• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2565

    8 สิงหาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐในเดือนก.ค.


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -19.65 เหรียญ หรือ -1.1% มาอยู่ที่ระดับ 1,773.71 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15.7 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,791.2 เหรียญ แต่สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 1.39% ปิดที่ 19.842 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.16 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 999.16 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 6.71 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 23.5 ตัน


  • นักวิเคราะห์จาก OANDA ชี้ว่า ทองคำได้รับประโยชน์จากทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลง ในขณะที่ตลาดกำลังซึมซับในประเด็นเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้วและประเด็นเศรษฐกิจถดถอย


  • นักวิเคราะห์จาก High Ridge Futures ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลง ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในปัจจัยยวกสำคัญต่อทองคำ


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.07 จุด หรือ 0.07% มาอยู่ที่ระดับ 106.65 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.005% มาอยู่ที่ระดับ 2.827% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.24% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.413%


  • ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ นางลอเรตตา เมสเตอร์ กล่าวว่า เฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่า 4% เพื่อช่วยทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง และต้องตั้งเป้าที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปตลอดช่วงครึ่งแรกของปีหน้า นิอกจากนี้เธอระบุว่า ยังคงเปิดกว้างสำหรับขนาดของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จำเป็นในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปของเฟดระหว่างวันที่ 20-21 ก.ย. ในขณะที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดระบุแล้วว่า เฟดอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมากผิดปกติอีกครั้ง

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง โดยถูกกดดันจากหุ้นเทสลาและหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ปรับตัวลง หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,803.47 จุด เพิ่มขึ้น 76.65 จุด หรือ +0.23%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,145.19 จุด ลดลง 6.75 จุด หรือ -0.16%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,657.56 จุด ลดลง 63.02 จุด หรือ -0.50%


  • รองประธานบริษัทแชลเลนเจอร์, เกรย์ แอนด์ คริสต์มาส กล่าวว่า "ยอดการปลดพนักงาน(ของสหรัฐ)ออกในปัจจุบันนี้ยังคงอยู่ต่ำกว่าในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2001 และ 2008 เป็นอย่างมาก" และเขากล่าวเสริมว่า "ถ้าหากเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะถดถอยในปัจจุบัน ภาวะดังกล่าวก็ยังไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นในตลาดแรงงาน


  • ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ ระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่สอง อาจดีดตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดการณ์เศรษฐกิจขยายตัว 2.5% ในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. โดยดีดตัวขึ้นจากที่หดตัวลง 0.5% ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนมิ.ย.อาจจะขาดดุลเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนม.ค. เนื่องจากยอดนำเข้าที่พุ่งขึ้นมาก โดยคาดว่าญี่ปุ่นจะมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 7.038 แสนล้านเยน(5.29 พันล้านดอลลาร์)


  • สำนักงานสถิติของรัฐบาลกลางเยอรมนีรายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเกินคาด แม้ว่าปัญหาห่วงโซ่อุปทานยังคงส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตก็ตาม โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.4% หลังติดลบ 0.1% ในเดือนพ.ค. และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ซึ่งได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจลดลง 0.3%


  • สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผย มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนขยายตัว 10.4% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 23.6 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด แต่ราคาสัญญาน้ำมันดิบยังคงร่วงลงอย่างรุนแรงในรอบสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 89.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 94.92 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets ระบุว่า จากการที่ยุโรประงับการนำเข้าน้ำมันทางเรือจากรัสเซีย ทำให้มีคำถามสำคัญว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางจะเปลี่ยนเส้นทางการส่งน้ำมันไปยังยุโรปเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปได้หรือไม่ ทั้งนี้ ผลกระทบจากมาตรการการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียจะเป็นหนึ่งในผลกระทบที่สำคัญที่ต้องจับตามองในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

 


  • กระทรวงการต่างประเทศของจีนประกาศยกเลิกการเจรจาและระงับความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในทั้งหมด 8 ประเด็น ครอบคลุมทั้งการเจรจาและความร่วมมือทางทหาร การส่งกลับผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย การสอบสวนอาชญากรรมข้ามชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


  • จีนตัดสินใจสั่งคว่ำบาตรนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมถึงคนในครอบครัว เพื่อตอบโต้การกระทำที่จีนมองว่าชั่วร้ายและเป็นการจงใจยั่วยุ


  • กระทรวงกลาโหมของไต้หวันเปิดเผยว่า เรือและเครื่องบินรบของกองทัพจีนได้รุกล้ำเส้นกึ่งกลางของช่องแคบไต้หวัน ภายหลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน


  • รายงานลับของสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า เกาหลีเหนือได้เตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบนิวเคลียร์ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้


  • ยูเครนส่งออกธัญพืชเพิ่มภายใต้ข้อตกลงรับประกันความปลอดภัย โดนเรือบรรทุกธัญพืชอีกจำนวน 3 ลำได้เดินทางออกจากท่าเรือยูเครน หลังเรือบรรทุกธัญพืชลำแรกเดินทางออกจากท่าเรือยูเครนในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค.


  • สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า กองกำลังรัสเซียและกองกำลังที่ให้การสนับสนุนรัสเซียสามารถยึดครองเมืองปิสกี้ (Pisky) บริเวณเขตชานเมืองแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ได้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ทั้งนี้ รัสเซียกำลังพยายามเข้าควบคุมภูมิภาคดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยแคว้นลูฮันสก์และแคว้นโดเนตสก์ และอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซีย

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด

 


  • สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,842 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,384,016 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 4,607,451 ราย เสียชีวิตอีก 34 ราย เสียชีวิตสะสม 31,630 ราย

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  35.75 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.56 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ35.50-36.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.65-35.85 บาทต่อดอลลาร์


  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อสู่ระดับ 5.5-6.5% เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 4.0-5.0% โดยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.ค. 65 เพิ่มขึ้น 7.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่นวนเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.) เพิ่มขึ้น 5.89% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เดือนก.ค. 65 เพิ่มขึ้น 2.99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 7 เดือนแรก เพิ่มขึ้น 2.01%


  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท. มีความกังวลต่อการการขาดแคลนชิปมาก กระทบต่อยอดการส่งออกรถยนต์ไทย จากเหตุการณ์ที่จีนประกาศไม่ส่งวัตถุดิบทรายที่เป็นส่วนสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อตอบโต้ไต้หวัน ทำให้มีความกังวลต่อการการขาดแคลนชิปมาก เพราะปัญหานี้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่ผ่านจนถึงปัจจุบัน ทำให้ยอดการส่งออกรถยนต์ไทยครึ่งปีแรกติดลบ


  • นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ชี้โรงแรมไทยถูกกดดันจากปัญหาขาดแคลนแรงงานในเกือบทุกแผนก แม้ส่วนหนึ่งจะพอหาคนทดแทนได้ แต่ยังขาดทักษะ โดยเฉพาะด้านการให้บริการและภาษา ด้านราคาห้องพักยังคงต่ำกว่าก่อนยุคโควิด-19 ระบาด แม้ธุรกิจโรงแรมจะเริ่มฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ

 

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com