ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้นมีราคาถูกลง และน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐได้หนุนแรงซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยด้วย ทั้งนี้ วัน Memorial Day ซึ่งเป็นวันหยุดของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค.
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -3.09 เหรียญ หรือ -0.17% มาอยู่ที่ระดับ 1,849.59 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 3.4 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,857.3 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 13.1 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 22.096 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,069.81 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 24.74 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 94.15 ตัน
- นักเศรษฐศาสตร์จาก Commerzbank ระบุว่า ทองคำมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในลักษณะ Sideways จากการที่นักลงทุนให้ความสนใจทองคำลดน้อยลง เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเพียงเล็กน้อย และการขายทองออกของกองทุน ETF ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทองคำขาดแรงหนุนจากนักลงทุน
- นักกลยุทธ์สกุลเงินจาก DailyFX กล่าวว่า ทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับแรงสนับสนุนจากการปรับลดคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดในปีหน้า และปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาทองคำคือการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
- หุ้นส่วนผู้จัดการของ SPI Asset Management กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง อาจช่วยผลักดันให้เฟดผ่อนคลายนโยบายการเงินที่คุมเข้มลง แต่ก็ไม่เป็นผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้มากนัก
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.12 จุด หรือ -0.12% มาอยู่ที่ระดับ 101.71 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 2.743% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 2.484% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.259%
- Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 97% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย.
- นักวิเคราะห์จาก TD Securities ระบุว่า รายการงานประชุมเฟด ไม่ได้เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ใดๆ ตลาดเพียงแต่เริ่มตระหนักรู้ว่าฟดจะใช้มาตรการอย่างจริงจังในการควบคุมเงินเฟ้อ
- ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย (RBI) เปิดเผยในวันนี้ว่า RBI มุ่งเป้าปรับลดเงินเฟ้อลงให้ใกล้ระดับเป้าหมาย แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามข้อกังวลด้านการเติบโตของเศรษฐกิจได้
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นต่อเนื่องในวันศุกร์ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของสหรัฐได้แตะระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,212.96 จุด พุ่งขึ้น 575.77 จุด หรือ +1.76%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,158.24 จุด พุ่งขึ้น 100.40 จุด หรือ +2.47%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,131.13 จุด พุ่งขึ้น 390.48 จุด หรือ +3.33%
- วาณิชธนกิจ Goldman Sachs ระบุว่า เห็นสัญญาณอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯผ่านพ้นจุดสูงสุดแล้ว
- วุฒิสมาชิกสหรัฐได้เปิดเผยร่างกฎหมายซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวางไม่ให้บรรดาแอปสโตร์ในสหรัฐ รวมถึงแอปสโตร์ของบริษัทแอปเปิลและกูเกิล เป็นโฮสต์ให้กับแอปพลิเคชันที่อนุญาตให้มีการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลของจีน เนื่องจากกังวลว่าระบบการชำระเงินดังกล่าวจะเป็นช่องทางให้รัฐบาลจีนเข้ามาสอดแนมชาวอเมริกัน
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากปริมาณน้ำมันที่ตึงตัว และแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ เนื่องในวัน Memorial Day ซึ่งเป็นวันหยุดของสหรัฐในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค.
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 115.07 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 4.3% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.03 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 119.43 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 6.1% ในรอบสัปดาห์นี้
- นาย จิโอวานนี สเตาโนโว นักวิเคราะห์ของ UBS กล่าวว่า ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รวมถึงฤดูกาลขับรถของสหรัฐฯ ทำให้อุปทานน้ำมันตึงตัว ดังนั้น จึงเป็นผลบวกต่อราคาน้ำมันดิบ
- บริษัทแกซพรอมของรัสเซีย ออกมาระบุว่า บริษัทยังคงส่งก๊าซธรรมชาติให้กับยุโรปผ่านทางยูเครน
- นักวิเคราะห์จาก Price Futures Group ชี้ว่า กองกำลังอิหร่านที่เข้าบุกยึดเรือเก็บน้ำมันสัญชาติกรีซในอ่าวเปอร์เซีย สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนที่ถือสถานะขายน้ำมันในช่วงสุดสัปดาห์
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- องค์การอนามัยโลก (WHO) ลงมติ เพื่อประณามรัสเซียอย่างรุนแรง จากการใช้ปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครน รวมถึงโจมตีโรงพยาบาลและสถานพยาบาลอื่น ๆ ทั้งนี้ มติดังกล่าวที่ผลักดันโดยยูเครนนั้นไม่ได้มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมใด ๆ อาทิ การระงับสิทธิในการลงมติของรัสเซียใน WTO แต่เป็นการเรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีสถานพยาบาลต่าง ๆ พร้อมทั้งให้ความคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มคนที่ทำงานด้านมนุษยธรรม
- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเปิดเผยว่า เขายินดีที่บริษัทต่างชาติบางส่วนถอนตัวออกจากรัสเซีย เพราะจะเปิดโอกาสให้ธุรกิจในประเทศเข้ามาเติบโตแทนที่ นอกจากนี้ยังเตือนบรรดาชาติตะวันตกว่า รัสเซียจะยังคงหาทางเพื่อซื้อสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงและสินค้าหรู
- กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถี "เซอร์คอน" (Zircon) ที่มีความเร็วเหนือเสียงในระยะทางประมาณ 1,000 กม. (625 ไมล์)
ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19
- ศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ เพิ่ม 3,854 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,223,067 ราย เสียชีวิต 26 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 29,998 ราย
- กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นผ่อนคลายการเดินทางไปยัง 36 ประเทศและพื้นที่ ซึ่งรวมถึงสหรัฐ, อังกฤษ, แคนาดา และฮ่องกง โดยยกเลิกการเรียกร้องให้ชาวญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นไปยังพื้นที่ดังกล่าว
- กรุงปักกิ่งตัดสินใจผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในบางพื้นที่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ อย่างไรก็ดี กรุงปักกิ่งยังไม่อนุญาตให้ธุรกิจกวดวิชา อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และร้านคาราโอเกะเปิดให้บริการ
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.09 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.18 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.00-34.40 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.00-34.20 บาทต่อดอลลาร์
- สำนักข่าวซินหัวรายงาน ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ RCEP ถือเป็นรถไฟสายด่วน ยกระดับการค้าการลงทุนจีน-ไทย รวมถึงทำให้ไทยมีเส้นทางขนส่งทุเรียนและผลไม้ทางอากาศสู่จีนเร็วที่สุดในหนึ่งวัน โดยมี“กว่างซี” ประตูเชื่อมการค้าไทย-จีน มูลค่ากว่า 2.54 แสนล้านบาท ในปี 2564 นอกจากนี้ หมอนยางพารา อาหารไทยสารพัดเมนู ทุเรียนหมอนทอง และผ้าไหมไทย จัดเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าไทยจำนวนมากที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวจีนตลอดหลายปีที่ผ่านมา และได้รับอานิสงส์จากความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและไทย
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, Prachchat, CNBC