ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยดัชนีดอลลาร์พุ่งทะลุระดับ 105 หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 0.05 เหรียญ หรือ 0.% มาอยู่ที่ระดับ 1,818.39 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 3.7 เหรียญ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,817.5 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 13.4 เซนต์ หรือ 0.64% ปิดที่ 20.738 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.3 เหรียญ หรือ 0.47% ปิดที่ 909.9 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 3.77 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,052.63 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 76.97 ตัน
- หัวหน้านักวิเคราะห์การตลาดของ Exinity กล่าวว่า ถ้อยแถลงของเฟดส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น กดดันให้ราคาทองคำปรับลดลงอย่างมาก และผลักดันให้นักลงทุนไหลมาถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ก่อให้เกิดความผันผวนในราคาทองคำตลาโลก
- นักวิเคราะห์ของ Saxo Bank กล่าวว่า ท้ายสุดราคาทองคำอาจได้รับผลประโยชน์จากความกังวลของเศรษฐกิจถดถอย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเฟดเป็นหลัก
- นักวิเคราะห์ของ Saxo Bank กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับตลาดทองคำ รวมถึงการลงทุนในตลาดอื่นๆ ยังคงแย่เช่นกัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.03 จุด หรือ 0.03% มาอยู่ที่ระดับ 104.89 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.004% มาอยู่ที่ระดับ 3.097% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 3.043% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.054%
- ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ชี้ว่า เฟดสามารถเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ยังชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และภาพรวมเศรษฐกิจสามารถทนทานต่อการดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดได้
- ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ระบุว่า ตลาดประมาณการค่อนข้างสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความคาดหวังของเฟด นอกจากนี้ยังกล่าวว่า เฟดมุ่งเน้นการปรับลดอัตราเงินเฟ้อ ไม่ใช่มุ่งเน้นที่การปรับเส้นอัตราปลตอบแทน หรือ yield curve
- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์เปิดเผยว่า หากในช่วงที่เฟดจัดการประชุมนโยบายการเงินครั้งถัดไปในเดือนก.ค. ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเป็นเช่นเดิม เธอจะสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า BOJ จะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ได้รับกระทบรุนแรงจากวิกฤตเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนร่วงลงในวันนี้ หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อจากรัฐนอร์ธ-ไรน์ เวสต์ฟาเลีย (NRW) ของเยอรมนีลดลงผิดคาด ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีแนวทางการคุมเข้มนโยบายการเงินแบบเชิงรุกน้อยลง โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในรัฐ NRW ลดลง 0.1% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ยูโรโซนจะประกาศข้อมูลเงินเฟ้อในวันศุกร์นี้
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงก็ตาม
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,029.31 จุด เพิ่มขึ้น 82.32 จุด หรือ +0.27%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,818.83 จุด ลดลง 2.72 จุด หรือ -0.07% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,177.89 จุด ลดลง 3.65 จุด หรือ -0.03%
- กระทรวงการคลังฝรั่งเศสปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศปีนี้ลงสู่ระดับ 2.5% ซึ่งลดลงอย่างมากจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4% เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดอย่างหนักตั้งแต่ช่วงต้นปี รวมทั้งการที่รัสเซียส่งทหารโจมตียูเครน
- ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในยูโรโซนลดลงน้อยกว่าคาดในเดือนมิ.ย. ขณะที่ผู้บริโภคและการค้าปลีกมีมุมมองเชิงลบมากขึ้น แต่ความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเพิ่มขึ้น โดยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจใน 19 ประเทศในยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 104.0 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 105.0 ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ระดับ 103.0 และความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มสู่ระดับ 7.4 จาก 6.5 ในเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นในภาคบริการเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 14.8 จาก 14.1 ในเดือนพ.ค. เทียบกับที่คาดไว้ว่าจะลดลง
- เศรษฐกิจอังกฤษเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 2 ประการในเวลาเดียวกันในช่วงนี้ ซึ่งได้แก่อัตราเงินเฟ้อที่อาจจะพุ่งสูงถึงตัวเลขสองหลัก และความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- เอสแอนด์พีประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของจีนที่ 'A+/A-1' และแนวโน้มยังมีเสถียรภาพ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของจีนสะท้อนมุมมองต่อนโยบายปฏิรูปของรัฐบาล และแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมาตรวัดภายนอกที่แข็งแกร่งของจีน นอกจากนี้คาดจีดีพีแท้จริง (Real GDP) ของจีนจะดีดตัวขึ้น 5.4% ในปี 2023 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ระดับ 4.8% ตั้งแต่ปี 2023-2025
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.98 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 109.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.72 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 116.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด โดยกำลังการผลิตน้ำมันส่วนเกินของซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังลดน้อยลง ขณะที่ทั้งสองประเทศผลิตน้ำมันใกล้เต็มศักยภาพ ทำให้ไม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น นอกจากนี้ ลิเบียและเอกวาดอร์กำลังเผชิญภาวะไม่สงบทางการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยกระทบต่อการผลิตน้ำมัน
- โอเปกพลัสประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันวันที่ 29-30 มิ.ย. แหล่งข่าวระบุ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในนโยบายการผลิต และจะยังไม่มีการหารือเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันในเดือนก.ย.ทั้งนี้ ในการประชุมก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.และส.ค. โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย.
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เปิดเผยว่า พันธมิตรนาโตจะเดินหน้าสนับสนุนยูเครนด้วยอาวุธในสงครามครั้งนี้ต่อไปให้นานตราบเท่าที่จำเป็นต้องทำ
- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า กลยุทธ์รับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ที่พรรคคอมมิวนิสต์ใช้นั้น “ถูกต้องและได้ผล” และควรยึดมั่นไว้เป็นแนวทางปฏิบัติ ทั้งนี้ ประเทศจีนซึ่งมีประชากรจำนวนมากจะได้รับผลที่ตามมาอย่าง “ไม่อาจจะจินตนาการได้” หากเลือกใช้กลยุทธ์แบบ “นอนราบ” และเสริมว่า จีนยอมรับผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชั่วคราว ดีกว่าต้องให้ชีวิตและสุขภาพของประชาชนได้รับอันตราย
- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เรียกร้องให้มีการขับไล่รัสเซียออกจากสหประชาชาติ (UN) พร้อมกล่าวหารัสเซียว่าเป็นรัฐก่อการร้าย
- รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐขึ้นบัญชีดำทางการค้าบริษัท 5 แห่งในจีน โดยกล่าวหาว่าบริษัทเหล่านั้นสนับสนุนฐานอุตสาหกรรมทางทหารและการป้องกันประเทศของรัสเซีย ขณะที่สหรัฐพยายามที่จะขยายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหลังจากทำการรุกรานยูเครน
- นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียกำลังพิจารณาที่จะเปิดสถานทูตออสเตรเลียในกรุงเคียฟอีกครั้ง โดยหวังที่จะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรหลายประเทศที่เริ่มเปิดสถานทูตในยูเครนอีกครั้ง หลังจากได้เรียกนักการทูตกลับประเทศเมื่อรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,695 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,522,915 ราย อีกทั้งยังมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 14 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 8,950 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 30,648 ราย
- เกาหลีใต้อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นภายในประเทศเป็นครั้งแรก สำหรับฉีดให้กับประชาชนทั่วไป หลังผลการทดลองทางคลินิกออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยวัคซีนชนิดดังกล่าวผลิตโดยบริษัทเอสเค ไบโอไซเอนซ์ (SK bioscience)
- เที่ยวบินระหว่างเมืองหลวงของเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากถูกระงับมานานกว่า 2 ปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
- เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์รายงานว่า ในวันอังคาร (28 มิ.ย.) สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวนสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน
- สิงคโปร์รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้น 11,504 รายในวันอังคาร ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 5,309 รายในวันจันทร์ และเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. ซึ่งในครั้งนั้นพบผู้ติดเชื้อใหม่ 13,166 ราย
- คณะที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้แนะนำให้มีการปรับสูตรวัคซีนเข็มบูสเตอร์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยที่ระบาดในขณะนี้
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.24 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.17 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.15-35.35 บาทต่อดอลลาร์
- ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤษภาคม 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ได้ส่งผลกระทบต่อระดับราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิต และค่าครองชีพของประชาชนอย่างใกล้ชิด
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจจะสิ้นสุดลงในไม่ช้านี้ หลังจากไทยเริ่มเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกประจำประเทศไทย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 65 จะขยายตัวที่ 2.9% ลดลงจากประมาณการเดิม (ธ.ค. 64) ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% โดยมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 65 จะฟื้นตัวได้ดีขึ้น จากแรงกระตุ้นของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เท่ากับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ในช่วงไตรมาส 4/65
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, RYT9, Bloomberg