ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -12.1 เหรียญ หรือ -0.7% มาอยู่ที่ระดับ 1,711.4 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 10.1 เหรียญ หรือ 0.58% ปิดที่ 1,726.2 เหรียญ และตลอดเดือนส.ค. สัญญาทองคำร่วงลงทั้งสิ้น 3.1%
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 40.5 เซนต์ หรือ 2.21% ปิดที่ 17.882 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.89 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 973.37 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 32.5 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 2.29 ตัน
- นักกลยุทธ์จาก DailyFX ระบุว่า เฟดยังไม่มีความตั้งใจที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาใกล้ๆนี้ อย่างไรก็ตาม การที่เฟดให้ความสนใจกับเงินเฟ้อและสิ่งที่เฟดกำลังดำเนินการนั้นอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงสองด้านทั้งด้านขาขึ้นและขาลง จากการที่นักลงทุนคาดหวังทิศทางการให้แนวทางของเฟด แต่เฟดกลับให้ความเห็นที่ชัดเจนน้อยลง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นจุดอ่อนของทองคำ และหนุนค่าเงินดอลลาร์
- นักวิเคราะห์ของบริษัท OANDA ระบุว่า "ถ้าหากราคาทองสามารถพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,765 ดอลลาร์ สถานการณ์ดังกล่าวก็จะช่วยสนับสนุนความเห็นของนักลงทุนที่คาดการณ์ในทางบวกต่อราคาทอง แต่อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวของราคาทองในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา"
- ผู้อำนวยการฝ่ายค้าโลหะของบริษัทไฮ ริดจ์ ฟิวเจอร์สกล่าวว่า นักลงทุนจะเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในอนาคตเมื่อเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลง
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.08 จุด หรือ 0.08% มาอยู่ที่ระดับ 108.84 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.092% มาอยู่ที่ระดับ 3.198% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 3.495% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.297%
- นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับราว 3.5% และเฟดไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2023 ในขณะที่เฟดพยายามควบคุมภาวะเงินเฟ้อ
- นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ระบุว่า เฟดจะสามารถชะลอความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.75% ในช่วงที่ผ่านมา ถ้าหากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจใหม่แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง "อย่างเห็นได้ชัด" และผมไม่คิดว่าเฟดเสร็จสิ้นจากการคุมเข้มนโยบายการเงินแล้ว ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไปในปัจจุบัน
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คาดการณ์อีซีบีจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% อีกครั้งในเดือนหน้า ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายหลายคนได้ออกมาสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่านั้นเนื่องจากแนวโน้มเงินเฟ้อที่เลวร้ายลง
- โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ 2.25% ในการประชุมวันที่ 15 ก.ย. และระบุว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นที่โกลด์แมนจะปรับเพิ่มคาดการณ์ว่า บีโออีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าครั้งละ 0.25% ในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป
- สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวเตือนในวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่อยู่ในภาวะเปราะบางกำลังเผชิญกับความเสี่ยงบางประการ พร้อมกล่าวย้ำถึงความจำเป็นของบีโอเจในการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษต่อไปในช่วงนี้ ทั้งนี้ บีโอเจจะหารือกันในการประชุมวันที่ 21-22 ก.ย.
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดในแดนลบติดต่อกัน 4 วันทำการ และทำสถิติเดือนส.ค.ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,510.43 จุด ร่วงลง 280.44 จุด หรือ -0.88%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,955.00 จุด ลดลง 31.16 จุด หรือ -0.78% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,816.20 จุด ลดลง 66.93 จุด หรือ -0.56%
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนอาจจะเผชิญกับภาวะชะลอตัว แต่เขาก็ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะถดถอยทางเทคนิคเล็กน้อยในช่วงสั้นๆ โดยสนับสนุนให้อีซีบีควรปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นทีละน้อย หลังจากอีซีบีขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
- สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (INSEE) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของฝรั่งเศสในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้านั้นซึ่งขยายตัว 6.1% เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลง
- นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ระบุเตือนว่า อัตราเงินเฟ้อในอังกฤษอาจจะพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 20% ในช่วงต้นปีหน้า ถ้าหากราคาก๊าซธรรมชาติยังไม่ร่วงลงมา และโกลด์แมนคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยด้วย
- ราคาพลังงานในอังกฤษจะพุ่งขึ้น 80% สู่ระดับเฉลี่ยที่ 3,549 ปอนด์ (4,188 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปีตั้งแต่เดือนต.ค. ซึ่งจะส่งผลให้หลายล้านครัวเรือนในอังกฤษประสบปัญหาในการจ่ายค่าเชื้อเพลิง และจะส่งผลให้ธุรกิจหลายแห่งเผชิญความเสี่ยง นอกจากว่ารัฐบาลอังกฤษจะเข้าช่วยเหลือ
- นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโกลด์แมน แซคส์คาดว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาส 4 ของปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวลง 0.6% ในปี 2023
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์ในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังมีรายงานว่าเมืองใหญ่หลายแห่งของจีนเพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 รวมทั้งรายงานที่ว่าภาคการผลิตจีนหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 89.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ดิ่งลง 2.82 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 96.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
- บริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน Trifecta ชี้ว่า หากโอเปคเริ่มปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน เราคิดว่าจะยังไม่มีใครเชื่อว่า การปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบมากนัก และจากการที่ยังคงมีความเสี่ยงการเกิดเศรษฐกิจถดถอย จึงคาดว่า บรรดานักลงทุนจะซื้อขายน้ำมันดิบเบรนท์ที่ระดับช่วง 90 -100 เหรียญต่อบาร์เรล
- ก๊าซพรอม บริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซียได้ทำการระงับจัดส่งก๊าซไปยังเยอรมนี ผ่านท่อส่งนอร์ด สตรีม 1 เพื่อซ่อมบำรุงอุปกรณ์เป็นเวลา 3 วันตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับตลาดไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- การประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งจัดขึ้นทุก 5 ปีนั้น จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้าใกล้การกุมอำนาจต่อเป็นสมัยที่ 3 และถือเป็นการท้าทายธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมที่บัญญัติให้ประธานาธิบดีแต่ละคนสามารถรั้งตำแหน่งผู้นำแดนมังกรได้เพียง 2 สมัย รวมทั้งสิ้น 10 ปี
- กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีใต้จะขยายเวลาอนุญาตการเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าให้กับนักเดินทางจากญี่ปุ่น ไต้หวัน และมาเก๊าออกไปจนถึงเดือนต.ค.นี้
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ของไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,004 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,652,923 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 21-27 ส.ค.2565 จำนวน 173,234 ราย สะสม 7,701,375 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 25 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 10,630 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 32,328 ราย
- นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในการแถลงข่าววันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะเพิ่มเพดานการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศเป็น 50,000 คนต่อวัน จากปัจจุบันที่ 20,000 คนต่อวัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายเพิ่มเติมสำหรับมาตรการควบคุมพรมแดนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ 36.65 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.47 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.50-36.75 บาทต่อดอลลาร์
- ธนาคารแห่งประเทศไทย เผย ในเดือนก.ค.65 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยชะลอลงบ้าง โดยเครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงบ้าง หลังจากเร่งไปในช่วงก่อนหน้า สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าปรับลดลงสอดคล้องกับอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว ด้านการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ดี ภาคบริการยังคงปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังผู้ผลิตได้รับชิ้นส่วนการผลิตจากต่างประเทศมากขึ้น
- รมว.คลัง เชื่อว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง จะยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่โต 2.4% เนื่องจากยังได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยว หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้คาดว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไทย ราว 8-10 ล้านคน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเชื่อว่าจะดีต่อเนื่องไปจนถึงปี 66
- กระทรวงการคลัง พิจารณาต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ หลังมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ย.นี้ เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน ลดผลกระทบเงินเฟ้อ พร้อมคาดเงินเฟ้อปรับสูงสุดไตรมาสสาม และคาดเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีนี้ที่ 6%
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า คณะกรรมการค่าจ้างมีมติปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี 65 โดยเตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 65 โดยได้แบ่งการปรับขึ้นเป็น 9 ช่วง ค่าจ้างต่ำสุดอยู่ที่ 328 บาท สูงสุด 354 บาท (เดิมอยู่ในช่วง 313-336 บาท) หรือเป็นการปรับขึ้น 3-7% ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในรอบ 2 ปี
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, กรุงเทพธุรกิจ