ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ปิดทำการในวันเมื่อวานนี้ วันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติของสหรัฐ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 0.15 เหรียญ หรือ 0.01% มาอยู่ที่ระดับ 1,808.17 เหรียญ
- หัวหน้านักวิเคราะห์การตลาดของ Exinity กล่าวว่า การปรับขึ้นของราคาทองคำถูกจำกัดด้วยการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้เข้ากดดันราคาทองคำ นอกจากนี้ ยังระบุว่า ณ ขณะนี้ ตลาดยังไม่ได้รวมรับรู้ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ของเฟดทั้งหมดในราคา (Not fully price in) ทำให้ หากเฟดส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น จะกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงต่อได้
- นักวิเคราะห์จาก Kinesis Money ชี้ว่า ในสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นเรื่องยากที่จะเห็นราคาทองคำปรับขึ้นอย่างมาก แต่ถ้าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับราคา 1,800 เหรียญได้ นั้นแสดงถึงการมีปัจจัยสำคัญบางอย่างที่ยังคงหนุนราคาทองคำ
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.07 จุด หรือ -0.07% มาอยู่ที่ระดับ 104.92 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.068% มาอยู่ที่ระดับ 2.972% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 2.947% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.025%
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำลังหาทางป้องกันไม่ให้ธนาคารพาณิชย์กอบโกยผลประโยชน์พิเศษจากโครงการปล่อยกู้ซึ่ง ECB ริเริ่มขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด หาก ECB เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายเดือนก.ค.
- นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้งในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. แต่นักลงทุนบางรายคาดว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจอาจจะส่งผลให้เฟดปรับเปลี่ยนจุดยืนในเวลาที่เร็วเกินคาด อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของบริษัทแคปิตัล อิโคโนมิคส์ไม่เห็นด้วยกับการคาดการณ์ดังกล่าว โดยนักวิเคราะห์กลุ่มนี้ระบุว่า การปรับเปลี่ยนจุดยืนไปในทางตรงกันข้ามแบบนั้นจะไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของเฟดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และด้วยเหตุนี้ "เราจึงคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะไม่มีแนวโน้มที่ดีนักในช่วงครึ่งปีหลัง
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ปิดทำการในวันเมื่อวานนี้ วันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติของสหรัฐ
- นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของจีนจะดีดตัวขึ้น 4.5% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 หลังจากรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเศรษฐกิจของจีนเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว แต่ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนปี 2565 ลงสู่ระดับ 4% จากระดับ 4.5% โดยตัวเลขคาดการณ์ครั้งใหม่นี้ ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 5.5%
- บริษัท Tiktok ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของบริษัทไบต์แดนซ์ในประเทศจีน ได้ส่งหนังสือชี้แจ้งสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐว่า ทางบริษัทกำลังดำเนินการป้องกันข้อมูลผู้ใช้หลังมีความกังวลว่า พนักงานของบริษัทที่เป็นชาวจีนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐได้
- นักวิเคราะห์จากบริษัทโนมูระ โฮลดิงส์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในประเทศขนาดใหญ่หลายประเทศจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า ได้แก่ เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และแคนาดาจะเข้าสู่ภาวะถดถอย เช่นเดียวกับสหรัฐ เนื่องจากการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินของรัฐบาลและค่าครองชีพที่สูงขึ้น
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 24 ปี เนื่องจากต้นทุนพลังงานและอาหารปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งอุปสงค์ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน NYMEX ปิดทำการในวันเมื่อวานนี้ วันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติของสหรัฐ
- เจพีมอร์แกน คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 380 ดอลลาร์/บาร์เรล หากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรปบีบให้รัสเซียตอบโต้ด้วยการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ
- สมาคมน้ำมันและก๊าซนอร์เวย์ (NOG) แถลงว่า พนักงานในอุตสาหกรรมพลังงานนอกชายฝั่งของนอร์เวย์จะหยุดงานประท้วงในวันนี้ หลังจากที่การเจรจาระหว่างสหภาพแรงงานและฝ่ายบริหารของบริษัทพลังงานเกี่ยวกับการเพิ่มค่าแรงไม่ประสบความสำเร็จ คาดว่าการผละงานประท้วงในวันพรุ่งจะส่งผลให้การผลิตน้ำมันลดลง 89,000 บาร์เรล/วัน และจะลดลง 130,000 บาร์เรล/วัน หากการผละงานประท้วงยืดเยื้อถึงวันพุธ
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- กระทรวงต่างประเทศอังกฤษเปิดเผยว่า อังกฤษจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปี 2566 โดยมุ่งเน้นที่การช่วยฟื้นฟูยูเครนจากความเสียหายที่เกิดจากรัสเซียใช้กำลังทหารรุกราน ส่วนการประชุมในปีนี้จะมีขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์.
- นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียจะจัดส่งรถหุ้มเกราะเพิ่มอีก 34 คันให้แก่ยูเครน และจะสั่งห้ามนำเข้าทองคำจากรัสเซีย
- กองทหารยูเครนถอนกำลังออกจากเมืองลิซิคานสค์ ฐานที่มั่นสุดท้ายของทัพรัฐบาลเคียฟในแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของประเทศ โดยกองทหารของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ใกล้จะยึดภูมิภาคแห่งนี้ได้ตามเป้าหมาย
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,917 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,310,582 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 4,534,017 ราย เสียชีวิต 18 ราย เสียชีวิตสะสม 30,736 ราย
- อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากระบบการเฝ้าระวังสายพันธุ์ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในช่วงวันที่ 25 มิ.ย.-1 ก.ค. 65 พบว่า โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยจากการสุ่มตรวจทั้งหมด 946 ตัวอย่าง พบ BA.4 และ BA.5 ทั้งหมด 489 ราย คิดเป็น 51.7%, BA.2 ทั้งหมด 447 ราย คิดเป็น 47.3% และ BA.1 และสายพันธุ์ดั้งเดิม (B.1.1.529) รวมทั้งหมด 12 ราย คิดเป็น 1.1%
- รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยออสเตรเลีย และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียประกาศว่า นับตั้งแต่วันพุธที่ 6 ก.ค.เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าออสเตรเลียไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูล Digital Passenger Declaration (DPD) ซึ่งเป็นข้อมูลด้านสุขภาพและการแสดงสถานะการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
- มาเก๊าเริ่มการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รอบใหม่ในประชาชนทั่วทั้งเมืองมากกว่า 600,000 คนในเมื่อวานนี้ โดยจะทำการตรวจ 3 ครั้งภายในสัปดาห์นี้ และในระหว่างนั้นประชาชนต้องทำการตรวจแบบทราบผลเร็ว (Rapid Antigen Test)
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.70 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.66 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.60-35.80 บาทต่อ ดอลลาร์
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน มิ.ย.65 พบว่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 38% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทยอยเพิ่มขึ้น หลังมีการผ่อนคลายนโยบายเปิดประเทศเพิ่มเติม รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมมีการจ้างงานเฉลี่ย 71% ของช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะทยอยเข้ามาหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ พร้อมคาดการณ์ว่าอัตราการเข้าพักในเดือนก.ค.65 จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 40%
- ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีมติปรับกรอบคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 65 มาอยู่ที่ 2.75-3.5% จากเดิมเมื่อเดือน มิ.ย.ที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5-4.0% เนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ท่ามกลางความเสี่ยงที่รุมเร้าอย่างต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest