ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากประธานเฟด ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -11.83 เหรียญ หรือ -0.64% มาอยู่ที่ระดับ 1,824.75 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 8.6 เหรียญ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,829.8 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 37.9 เซนต์ หรือ 1.77% ปิดที่ 21.042 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 22.5 เหรียญ หรือ 2.43% ปิดที่ 904.4 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 8.7 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,063.07 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 5.29 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 87.41 ตัน
- หัวหน้านักกลยุทธ์ของ Tiger Brokers กล่าวว่า หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 1% ได้สร้างแรงกดดันราคาทองคำอย่างต่อเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับเพิ่มขึ้น
- ผู้อำนวยการของ AirGuide คาดว่า ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงตามกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และมีแนวโน้มว่าราคาทองคำจะเผชิญการซื้อขายในระดับต่ำกว่า 1,800 เหรียญในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
- นักวิเคราะห์จาก OANDA ชี้ว่า ในสภาวะแวดล้อมปัจจุบัน ยังคงมีความรู้สึดกสิ้นหวังและลังเลในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังมีโอกาสปรับตัวลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.03 จุด หรือ -0.03% มาอยู่ที่ระดับ 104.4 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.195% มาอยู่ที่ระดับ 3.089% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 3.048% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.041%
- นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่า 3% ภายในปลายปีนี้ และจะประเมินใหม่ว่า เฟดจะต้องทำอีกมากเพียงใดเพื่อทำให้เงินเฟ้อลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากผลกระทบของการที่เฟดลดขนาดงบดุลลงไปพร้อมกัน
- นางมิเชลล์ โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสนับสนุน การปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมหลังจากนั้น เป็นเรื่องที่เหมาะสม
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเวสต์แพค แบงกิง คอร์ป คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า และท้ายที่สุดแล้วดอกเบี้ยจะแตะระดับ 2.6% ในเดือนก.พ. 2566
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเกือบ 200 จุดในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (Defensive Stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเฮลธ์แคร์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,677.36 จุด เพิ่มขึ้น 194.23 จุด หรือ +0.64%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,795.73 จุด เพิ่มขึ้น 35.84 จุด หรือ +0.95% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,232.19 จุด เพิ่มขึ้น 179.11 จุด หรือ +1.62%
- นางซู เจวี๋ยถิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า ยิ่งสหรัฐยกเลิกมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเร็วขึ้นเพียงใด บรรดาผู้บริโภคและบริษัทต่าง ๆ ก็ได้จะรับประโยชน์เร็วขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยถ้อยแถลงของนางซูว่า การยกเลิกการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจีนทั้งหมดจะเป็นผลดีต่อทั้งจีน สหรัฐ และทั่วโลก พร้อมทั้งเสนอว่า ทั้งสองประเทศควรสร้างเงื่อนไขความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน
- สภาสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มแห่งชาติของจีน (CNTAC) เผยว่า การที่สหรัฐสั่งห้ามนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์นั้น ถือเป็นการละเมิดกฎเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำลายผลประโยชน์โดยรวมของอุตสาหกรรมสิ่งทอของจีนอย่างรุนแรง แต่ยังจะส่งผลเสียต่อระเบียบปกติของอุตสาหกรรมสิ่งทอทั่วโลกด้วย
- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เตรียมร่วมประชุมกับผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS ในการประชุมสุดยอดประจำปีครั้งที่ 14 ของ BRICS ซึ่งจัดขึ้นทางออนไลน์โดยจีนในปีนี้ โดยนับเป็นครั้งแรกที่ปธน.ปูตินจะร่วมประชุมแบบพหุภาคีระดับใหญ่นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามกับยูเครน
- กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์และผู้จัดการกองทุนมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อพุ่ง (Stagflation) มากที่สุดภายใน 12 เดือนข้างหน้า พร้อมระบุว่า ภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่น่าพึงพอใจ (Stagnation) เป็นความเสี่ยงระยะยาวของสหรัฐ
- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนให้คำมั่นว่าจะผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายในปีนี้ แม้ว่านโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid) ซึ่งรัฐบาลกำหนดขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัย อาจทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็ตาม
- กิจกรรมภาคธุรกิจของยูโรโซนปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือนมิ.ย. และมากกว่าที่คาดไว้มาก ขณะที่ผู้บริโภคต่างกังวลกับค่าใช้จ่ายที่พุ่งขึ้นมาก จึงเลือกที่จะอยู่บ้านและชะลอการใช้จ่ายเพื่อประหยัดเงิน ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ลดลงสู่ระดับ 51.9 ในเดือนมิ.ย. จาก 54.8 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 54.0 และเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.พ.2021 สำหรับดัชนี PMI สำหรับภาคบริการลดลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนมิ.ย. ร่วงจาก 56.1 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 55.5 และเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนเม.ย.2021
- การทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนมีแนวโน้มที่จะสะท้อนนัยยะทางเศรษฐกิจมากกว่าที่เป็นอยู่ ขณะที่ทั่วโลกต่างจับตามองผลกระทบจากการล็อกดาวน์ทางเศรษฐกิจในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง ทั้งนี้ ดัชนีชี้วัดยอดขายอพาร์ทเมนต์และบ้านของจีน ร่วงลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 ขณะที่ดีมานด์ด้านการบริการและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างบ้านและยอดขายบ้านคิดเป็นสัดส่วน 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยืนยันว่าเฟดจะเดินหน้าควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 104.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 2565
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 110.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 2565
- นอร์เวย์และยุโรป ตกลงร่วมมือกันในการส่งก๊าซธรรมชาติจากนอร์เวย์ไปยังกลุ่มประเทศยุโรป หลังจากรัสเซียระงับบางส่วนการส่งก๊าซธรรมชาติมายังยุโรป 12 ประเทศ ได้แก่ บัลแกเรีย เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ เป็นต้น เป็นที่เป็นประเทศที่ไม่ยอมจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติด้วยสกุลเงินรูเบิล ทั้งนี้ ปริมาณส่งผ่านท่อก๊าซนอร์ดสตรีม 1 ลดลงเหลือ 40% ของกำลังการส่งผ่านท่อก๊าซนอร์ดสตรีม โดยรัสเซียกล่าวอ้างว่า มีปัญหาด้านอุปกรณ์
- ธนาคาร MUFG ชี้ว่า หากมองข้ามเลยความกลัวการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย การปรับพุ่งขึ้นของค่าการกลั่นน้ำมันยังคงบ่งชี้ว่าตลาดน้ำมันยังคงตึงตัว ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อธนาคารกลางทั่วโลก
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียได้กระหน่ำโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่โดยหวังทำลายภูมิภาคดอนบาสทั้งหมด และได้เรียกร้องให้บรรดาชาติพันธมิตรของยูเครนเร่งจัดส่งอาวุธหนักเพื่อนำไปใช้ต่อกรกับรัสเซียในสมรภูมิรบ
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,313 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 2,286,103 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 4,509,541 ราย เสียชีวิต 16 ราย เสียชีวิตสะสม 30,559 ราย
- ไทยพบโอมิครอนสายพันธุ์ BA.4-BA.5 หลายราย หลังระบาดหนัก ตปท. เตือนเฝ้าระวัง สำหรับโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ปัจจุบันพบการกลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิมมากที่สุด ก่อให้เกิดความสุ่มเสี่ยงที่จะหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน และแพร่ระบาดไปทั่วโลกได้ในอนาคตอันใกล้ โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในประเทศโปรตุเกสและแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตามมาด้วยอังกฤษ ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฯลฯ
- สิ่งที่น่ากังวลเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ BA.4-BA.5 คือ ผลการทดลองในสัตว์ทดลองเบื้องต้นบ่งชี้ว่า โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 สามารถเพิ่มจำนวนได้ดีในเซลล์ปอด อันอาจจะก่อให้เกิดการติดเชื้อปอดอักเสบขึ้นได้ในมนุษย์ ซึ่งต่างไปจากโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมอย่าง BA.1 หรือ BA.2 ซึ่งเพิ่มจำนวนได้ดีในเซลล์ของเยื่อบุระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ลงมาแพร่ติดต่อในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น ปอด
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ35.50 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.40-35.60 บาทต่อดอลลาร์
- กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. จ่อปรับเป้ายอดผลิตรถยนต์ทั้งปี 2565 หลังเผชิญวิกฤติซ้อนวิกฤติ ปัญหาขาดแคลนชิพยังยืดเยื้อ หวั่นราคาน้ำมันดันต้นทุนผลิตสูงขึ้น และการปรับอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ ฉุดกำลังซื้อในประเทศครึ่งปีหลัง
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, RYT9