• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2565

    16 สิงหาคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ในวันพุธนี้


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 3.59 เหรียญ หรือ 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 1,782.05 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 17.4 เหรียญ หรือ 0.96% ปิดที่ 1,798.1 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 42.6 เซนต์ หรือ 2.06% ปิดที่ 20.272 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 25.8 ดอลลาร์ หรือ 2.69% ปิดที่ 933.6 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.03 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 993.94 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 11.93 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 18.28 ตัน


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ACY Securities กล่าวว่า ทองคำขณะนี้อยู่ในช่วงสะสมพลังเพื่อรอการทะลุผ่านระดับ 2,000 เหรียญอีกครั้ง ขณะที่มีนักลงทุนบางส่วนต้องการเก็งกำไรเพื่อชดเชยสินทรัพย์ที่ขาดทุนในพอร์ต


  • นักวิเคราะห์ของ ANZ กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ท่ามกลางแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลลบต่อทองในภายหลัง 


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.1 จุด หรือ 0.1% มาอยู่ที่ระดับ 106.6 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.001% มาอยู่ที่ระดับ 2.791% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.191% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.4%


  • นักลงทุนกำลังรอดูการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดในวันพุธนี้ และการประชุมที่เมืองแจ็คสัน โฮลในสัปดาห์หน้า


  • นายโทมัส บาร์กิ้น ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวว่า เขาต้องการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกเพื่อทำให้เงินเฟ้อควบคุมได้ แม้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนก.ค.ท่ามกลางการร่วงลงของต้นทุนผลิตภัณฑ์พลังงานก็ตาม


  • นักยุทธศาสตร์ของบริษัทแคปิตัล อิโคโนมิคส์ระบุในวันศุกร์ว่า "เรายังคงคาดว่า ดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าขึ้นได้อีกครั้ง เพราะว่าเฟดจะปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินก็ต่อเมื่อมีการรายงานข่าวดีเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อออกมาอีกหลายข่าวในอนาคต


  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.10% สู่ระดับ 2.75%  โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย MLF ประเภท 1 ปีเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปล่อยให้กับสถาบันการเงินบางกลุ่มในวงเงิน 1 แสนล้านหยวน (1.48 หมื่นล้านดอลลาร์)


  • ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมในเดือนหน้า แต่หลังจากนั้นก็จะชะลอลงมาสู่การขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.25% ในเดือนพ.ย.


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประสบความสำเร็จให้การควบคุมเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจทรุดตัวลง


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,912.44 จุด เพิ่มขึ้น 151.39 จุด หรือ +0.45%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,297.14 จุด เพิ่มขึ้น 16.99 จุด หรือ +0.40% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,128.05 จุด เพิ่มขึ้น 80.87 จุด หรือ +0.62%


  • ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์กเปิดเผยว่า ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจยูโรโซนจะถดถอยพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 เนื่องจากการขาดแคลนพลังงานเสี่ยงที่จะผลักดันให้เงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้วสูงขึ้นไปอีก


  • นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียกล่าวในโอกาสฉลองครบรอบ 75 ปี การประกาศอิสรภาพของอินเดียเมื่อวานนี้ ว่า อินเดียตั้งเป้าจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในเวลา 25 ปี ด้วยนโยบายสนับสนุนการผลิตในด้านพลังงาน กลาโหม และเทคโนโลยีดิจิทัลภายในประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนให้เยาวชนฝันให้ใหญ่และนำความสำเร็จมาสู่ประเทศ


  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2565 ขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส โดยได้แรงหนุนจากการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง


  • ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า การให้สินเชื่อใหม่ของธนาคารจีนร่วงลงมากเกินคาดในเดือนก.ค. ขณะที่การขยายตัวของสินเชื่อโดยรวมชะลอตัวลง เนื่องจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19, ความวิตกเกี่ยวกับการจ้างงาน และวิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ที่รุนแรงขึ้นทำให้ภาคองค์กรธุรกิจ และผู้บริโภคระมัดระวังการขอสินเชื่อมากขึ้น


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์ในวันจันทร์ โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากแนวโน้มความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 2.68 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 89.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ดิ่งลง 3.05 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 95.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.


  • นักวิเคราะห์จาก PVM คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบราคาระหว่าง 93 เหรียญต่อบาร์เรลกับ 105 เหรียญต่อบาร์เรล ไปจนกว่าจะมีสัญญาณที่ชัดเจนว่า เกิดการขาดแคลนด้านอุปทานน้ำมัน


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • กองทัพจีนเปิดปฏิบัติการซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวันรอบใหม่เมื่อวานนี้ หลังคณะผู้แทนสภาคองเกรสของสหรัฐเดินทางเยือนกรุงไทเปและพบปะกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเพิ่งเดินทางเยือนไต้หวันได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์


  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะผู้แทนรัฐสภาสหรัฐ นำโดยนายเอ็ด มาร์กี เดินทางถึงไต้หวันแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามกำหนดการเยือน 2 วัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มความตึงเครียดจีน-สหรัฐ ภายหลังการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา


  • สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือว่า ทั้งสองประเทศจะพยายามขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ครอบคลุมและสร้างสรรค์


  • ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนออกโรงเตือนว่า ทหารรัสเซียนายใดก็ตามที่ยิงถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) หรือใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวเป็นฐานซุ่มยิงโจมตีจะตกเป็นเป้าหมายพิเศษของกองทัพยูเครน


  • รองผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย (RBI) เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐแสดงความกังวลถึงกรณีที่มีบริษัทอินเดียแห่งหนึ่งลักลอบซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แล้วนำไปแปรรูปเพื่อขนส่งผลิตภัณฑ์บางส่วนไปยังนิวยอร์ก


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,508 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,623,596 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. - 6 ส.ค.2565 จำนวน 235,753 ราย สะสม 7,105,849 ราย โดย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 29 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 10,189 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 31,887 ราย


  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มณฑลไห่หนานพบผู้ติดเชื้อโควิดแตะ 1,162 ราย ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศแตะ 2,312 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือนที่ผู้ติดเชื้อทะลุ 2,000 รายเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน


  • เซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางทางการเงินของจีนประกาศว่าจะกลับมาเปิดโรงเรียนทุกแห่ง รวมถึงโรงเรียนอนุบาล ประถม และมัธยมในวันที่ 1 ก.ย. หลังจากต้องปิดโรงเรียนเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ 35.54 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.56 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.65 บาทต่อดอลลาร์


  • สกุลเงินบาทของไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจของไทย โดยเงินบาททะยานขึ้น 4.6% แตะที่ 35.3 บาทต่อดอลลาร์ในเดือนส.ค. ส่งผลให้เงินบาทพุ่งแซงหน้าค่าเงินสกุลอื่น ๆ ในเอเชียอย่างมีนัยสำคัญ โดยนอกเหนือจากการคาดการณ์เกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นแล้ว การที่ไทยมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดน้อยลงจากผลพวงของราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงนั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนค่าเงินบาท


  • สภาพัฒน์ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 65 (GDP) จะขยายตัวในช่วง 2.7-3.2% โดยมีค่ากลางการประมาณการอยู่ที่ 3.0% เท่ากับการประมาณครั้งที่ผ่านมา โดยขยายตัวสูงขึ้นจาก 1.5% ในปี 64 และเป็นการปรับช่วงประมาณการให้แคบลงจาก 2.5-3.5%
  • อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นมาในช่วง 6.3-6.8% จากเดิมคาด 4.2-5.2%
  • ดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะขาดดุล 1.6% ของ GDP จากเดิมคาดขาดดุล 1.5% ของ GDP

 

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, Prachachat

 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com