• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 6 มิถุนายน 2565

    6 มิถุนายน 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -17.53 เหรียญ หรือ -0.94% มาอยู่ที่ระดับ 1,852.21 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 21.2 เหรียญ หรือ 1.13% ปิดที่ 1,850.2 เหรียญ ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวมากที่สุดในรอบราว 3 สัปดาห์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 36.7 เซนต์ หรือ 1.65% ปิดที่ 21.908 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,066.04 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 2.32 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 90.38 ตัน


  • นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ในขณะที่นักลงทุนคาดหวังตัวเลขการจ้างงานที่เติบโตในอัตราที่ช้าลง ซึ่งจะทำให้เฟดเปลี่ยนมุมมองการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ได้ลดความร้อนแรงในระยะเวลาอันใกล้ ทำให้ตลาดหลีกหนีออกจากสินทรัพย์หลบคามเสี่ยงอย่างทองคำชั่วคราว


  • นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร ANZ กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อที่คงอยู่ในระดับสูงทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทองคำ และคาดว่าราคาทองคำจะสามารถแตะระดับ 1,950 เหรียญได้


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.27 จุด หรือ 0.27% มาอยู่ที่ระดับ 102.09 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.022% มาอยู่ที่ระดับ 2.937% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.663% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.274%


  • Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 99.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย


  • ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ลอเร็ตตา เมสเตอร์ กล่าว เธอไม่สนับสนุนให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และเตือนว่าอัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเร็วขึ้นหรือช้าลงนับตั้งแต่เดือนก.ย.นั้น ขึ้นอยู่กับทิศทางของอัตราเงินเฟ้อ


  • นักเศรษฐศาสตร์จาก TD Secsurities ขี้ว่า ถึงแม้รายงานตัวเลขการจ้างานนอกภาคเกษตรแข็งแกร่งที่ระดับ 390,000 ตำแหน่ง แต่ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีดังกล่าวอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงภาพรวมนโยบายการเงินของเฟด 


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การเปิดเผยข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ จะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,899.70 จุด ลดลง 348.58 จุด หรือ -1.05%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,108.54 จุด ลดลง 68.28 จุด หรือ -1.63%
  • ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 12,012.73 จุด ลดลง 304.16 จุด หรือ -2.47%


  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 325,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.5%


  • นักวิเคราะห์จาก UOB Group ชี้ว่า จีนจะเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นอีก โดยประมาณมาตรการเป็นตัวเลขส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนเพิ่มขึ้นอีก 2% ทั้งนี้ ปัจจุบันจีนได้ประกาศ 33 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยเหลือภาคธุรกิจ สนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานมีเสถียรภาพ และกระตุ้นการบริโภคและการลงทุน


  • นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo ระบุว่า ภาพรวมอุปทานแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้น ช่วยลดทอนแรงกดดันค่าแรงที่กำลังพยายามปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ช่วยให้แรงงานได้รับการจ้างงานมากขึ้น ทั้งนี้ รายงานตัวเลขการมีส่วนร่วมในของแรงงานเริ่มปรับตัวขึ้นในเดือนพฤษภาคม


  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สั่งการให้ทีมงานศึกษาหาทางเลือกเกี่ยวกับการยกเลิกกำแพงภาษีบางส่วนที่เคยตั้งไว้กับสินค้าจีน เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าการตัดสินใจของกลุ่มโอเปกที่จะเพิ่มเป้าหมายการผลิตน้ำมันมากกว่าที่วางแผนไว้เล็กน้อยนั้น จะไม่ทำให้มีปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นมากนักในตลาดโลก และปริมาณน้ำมันอาจจะตึงตัว เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นในจีนหลังเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 118.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.11 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 119.72 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า รัฐบาลทั่วโลก และฝ่ายบริหารของไบเดน ได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตน้ำมันเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อรับมือกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการผลิตน้ำมันจะเพิ่มขึ้นในอนาคต  แต่โอเปกพลัสก็ยังประสบปัญหาในการบรรลุโควตาการผลิต


  • นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือนนี้ และจะเข้าพบกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เพื่อหารือถึงความต้องการที่จะทำให้ราคาน้ำมันลดลง และเพื่อเป็นการลงโทษรัสเซียที่บุกโจมตียูเครน โดยการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียจะถูกเพิ่มเข้าไปในการเดินทางที่วางแผนไว้แล้วไปยังอิสราเอล เยอรมนี และสเปน


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ


  • ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (2 มิ.ย.) ว่า กองกำลังรัสเซียได้ยึดครองดินแดนยูเครนอยู่ราว 20% และในวันศุกร์นี้ (3 มิ.ย.) ครบ 100 วันของการสู้รบซึ่งยังคงดำเนินอยู่หลายด้าน


  • เกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธอย่างน้อยหนึ่งลูกลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งตะวันออก เพียงหนึ่งวันหลังนายคิม ซอง นักการทูตระดับสูงของสหรัฐเดินทางออกจากเกาหลีใต้และเรือบรรทุกเครื่องบินโรนัลด์ เรแกนของสหรัฐเสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบ 3 วันร่วมกับเกาหลีใต้ในทะเลฟิลิปปินส์ 


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์ "โควิด-19" ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,162 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,245,520 ราย และเสียชีวิต 27 ราย เสียชีวิตสะสม (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) 8,500 ราย


  • สหรัฐ จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับเด็กเล็กได้อย่างเร็วที่สุดภายในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ หากรัฐบาลสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยจะมีวัคซีนโควิด-19 ที่เพียงพอจากบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และโมเดอร์นา อิงค์ เพื่อเริ่มโครงการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กเล็กเมื่อวัคซีนได้รับการอนุมัติ


  • ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ส่งวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงให้ผู้มีความเสี่ยงสูง เพื่อสกัดการระบาด ทั้งนี้ ตรวจพบผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิงอย่างน้อย 20 รายใน 11 รัฐของสหรัฐ


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับระดับ  34.37 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลง จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.31 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณสิ้นวันที่ 2 มิ.ย.) มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.10-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.25-34.45 บาทต่อดอลลาร์


  • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.00-34.70 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อัตราเงินเฟ้อของไทย เดือนพ.ค. ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตลอดจนผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางออสเตรเลีย


  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานจำนวนผู้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ยอดสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม – 1 มิถุนายน 2565 รวม 1,359,056 คน คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 นี้ จะได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 5 แสนคน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้าที่เดือนละ 3 แสน และในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น จะกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ถึงเดือนละ 1 ล้านคน โดย ททท. คาดว่าในปี 2565 นี้ ประเทศไทยจะรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 7-10 ล้านคน สร้างรายได้สู่ประเทศไทยไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาท 



ที่มาจาก : ReutersFXstreet, Infoquest, Kitco

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com