ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 23.67 เหรียญ หรือ 1.31% มาอยู่ที่ระดับ 1,834.43 เหรียญในเช้าวันนี้
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.1 เหรียญ หรือ 0.34% ปิดที่ 1,819.6 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 46.6 เซนต์ หรือ 2.22% ปิดที่ 21.42 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,063.94 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 4.42 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 88.28 ตัน
- นักวิเคราะห์ของ Saxo Bank กล่าวว่า ทองคำกำลังถูกพิจารณาระหว่างปัจจัยลบจากอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวสูงขึ้น กับปัจจัยบวกต่อทองคำ คือ ความเสี่ยงมากขึ้นในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่เงินเฟ้อสูง (stagflation)
- ธนาคาร Societe Generale ระบุว่า การตลาดหุ้นปรับตัวลงอย่างมาก อาจทำให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงมาถือครองทองคำ
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นในเช้านี้ +0.120 จุด หรือ -0.11% มาอยู่ที่ระดับ 104.73 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.122% มาอยู่ที่ระดับ 3.326% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 3.398% ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.072%
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537
- ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% หรือ 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไป รอบวันที่ 26-27 กรกฎาคม
- ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในสิ้นปี 2566 และชะลอตัวสู่ระดับ 3.4% ในปี 2567 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%
- เฟดปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 1.7% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.8% ในเดือนมี.ค. และคาดว่าจะขยายตัว 1.7% ในปี 2566 นอกจากนี้ เฟดคาดว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับ 5.2% ในสิ้นปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.3% และจะชะลอตัวสู่ระดับ 2.6% และ 2.2% ในปี 2566 และ 2567
- นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวานนี้ ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นหวังว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นอย่างเหมาะสม เพื่อรับมือกับค่าเงินเยนที่ร่วงอย่างรุนแรงและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศจัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดพันธบัตรที่มีความผันผวน หลังจากนักลงทุนเทขายออกมาอย่างหนัก
- นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เตือนว่า เงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อช่วงหนึ่งเดือนก่อนหน้าอย่างมากและจำเป็นต้องมีการใช้นโยบายรับมือขั้นเด็ดขาด ดังนั้น RBA จึงตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเป็นพิเศษในช่วงต้นเดือนนี้
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า PBOC หลีกเลี่ยงการดำเนินนโยบายการเงินที่แตกต่างมากขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งอาจจะสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินหยวน
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันพุธ หลังจากเฟด มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเฟดในการควบคุมเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,668.53 จุด พุ่งขึ้น 303.70 จุด หรือ +1.00%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,789.99 จุด เพิ่มขึ้น 54.51 จุด หรือ +1.46% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,099.15 จุด พุ่งขึ้น 270.81 จุด หรือ +2.50%
- เศรษฐกิจจีนมีเสถียรภาพขึ้นบ้างในเดือนพ.ค. หลังจากที่ดิ่งลงในเดือนก่อน เมื่อผลผลิตภาคอุตสาหกรรมพุ่งขึ้นอย่างไม่คาดคิด แต่การอุปโภคบริโภคยังคงชะลอตัว ทั้งนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หลังจากที่ร่วงลง 2.9% ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.7% แต่ยอดค้าปลีกร่วงลง 6.7% แต่ก็ดีกว่าที่คาดไว้ และปรับตัวดีขึ้นจากที่ดิ่งลง 11.1% ในเดือนเม.ย.
- สำนักงานศุลกากรนครเซินเจิ้นของจีนเปิดเผยว่า ปริมาณการค้าระหว่างเซินเจิ้นกับประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค. ปี 2565 เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 3.54 แสนล้านหยวน
- ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสระบุว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลดลง 3 สัปดาห์ติดต่อกันแตะที่ 39% เข้าใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 36% ของเมื่อปลายเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของการดำรงตำแหน่งปธน.
- รัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าของอินเดียในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 20.55% แตะที่ 3.894 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 62.83% แตะที่ 6.322 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าพุ่งเป็นประวัติการณ์ที่ 2.429 หมื่นล้านดอลลาร์
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวานนี้
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 3.62 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 115.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.66 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 118.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ตำหนิบริษัทโรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐที่มีกำไรมหาศาลจากการกลั่นน้ำมัน ขณะที่ชาวอเมริกันประสบความยากลำบากจากปัญหาราคาน้ำมันแพง นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังระบุว่า รัฐบาลเตรียมใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมันและความสามารถในการกลั่นน้ำมันของสหรัฐ
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- รัสเซียประกาศกับกองกำลังยูเครนซึ่งยึดโรงงานเคมีแห่งหนึ่งในเมืองซีวีโรโดเนสก์เป็นฐานที่มั่น ให้วางอาวุธและยอมแพ้ในเมื่อวาน ซึ่งบ่งชี้ว่า กองทัพรัสเซียมีความได้เปรียบในการรุกคืบเข้าควบคุมพื้นที่ด้านตะวันออกของยูเครน
- กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเปิดเผยการออกมาตรการคว่ำบาตรต่อสื่อมวลชน 29 คน และเจ้าหน้าที่กลาโหมของสหราชอาณาจักรอีก 20 คน
- สหรัฐสนับสนุนคำยืนยันของไต้หวันว่า ช่องแคบไต้หวันซึ่งแบ่งแยกเกาะไต้หวันออกจากจีนนั้นเป็นน่านน้ำสากล โดยถือเป็นการปฏิเสธจีนในการอ้างอธิปไตยเหนือเส้นทางยุทธศาสตร์ดังกล่าว
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- สถานการณ์โควิด-19 ในไทย พบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2,153 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,269,478 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 8,705 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
- ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้แนะนำอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ FDA อนุมัติฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาให้กับเด็กอายุ 6-17 ปี
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กรุงปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 63 รายในวันอังคารที่ผ่านมา โดยยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 50 รายเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน โดยยอดผู้ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่ลดลงสู่ระดับเลขหลักเดียวเมื่อสัปดาห์ก่อน
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.85 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.02 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.70-34.90 บาทต่อดอลลาร์
- เกียรตินาคินภัทร คาดการณ์ว่าเงินเฟ้ออาจไม่ใช่ปัญหาระยะสั้น และมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นยาวนานกว่าที่คาด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยไทยกำลังเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น คาดการณ์เงินเฟ้อเป็น 6.6% ในปี 2565 และ 3.1% ในปี 2566 สิ่งที่ต้องจับตามอง คือ แนวโน้มเงินเฟ้อสูง และดอกเบี้ย จะส่งผลอย่างมากต่อปัญหาค่าครองชีพ ต้นทุน และส่งผลต่อเนื่องกับภาระการชำระหนี้ของครัวเรือนที่จะปรับตัวสูงขึ้น สร้างความเสี่ยงให้เศรษฐกิจไทยซึมยาว
- ธนาคารกรุงไทย ประเมินว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนถึงขั้นที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต้องเรียกประชุมนัดพิเศษก่อนการประชุมตามรอบปกติในเดือน ส.ค.65 เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยไม่ได้มีความน่ากังวลมาก โดยจะเห็นได้จากในอดีตการประชุม กนง.นัดพิเศษในวันที่ 20 มี.ค.63 มาจาการที่ประเทศไทยเผชิญกับผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนักจนทำให้ กนง.ต้องปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 1.00% มาเหลือ 0.75% เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องในตลาดการเงินและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมอย่างเร่งด่วน
- ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวในเอกสารเผยแพร่ ว่า "ธปท. ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด และพร้อมเข้าดูแลเมื่อความผันผวนมากผิดปกติ" จากกรณีค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวผันผวนและอ่อนค่าแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี
- คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 65 โดยกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมัน ให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสมของกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, RYT9