ในการจ่ายภาษี


  • นายเจอโรม พาวเวล เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 แล้วในวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติให้การรับรองนายพาวเวลาด้วยคะแนนเสียง 80-19 เสียง เห็นพ้องให้นายพาวเวลรับตำแหน่งประธานเฟดต่อไปอีก 4 ปี หลังจากที่เขาครบวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา


  • ธนาคารพาณิชย์ในวอลล์สตรีทได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐระงับการเปิดตัวดอลลาร์ดิจิทัล โดยระบุว่าสกุลเงินดิจิทัลที่สนับสนุนโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะดึงเม็ดเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ออกจากระบบธนาคาร ทั้งนี้สมาคมนายธนาคารสหรัฐฯ (ABA) และสถาบันนโยบายธนาคาร (BPI) กล่าวว่า สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยเฟด หรือ CBDC นั้นจะกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับเงินฝากธนาคาร และจะทำให้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจและครัวเรือนน้อยลงด้วย


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และบริษัทจดทะเบียนบางแห่งได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,928.62 จุด เพิ่มขึ้น 48.38 จุด หรือ +0.15%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,941.48 จุด ลดลง 32.27 จุด หรือ -0.81% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,264.45 จุด ร่วงลง 270.83 จุด หรือ -2.35%


  • หอการค้าเยอรมัน ประเมินเงินเฟ้อของเยอรมันปีนี้ อาจอยู่ที่ระดับ 7% ในปีนี้ โดยเป็นการเพิ่มประมาณการเป็นสองเท่าจากเดิมที่ประเมินที่ระดับเงินเฟ้อ 3.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ และสูงกว่าเงินเฟ้อปีก่อนที่ระดับ 3.1%


  • คนจีนแห่ฝากเงินธนาคาร หนีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นอย่างที่เคยเป็นมา มูลค่าบัญชีเงินฝากในธนาคารจีนเพิ่มขึ้นมาแตะที่ 109.2 ล้านล้านหยวน (16.3 ล้านล้านดอลลาร์) เมื่อสิ้นเดือนเม.ย. โดยมูลค่าเงินฝากของจีนในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 7% ขณะที่เมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 5.5% 


  • นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนให้คำมั่นว่า รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและผลักดันให้เศรษฐกิจกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว รวมทั้งรักษาดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจให้คงอยู่ในระดับที่เหมาะสม


  • รัฐบาลจีนจะออกมาตรการลดหย่อนภาษีวงเงินกว่า 1.4 แสนล้านหยวน (2.1 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการล็อกดาวน์ช่วงโควิด-19 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะคืนเงินภาษีเพิ่มเติมให้กับบริษัทเอกชน และจะลดหย่อนภาษีอีก 6 หมื่นล้าหยวนสำหรับผู้ซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยมาตรการลดหย่อนภาษีดังกล่าวคิดเป็น 0.1% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2564


  • บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประกาศว่า บริษัทจะปรับลดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลง 100,000 คัน สู่ระดับ 850,000 คันในเดือนมิ.ย. เนื่องจากปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งการที่สหรัฐส่งสัญญาณว่าอาจจะจำกัดส่งออกน้ำมันเพื่อควบคุมราคาพลังงานในประเทศ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 52 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 109.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 113.56 ดอลลาร์/


  • นายอามิน นาสเซอร์ ซีอีโอของซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย ออกมาเตือนว่า โลกกำลังเผชิญกับภาวะอุปทานน้ำมันหดตัว เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่ไม่กล้าลงทุนในธุรกิจภาคนี้เพราะต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านพลังงานสะอาด


  • นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ตลาดน้ำมันกำลังเผชิญภาวะที่ท้าทายหลากเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่มีความชัดเจนคือ ตลาดน้ำมันกำลังเผชิญภาวะอุปทานตึงตัวสุดขีด และแรงกดดันนั้นจะผลักดันราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ


  • รัสเซียเดินหน้าคบจีนพร้อมทบทวนสัมพันธ์ชาติตะวันตก ทั้งนี้ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า ทางการรัสเซียจะพิจารณาอย่างจริงจังว่ายังจำเป็นต้องมีการสถาปนาความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกขึ้นใหม่หรือไม่ และกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่าตอนนี้ตะวันตกอยู่ในสถานะใช้อำนาจเผด็จการกับเรา ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของรัสเซียกับจีนจึงยิ่งเติบโตเร็วขึ้น


  • นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐมนตรีกลาโหมเกือบ 50 ประเทศทั่วโลกได้ ตกลงที่จะส่งอาวุธล้ำสมัยไปยังยูเครนมากขึ้น รวมถึงฐานยิงจรวดและขีปนาวุธฮาร์พูนเพื่อป้องกันชายฝั่ง


  • สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ กล่าวหลังสิ้นสุดการประชุมกับกลุ่ม Quad ว่า สหรัฐยังคงมีนโยบายที่จะมุ่งสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพทั่วทั้งช่องแคบไต้หวันไม่เปลี่ยนแปลง


  • นายเซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) ว่าหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน ทำให้การจัดประชุมใด ๆ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัสเซียกลายเป็นเรื่องยากขึ้น แต่การจะยุติสงครามในครั้งนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับปธน.ปูติน ซึ่งนี่อาจเป็นทางเดียวที่จะยุติสงคราม


  • นายโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (EU) อาจจะตกลงที่จะคว่ำบาตรการค้าน้ำมันกับรัสเซียในอีกไม่กี่วัน ขณะที่รัสเซียเผยถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนที่เพิ่มขึ้น หลังถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร อันเนื่องมาจากการบุกโจมตียูเครน


  • นายโคอิจิ ฮากิอุดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ, การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผย ว่าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐที่จะมีขึ้นในเดือนก.ค. นี้อาจจัดขึ้นที่ฮาวาย


  • ผู้นำแวดวงธุรกิจของญี่ปุ่นพากันขานรับข่าวสหรัฐกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกเพื่อความเจริญรุ่งเรือง (Indo-Pacific Economic Framework for Prosperity : IPEF) ร่วมกับ 12 ประเทศเอเชียซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น ทั้งนี้ นายมาซาคาสึ โทคุระ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) กล่าวว่า กรอบความร่วมมือ IPEF เป็นก้าวสำคัญของสหรัฐในการกลับมาเข้าร่วมข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (TPP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่สำคัญ หลังจากที่อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ นำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าวเมื่อปี 2560


ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19


  • Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 528,506,898 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,302,375 ราย โดยสหรัฐฯ มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (85,113,962) รองลงมาคืออินเดีย (43,140,068) บราซิล (30,803,995)


  • ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-2019 ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 5,013 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,424,750 ราย อีกทั้งยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 33 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 8,146 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 29,844 ราย


  • บริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคเปิดเผยผลการทดลองทางคลินิกเบื้องต้นระบุว่า วัคซีนของไฟเซอร์จำนวน 3 เข็มมีประสิทธิภาพ 80% ในการป้องกันเด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปีไม่ให้ล้มป่วยจากโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงที่ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนกำลังแพร่ระบาด


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  34.11 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.15 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดอยู่ที่ระดับ 34.05-34.20 บาทต่อ ดอลลาร์


  • วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินจะไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ เนื่องจาก

1.แม้อัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะอยู่เหนือกรอบเป้าหมาย แต่การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อไม่ได้กระจายเป็นวงกว้าง โดยมีสัญญาณเล็กน้อยของแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากอุปสงค์ยังคงอ่อนแอ ท่ามกลางตลาดแรงงานที่ซบเซา

2. ไทยรองรับความเสี่ยงต่อผลกระทบจากภายนอกได้ดีกว่าบางประเทศ สะท้อนจากเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในอันดับที่เข้มแข็ง 

3. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังเติบโตช้า และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปีนี้จะยังอยู่ในระดับต่ำกว่าก่อนเกิดการระบาด โดย GDP ไตรมาสแรกของไทยเติบโตเพียง 2.2% YoY ซึ่งอ่อนแอกว่าเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในภูมิภาค


ที่มาจาก : ReutersFXstreet, Infoquest

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com