MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 22.35 เหรียญ หรือ 1.32% มาอยู่ที่ระดับ 1,717.64 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 13.2 เหรียญ หรือ 0.78% ปิดที่ 1,713.4 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.1 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 18.719 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 12.2 เหรียญ หรือ 1.44% ปิดที่ 858.7 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,005.87 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ขายสุทธิ 44.44 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 30.21 ตัน

• นักวิเคราะห์อาวุโสการตลาดของ City Index กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงอ่อนไหวต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางต่างๆ และคาดว่าราคาทองคำจะได้รับแรงกดดันอีก หากธนาคารกลางยุโรปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามที่คาดการณ์

• นักกลยุทธ์ฝ่ายสกุลเงินของ DailyFX  คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องมาจากเฟดและธนาคารกลางต่างๆ เริ่มดำเนินการคุมเข้มนโยบายการเงิน  ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.23 จุด หรือ 0.22% มาอยู่ที่ระดับ 106.69 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.007% มาอยู่ที่ระดับ 2.901% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.137% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.236%

• ธนาคารกลางยุโรป ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอ้างอิงจาก 0% มาอยู่ที่  0.50% เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 11 ปี พร้อมประกาศซื้อพันธบัตรชุดใหม่ในโครงการช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่มีหนี้สิน

• นักกลยุทธ์จากโซซิเอเต้ เจเนอราลกล่าวว่า "ตลาดได้ปรับตัวรับโอกาส 50/50 ที่อีซีบีจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในวันนี้ ดังนั้น คุณน่าจะคิดว่าคุณจะได้รับปฏิกริยา ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้น" แต่เขาก็ระบุว่า ตลาดเงินได้ปรับตัวรับการขึ้นดอกเบี้ย 1% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องยาก เมื่อดูจากสภาวะการณ์ที่ยากลำบาก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในขณะนี้อยู่ที่ -0.5%

• นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงินยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าค่าแรงในญี่ปุ่นจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายคุโรดะได้แถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงิน ว่า การที่เงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นสถานการณ์ที่สร้างความกังวลและอาจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น แต่ BOJ ไม่มีแนวคิดที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดการอ่อนค่าของเงินเยน

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 1% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเทสลา ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,036.90 จุด เพิ่มขึ้น 162.06 จุด หรือ +0.51%,
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,998.95 จุด เพิ่มขึ้น 39.05 จุด หรือ +0.99% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,059.61 จุด เพิ่มขึ้น 161.96 จุด หรือ +1.36%
• พันธบัตรและหุ้นอิตาลีร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ หลังนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี แห่งอิตาลีลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรครัฐบาลผสมในการลงมติไม่ไว้วางใจ

• ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันในเดือนมิถุนายน เนื่องจากราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่อยู่ในระดับสูงส่งผลให้ยอดนำเข้าพุ่งสูงขึ้น และสิ่งนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังได้รับแรงกดดันมากยิ่งขึ้นจากค่าเงินเยนที่ดิ่งลงอย่างรุนแรง และจากภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก

• ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนปี 2565 ลงสู่ระดับ 4% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 5% โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์และการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อภาคอสังหาริมทรัพย์มากยิ่งขึ้น

• สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS) เปิดเผยว่า เกาหลีใต้ขาดดุลการค้าในช่วง 20 วันแรกของเดือนก.ค. เนื่องจากยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่ายอดส่งออก โดยมีสาเหตุจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้าของเกาหลีใต้ในช่วงวันที่ 1-20 ก.ค. แตะที่ 8.1 พันล้านดอลลาร์ โดยยอดส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้น 14.5% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 3.725 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 25.4% สู่ระดับ 4.535 หมื่นล้านดอลลาร์

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันพฤหัสบดี หลังมีรายงานว่ารัสเซียได้กลับมาส่งก๊าซให้กับยุโรปผ่านทางท่อส่ง Nord Stream 1 แล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลว่าการธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 0.5% อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 3.53 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 96.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3.06 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 103.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

• หน่วยงานกำกับดูแลด้านพลังงานของกรีซ เปิดเผยว่า จะใช้วิธีเวียนตัดไฟสลับกันในแต่ละพื้นที่เป็นทางเลือกสุดท้ายในการบรรเทาวิกฤตพลังงาน หากการส่งก๊าซจากรัสเซียเผชิญภาวะติดขัด โดยกรีซจะใช้มาตรการฉุกเฉินดังกล่าวก็ต่อเมื่อมาตรการอื่น ๆ รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินและการขอให้ผู้บริโภคประหยัดพลังงานในช่วงพีคนั้นยังไม่เพียงพอ

• รัสเซียเริ่มดำเนินการจัดส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านท่อ Nord Stream 1 อีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจซ่อมบำรุงเป็นเวลา 10 วัน โดยรัสเซียได้เริ่มลำเลียงก๊าซไปยังเยอรมนีอีกครั้งในเมื่อวานนี้ แต่ต้องรอเวลาสักระยะจึงจะสามารถจัดส่งก๊าซได้ในปริมาณที่ลูกค้าต้องการ โดยการส่งก๊าซผ่านท่อ Nord Stream 1 จะกลับสู่ระดับ 40% ของขีดความสามารถ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับช่วงก่อนการซ่อมบำรุง

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

• นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้แสดงให้เห็นว่า รัสเซียวางเป้าหมายใหญ่ขึ้น หลังสงครามในยูเครนยืดเยื้อมา 5 เดือนโดยเชื่อว่ารัสเซียจะขยายขอบเขตการทำสงครามเพิ่มเติมหากชาติตะวันตกยังคงเดินหน้าจัดส่งอาวุธโจมตีระยะไกลให้กับยูเครนต่อไป 

• นายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) ระบุว่า การที่รัสเซียสนใจซื้อโดรนจากอิหร่าน เพื่อใช้ทำสงครามในยูเครนนั้นแสดงให้เห็นถึงสถานะทางทหารที่ย่ำแย่ของประเทศ

• ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐวางแผนที่จะหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้ ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศคุกรุ่นจากประเด็นไต้หวันและการค้า

• ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐเปิดเผยว่า กองทัพสหรัฐเชื่อว่า การเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ “ไม่ใช่ความคิดที่ดีนักในตอนนี้” หลังจากที่สื่อรายงานว่า นางเพโลซีกำลังวางแผนการเดินทางไปยังไต้หวันซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีน

• ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยควินนิเพียกระบุว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโจ ไบเดนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นเขาหรืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2567

 

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด

• สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,424 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,570,885 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 10-16 ก.ค.2565 จำนวน 143,827 ราย สะสม 6,463,927 ราย โดย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 25 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 9,400 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 31,098 ราย

• เทศบาลเมืองเซินเจิ้นของจีนให้คำมั่นว่า จะระดมทรัพยากรทั้งหมดที่มี เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ พร้อมออกคำสั่งให้ดำเนินการตรวจเชื้อและวัดอุณหภูมิอย่างเข้มงวด รวมทั้งล็อกดาวน์อาคารต่าง ๆ ที่พบการแพร่ระบาด

• ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเกาหลีใต้พุ่งเกิน 70,000 รายเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในเมื่อวานนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  36.78 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.87 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ36.65-36.90 บาทต่อดอลลาร์

• นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับประมาณการค่าเงินบาทในสิ้นปี 65 อ่อนค่าลงมาที่ 35 บาท/ดอลลาร์ จากประมาณการเดิมที่ 33.5 บาท/ดอลลาร์ หลังจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าไปในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯมาก ส่งผลต่อทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า โดยที่ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันค่าเงินบาทได้อ่อนค่าไปแล้วราว 10% ซึ่งเป็นสกุลเงินหนึ่งในภูมิภาคเอเชียที่มีการอ่อนค่าลงค่อนข้างมาก

• ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 65 ลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 2.9% จากเดิมคาด 3% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 66 ลงมาอยู่ที่ 4.2% จากเดิมคาด 4.5% โดยถึงแม้จะมีสัญญาณไปในทางบวก แต่เนื่องจากราคาพลังงานและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ คาดว่าจะส่งผลต่อความต้องการส่งออกที่ลดลง ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ลดลง

• เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยผลวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร ในไตรมาส 2 ของปี 2565 (เม.ย.-มิ.ย.) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งขยายตัวเติบโตดีต่อเนื่องจากไตรมาส แรกของปี 2565 ที่ขยายตัว 4.1%

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, CNBC