MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังจากนายเจอโรม ประธานเฟด กล่าวยืนยันต่อสภาคองเกรสว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลง

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 5.68 เหรียญ หรือ 0.31% มาอยู่ที่ระดับ 1,837.04 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,838.40 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 34.7 เซนต์ หรือ 1.59% ปิดที่ 21.421 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 12.6 เหรียญ หรือ 1.34% ปิดที่ 926.9 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.03 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,071.77 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ซื้อสุทธิ 3.41 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 96.11 ตัน

• สวิตเซอร์แลนด์นำเข้าทองคำจากรัสเซียในปริมาณ 3.1 ตันในเดือนพ.ค. มูลค่าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 2.3% ของการนำเข้าทองคำทั้งหมด อย่างรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าค่าเฉลี่ยการนำเข้าทองคำเดือนละ 2 ตันในช่วงเวลา 12 เดือนนับถึงเดือนก.พ.

• นักวิเคราะห์จาก Kinesis Money กล่าวว่า ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ได้เข้าจำกัดการร่วงของราคาทองคำ ในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นับตั้งแต่ภาวะถดถอยในช่วงก่อนหน้านับครั้งไม่ถ้วน และได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นสินทรัพย์ที่เก็บรักษามูลค่าได้ตลอด

• นักวิเคราะห์อาวุโสของ ActivTrades กล่าวว่า หากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เปิดทางขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในเดือนก.ค. อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีกและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งจะกดดันทองคำให้อยู่ในแนวโน้มขาลง

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -0.47 จุด หรือ -0.45% มาอยู่ที่ระดับ 104.23 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.115% มาอยู่ที่ระดับ 3.16% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.038% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.122%

• ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณ ให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่นที่จะควบคุมเงินเฟ้อให้ลงมา และจะดำเนินการอย่างรวดเร็วในการดำเนินการ และชี้ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อควบคุมความร้อนแรงของเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม เขายังระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

• ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ ชี้ว่า สงครามยูเครนและการปิดเมืองของประเทศจีน สร้างแรงกดดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้น และเพิ่มเติมปัญหา ซึ่งไม่กระทบเพียงแต่สหรัฐเท่านั้น แต่กระทบหลายประเทศทั่วโลกเช่นกัน ทั้งนี้ ยังระบุว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ย ไม่ช่วยปรับลดระดับราคาก๊าซหรือราคาอาหาร

• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนเม.ย.ในวันนี้ โดยระบุว่า การทรุดตัวของเงินเยนเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่กรรมการ BOJ อภิปรายกันในการประชุมวันดังกล่าว โดยกรรมการส่วนหนึ่งแสดงความกังวลว่า เงินเยนที่ผันผวนมากเกินไปจะส่งผลให้ภาคเอกชนประสบความยากลำบากในการวางแผนธุรกิจ ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0%

• บริษัทพิมโค (PIMCO) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนขนาดใหญ่ของสหรัฐระบุในวันอังคารว่า ตราสารหนี้อาจจะกลายเป็นสิ่งที่มีความน่าดึงดูดอีกครั้ง หลังจากแรงเทขายในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้มูลค่าตราสารหนี้ดิ่งลงเป็นอย่างมาก และนักลงทุนกังวลว่าอาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่งดิ่งลงในช่วงต้นปีนี้ในอัตราที่รุนแรงเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวยืนยันต่อสภาคองเกรสว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสกัดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่าการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มพลังงานยังเป็นปัจจัยฉุดตลาดเช่นกัน

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,483.13 จุด ลดลง 47.12 จุด หรือ -0.15%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,759.89 จุด ลดลง 4.90 จุด หรือ -0.13% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,053.08 จุด ลดลง 16.22 จุด หรือ -0.15%

• ผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตอล พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า อินเดียกำลังผงาดขึ้นเป็นประเทศที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากมีเทคโนโลยีและนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลที่เป็นปัจจัยเอื้ออำนวยต่อการลงทุน

• สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษพุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี และยังสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม G7 โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทั้งนี้เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 0.7% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.6% เล็กน้อย

• นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า เธอยังคงมองว่ามีความเป็นไปได้ที่การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะติดลบเป็นเวลา 2 ไตรมาส ซึ่งเป็นเกณฑ์บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เธอเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อจะชะลอตัวลง ขณะที่ยังคงมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยและฉุดดีมานด์น้ำมันชะลอตัวลง

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 3.33 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 106.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. 2565
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.91 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 111.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 2565

• สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ยื่นขออนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ เพื่อระงับการเก็บภาษีรัฐบาลกลาง (Federal Tax) สำหรับน้ำมันเบนซินเป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน โดยปัจจุบันภาษีดังกล่าวอยู่ที่ 18.4 เซนต์/แกลลอน โดยมีเป้าหมายที่จะลดราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้นในขณะนี้ และบริษัทน้ำมัน 7 แห่งจะเข้าพบปธน.ไบเดนในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่บริษัทเหล่านี้ถูกกดดันจากทำเนียบขาวให้ลดราคาเชื้อเพลิงลงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในขณะที่บริษัทน้ำมันกอบโกยผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ราคาน้ำมันแพง

• ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า ปริมาณน้ำมันน้ำมันจากรัสเซียส่งออกไปยังประเทศจีนและอินเดีย กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก ท่ามกลางการคว่ำบาตรของประเทศตะวันตก

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ

• นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือจัดการประชุมนายทหารระดับสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี ซึ่งอาจเป็นการเตรียมทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2560 ขณะที่ทั่วโลกกำลังหันไปให้ความสนใจกับสงครามในยูเครน

• ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียจะนำระบบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปซาร์มัต (Sarmat) เข้าประจำการในกองทัพภายในช่วงสิ้นปีนี้

• เกาหลีใต้เตรียมแต่งตั้งคณะผู้แทนทางการทูตเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงบรัสเซลส์ เนื่องจากเกาหลีใต้เร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับนาโต พร้อมทั้งหาทางแสดงบทบาทบนเวทีโลกให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เกาหลีใต้กำลังดำเนินการหารือกับนาโตเรื่องการแบ่งปันข้อมูล การซ้อมรบร่วม และการวิจัยร่วมกัน เพื่อรับมือภัยคุกคามความมั่นคง

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด

• สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,299 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,283,793 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 4,507,228 ราย เสียชีวิต 18 ราย เสียชีวิตสะสม 30,543 ราย 

• โมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐเตรียมสร้างศูนย์วิจัยและผลิตแห่งใหม่ในอังกฤษ เพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และโรคอื่น ๆ

• โครงการโคแว็กซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นโครงการแบ่งปันวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประเทศยากจน กำลังผลักดันให้บรรดาผู้ผลิตวัคซีน ซึ่งรวมถึงบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา ลดหรือชะลอการส่งมอบวัคซีนประมาณ 500 ล้านโดส เพื่อป้องกันวัคซีนเหลือทิ้ง

• ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า จากฐานข้อมูล (รหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม) โควิดโลก “GISAID” ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 แล้วจำนวน 23 ราย, BA.5 จำนวน 26 ราย และ BA.2.12.1 จำนวน 18 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลยังไม่เพิ่มจำนวน อย่างไรก็ดี ยังต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.33 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.50 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.50 บาทต่อดอลลาร์

• สภาพัฒน์ คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 66 จะขยายตัวได้ 4.3-4.5% จากในปีนี้ที่คาดว่าจะโตได้ 3% โดยมาจากแรงหนุนการส่งออก และท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 7-10 ล้านคน แต่ยังคงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างใกล้ชิด ได้แก่ ปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐและสหภาพยุโรป เศรษฐกิจจีนชะลอตัว

• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 2 และ 8 มิถุนายน 2565 ซึ่งมีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปีโดย 3 เสียง เห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี

• ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยไนช่วงครึ่งปีหลังยังน่าจะเห็นการเติบโตได้ แต่อาจชะลอตัวจากครึ่งปีแรกบ้าง เนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย แม้ว่าทิศทางเศรษฐกิจของไทยจะยังเติบโตได้ดี จากการเปิดเมืองและเปิดประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาตามปกติ และภาคการท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้นและคนมีรายได้กลับมามากขึ้น

• ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ระบุว่า ภาพรวมมูลค่าธุรกิจค้าปลีกในปี 65 จะกลับมาขยายตัวอยู่ที่ราวที่ 11% เป็น 3.45 ล้านล้านบาท จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด การเพิ่มขึ้นของรายได้ภาคเกษตร และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะปัญหาต้นทุนสินค้าและต้นทุนพลังงานสูง ที่จะถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภคผ่านการขึ้นราคาสินค้า

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, RYT9, Bloomberg