• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2565

    5 สิงหาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนในวันพฤหัสบดีจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการซ้อมรบของจีนรอบเกาะไต้หวัน


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 26.1 เหรียญ หรือ 1.48% มาอยู่ที่ระดับ 1,793.45 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 30.5 เหรียญ หรือ 1.72% ปิดที่ 1,806.9 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 22.8 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 20.122 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.33 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,000.32 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 5.55 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 24.66 ตัน



  • กรรมการผู้จัดการบริษัท GoldSilver Central ระบุว่า นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูท่าทีอยู่ เนื่องจากยังไม่แน่ใจว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเกี่ยวกับความตึ่งเครียดระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยยีงเป็นขาขึ้น การถือครองดอลลาร์ยังเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลกว่าการถือครองทองคำ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคาดหวังว่า ราคาทองคำจะสามารถดีดตัวกลับได้ภายในกรอบ ในระยะสั้น


  • นักวิเคราะห์จาก OANDA ชี้ว่า การที่ประธานเฟดสาขาบางท่านออกมาส่งสัญญาณในเชิงนโยบายการเงินเข้มงวด ส่งผลจำกัดเม็ดเงินไหลเข้าทองคำไว้ อย่างไรก็ตาม ความกลัวเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย จะทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยจบลงได้ ทำให้ทองยังคงมีแนวโน้มเป็นทิศทางขาขึ้นได้

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.14 จุด หรือ 0.13% มาอยู่ที่ระดับ 105.89 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.005% มาอยู่ที่ระดับ 2.685% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.047% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.362%


  • รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ ระบุว่า บาทอาจอ่อนค่าลงจสู่ 36.20 บาท/ดอลลาร์ในอีก 1 เดือนข้างหน้า แต่บาทอาจจะแข็งค่าขึ้นสู่ 35.84 บาท/ดอลลาร์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า, 35.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐในอีก 6 เดือนข้างหน้า และ 34.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐในอีก 12 เดือนข้างหน้า


  • หัวหน้าฝ่ายวิจัยสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ของธนาคารโซซิเอเต เจเนอราลระบุว่า สกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่เผชิญกับปัจจัยลบหลายประการ ซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ลง, ภาวะการเงินที่ตึงตัวมากยิ่งขึ้น, ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น, เงินลงทุนที่ยังคงไหลออกจากสินทรัพย์ในประเทศตลาดเกิดใหม่, อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจีนอาจอ่อนแอเกินคาด ถึงแม้ว่านักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงในช่วงนี้ก็ตาม


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ก็ได้ปัจจัยบวกส่วนหนึ่งจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,726.82 จุด ลดลง 85.68 จุด หรือ -0.26%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,151.94 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ -0.08% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,720.58 จุด เพิ่มขึ้น 52.42 จุด หรือ +0.41%


  • ข้อมูลจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) พบว่า ตลาดเกิดใหม่ได้รับแรงขายเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005 โดยบ่งชี้ว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยทั่วโลก, ภาวะเงินเฟ้อ และดอลลาร์ที่แข็งค่าดึงดูดเม็ดเงินออกไป

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี โดยราคาน้ำมันดิ่งหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลงด้วย


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 2.12 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 88.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ดิ่งลง 2.66 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 94.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.


  • นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ชี้ว่า โอเปคพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 100,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน ซึ่งน้อยกว่าการปรับขึ้นกำลังการผลิตในเดือนก่อนหน้าเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดน้ำมันยังคงเผชิญภาวะอุปทานน้ำมันขาดแคลน ในขณะที่ที่ปรึกษาด้านความั่นคงด้านพลังงานของสหรัฐออกมาระบุว่า นี่เป็นการปรับขึ้นการผลิตน้ำมันเพียงเล็กน้อย ซึ่งปริมาณดังกล่าวแทบไม่มีนัยยะใด ทั้งนี้ การปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 100,000 บาร์เรลต่อวันคิดเป็นเพียง 0.1% ของความต้องการน้ำมันทั่วโลก


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • เจ้าหน้าที่ไต้หวันเปิดเผยว่า ตรวจพบโดรนต้องสงสัยบินเหนือเกาะไต้หวัน และแฮกเกอร์ได้โจมตีเว็บไซต์กระทรวงกลาโหมไต้หวัน หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีน


  • นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวภายหลังจากเดินทางออกจากไต้หวันว่า จีนไม่สามารถยับยั้งบรรดาผู้นำทั่วโลกไม่ให้เดินทางไปเยือนไต้หวัน


  • รัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการประกาศจัดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงยาวนาน 4 วัน นับตั้งแต่วันนี้ ในหลายจุดรอบเกาะไต้หวัน


  • ทางการจีนเปิดเผยว่า จีนตัดสินใจยกเลิกการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกับญี่ปุ่นนอกรอบ ณ กรุงพนมเปญ โดยอ้างว่า เป็นผลพวงจากการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ


  • นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ระบุว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เป็นการยั่วยุจีน อย่างไรก็ตาม ยังระบุต่อไปว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ยังไม่มีแผนที่จะหารือกันหลังการเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี


  • ยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียเริ่มต้นจัดตั้งกองกำลังจู่โจมทางทหาร เพื่อมุ่งเป้าไปยังเมืองครีวีรี (Kryvyi Rih) บ้านเกิดของประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในขณะที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ขยับเข้าใกล้การขยายกลุ่มพันธมิตรมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เพื่อรับมือกับการรุกรานยูเครน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐและรัฐสภาอิตาลีได้อนุมัติการเข้าร่วมกลุ่มนาโตของฟินแลนด์และสวีเดนในวันพุธที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,253 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,600,978 ราย โดย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 34 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 9,828 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 31,526 ราย


  • จีนประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ของเมืองซานย่า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลไหหลำ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพร้อมสั่งให้ประชาชนลดการเดินทางออกไปซื้อของใช้จำเป็นลงเหลือเพียงสองวันต่อครั้ง และกำชับประชาชนบางส่วนให้อยู่แต่ในบ้าน


  • ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 5,020 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันยังคงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงคาดว่าจะผ่อนคลายมาตรการกักตัวสำหรับนักเดินทางในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยฮ่องกงนั้นขึ้นชื่อว่าใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อย่างไรก็ดี นโยบายดังกล่าวในฮ่องกงไม่เข้มงวดเท่าจีนแผ่นดินใหญ่


  • นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวได้แนะนำให้ประชาชนชาวอเมริกันเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ก่อนที่จะถึงช่วงฤดูหนาว
 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.82 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ35.70-36.00 บาทต่อดอลลาร์


  • ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS  ชี้รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว (สายคุนหมิง-เวียงจันทน์)  ลดต้นทุน-ลดระยะเวลาขนส่ง หนุนส่งออกสินค้าเกษตรไทยเพิ่มขึ้น 4,000 ล้านบาทต่อปี


ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, BBC

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com