ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันพฤหัสบดี โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -14.67 เหรียญ หรือ -0.86% มาอยู่ที่ระดับ 1,696.2 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 16.9 เหรียญ หรือ 0.98% ปิดที่ 1,709.3 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 21.6 เซนต์ หรือ 1.21% ปิดที่ 17.666 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 973.08 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ 0.29 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 2.58 ตัน
- นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ปัจจุบันมีความชัดเจนมากขึ้นว่าเฟดจะใช้นโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้นเนื่องจากการแรงกดดันเงินเฟ้อ ส่งผลลบต่อทองคำ
- นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered ระบุว่า แม้ว่านักลงทุนทองคำขาดความเชื่อมั่น ณ ขณะนี้และราคาทองคำก็มุ่งสู่ระดับ 1,700 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของลงที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงไปต่อเนื่องกว่านี้มีจำกัด เนื่องจากยังมีแรงหนุนจาก (1)ปัจจัยความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย (2) แรงหนุนจากแรงซื้อของตลาดทองคำจริง(physical gold) (3) ตลาดได้ลดทอนสถานะถือครองทองคำไปก่อนหน้า (4) เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.81 จุด หรือ 0.74% มาอยู่ที่ระดับ 109.64 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.059% มาอยู่ที่ระดับ 3.257% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 3.512% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.255%
- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์กล่าวว่า เฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่า 4% ภายในต้นปีหน้า และคงไว้ที่ระดับดังกล่าวเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปลดลงมาสู่เป้าหมายของเฟด
- โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายในสัปดาห์หน้า วันที่ 8 ก.ย. หลังจากข้อมูลพบว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ สอดคล้องกับธนาคารอื่นๆ อาทิ นอร์เดีย และดันส์เก้ แบงก์เปิดเผยเช่นกันว่า พวกเขาคาดว่าอีซีบีจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75%
- นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ระดับสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปเป็น 1.75% ในเดือนก.พ.ปีหน้า จาก 1.50% ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
- เจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังจับตาการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเร่งด่วนมาก เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ หลังจากที่เยนร่วงแตะระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 24 ปี
- ธนาคารรายใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทแนะนำให้ลูกค้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ หลังจากที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ส่งสัญญาณว่าจะดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพิ่มอีก ซึ่งจะหนุนความต้องการดอลลาร์สิงคโปร์
- ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เปิดเผยผลสำรวจการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์จะขยายตัว 3.5% ในปี 2565
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อในช่วงท้ายตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,656.42 จุด เพิ่มขึ้น 145.99 จุด หรือ +0.46%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,966.85 จุด เพิ่มขึ้น 11.85 จุด หรือ +0.30% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,785.13 จุด ลดลง 31.08 จุด หรือ -0.26%
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีพีกล่าวว่า "ข้อมูลของเราบ่งชี้ว่าการจ้างงานสหรัฐมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง ในขณะที่บริษัทหลายแห่งพยายามจะตีความสัญญาณทางเศรษฐกิจที่สับสนในช่วงนี้" และกล่าวเสริมว่า "ช่วงเวลานี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ โดยการจ้างงานที่เคยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งมากในช่วงก่อนหน้านี้ อาจจะปรับเข้าสู่ภาวะปกติมากยิ่งขึ้น"
- เอดีพีได้ร่วมมือกับสแตนฟอร์ด ดิจิทัล อิโคโนมี แล็บในการจัดทำรายงานการจ้างงานภาคเอกชนแบบใหม่ และเอดีพีระบุว่ารายงานการจ้างงานแบบใหม่นี้ถือเป็น "เครื่องบ่งชี้ที่เป็นอิสระ และเป็นส่วนเสริมสำหรับตัวเลขของรัฐบาล" และไม่ได้ถือเป็นการคาดการณ์ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่จัดทำโดย BLS ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางรายตั้งข้อสงสัยว่า รายงานการจ้างงานแบบใหม่ของเอดีพีจะถือเป็นเครื่องบ่งชี้ตลาดแรงงานที่มีความน่าเชื่อถือหรือไม่
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงกว่า 3% ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองใหญ่หลายแห่งเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 2.94 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 86.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 3.28 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 92.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักวิเคราะห์จากธนาคาร ANZ ระบุว่า เยอรมันยังคงเผชิญความเสี่ยงที่จะไม่มีก๊าซธรรมชาติอย่างเพียงพอในฤดูหนาวนี้ นอกจากนี้ความเสี่ยงของการขาดแคลนพลังงานยิ่งปรับตัวสูงขึ้น จากการที่ บริษัทกาซพรอมบริษัทสัญชาติรัสเซียที่ส่งก๊าซธรรมชาติมายังยุโรป ชี้ว่า ยังมีเครื่องกังหันของท่อส่งก๊าซธรรมชาติอีกหลายเครื่องที่มีความจำเป็นต้องซ่อมบำรุง
- โอเปคพลัส คาดการณ์ตลาดน้ำมันจะมีจะมีอุปสงค์น้ำมันส่วนเกินในปี 2022 แต่คาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญอุปทานน้ำมันขาดแคลน กว่า 300,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2023 สำหรับกรณีฐาน พร้อมระบุว่า อุปทานน้ำมันขาดแคลนมากขึ้นสู่ระดับ 1,800,000 บาร์เรลต่อวันในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023
- บรรดารัฐมนตรีคลังจากกลุ่ม G7 จะจัดการเจรจากันในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับการอนุญาตให้ทั่วโลกซื้อน้ำมันจากรัสเซียได้ภายใต้เพดานราคาที่กำหนด ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สหรัฐหวังว่า จะสามารถบรรเทาแรงกดดันในตลาดพลังงาน พร้อมกับจะทำให้รายได้โดยรวมของรัสเซียที่ได้รับจากการขายน้ำมันดิบนั้นลดลงด้วย
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- เจ้าหน้าที่สหรัฐรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากข่าวกรองสหรัฐว่า กองทัพรัสเซียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนกำลังพลในการทำสงครามกับยูเครน โดยกำลังพยายามหาทหารรับจ้างและอาจถึงกับเรียกตัวอาชญากรที่ต้องโทษเข้าร่วมกองทัพ
- ทีมผู้ตรวจสอบขององค์การสหประชาชาติ (UN) ในยูเครนมีกำหนดเดินทางเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ของยูเครนซึ่งถูกรัสเซียยึดครองในวันนี้ หลังมีการยิงต่อสู้กันในบริเวณใกล้โรงไฟฟ้าและทำให้เกิดการฟ้องร้อง ขณะที่ทั่วโลกต่างวิตกกังวลว่าจะเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ได้
- กระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศว่า ได้รับหมายศาลให้ยึดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของลูคอยล์ ซึ่งมีมูลค่า 45 ล้านดอลลาร์ โดยระบุว่า เครื่องบินดังกล่าวบินเข้าและออกจากรัสเซีย ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่มีต่อรัสเซีย
- กองกำลังทหารของไต้หวันยิงโดรนพลเรือนลำหนึ่งร่วง หลังได้รับคำร้องเรียนเรื่องโดรนจากจีนรุกล้ำน่านฟ้าตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นสัญญาณว่าไต้หวันพยายามต่อต้านความเคลื่อนไหวในการละเมิดดินแดนของจีน
- กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า ไต้หวันกำลังเผชิญกับความท้าทายทางทหารที่รุนแรง เนื่องจากกองทัพจีนทำการซ้อรบใกล้เกาะไต้หวันมากขึ้น โดยจีนมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ของไต้หวัน
- ประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวกับผู้ว่าการรัฐแอริโซนาระหว่างเดินทางเยือนกรุงไทเป ว่า ไต้หวันตั้งตารอที่จะได้ผลิต “ชิปประชาธิปไตย (Democracy Chips)” ร่วมกับสหรัฐ
- นางมิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุในรายงานฉบับล่าสุดว่า จีนได้กระทำการ “ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง” ต่อกลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และอาจมีความผิดในคดีก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,046 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 4,654,969 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 21-27 ส.ค.2565 จำนวน 173,234 ราย สะสม 7,701,375 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 24 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 10,654 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 32,352 ราย
- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ของสหรัฐอนุมัติวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น ที่มุ่งเป้ากำจัดไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ BA.5 ขณะที่สหรัฐเตรียมรับมือการแพร่ระบาดอีกระลอกในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวนี้
- นครเฉิงตูสั่งล็อกดาวน์ประชาชน 21 ล้านคนตั้งแต่เมื่อคืนนี้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในภาคตะวันตกของจีน หลังจากที่แทบไม่เคยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาก่อน
- เมืองกวางโจวซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีนประกาศใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในวันพุธที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเมืองเซินเจิ้นที่สั่งควบคุมพื้นที่หลายส่วนเพื่อสกัดการแพร่ระบาด ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตของประชาชนในเมืองทั้งสองแห่งซึ่งถือเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของจีน
- รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้มีมติให้ร้านขายยาสามารถจ่ายยาต้านไวรัสโควิด-19 ทั้งยาฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ และแพกซ์โลวิด ได้ ตั้งแต่วันนี้ 1 ก.ย. 65 เป็นต้นไป
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน ระบุว่า ค่าเงินบาท “อ่อนค่า” จากปัจจัยเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง-แรงซื้อดอลลาร์จากฝั่งธุรกิจพลังงาน- รวมถึงแรงซื้อเงินเยนของฝั่งบริษัท MNC ญี่ปุ่น หลังเงินเยนได้อ่อนค่าต่อเนื่องทะลุระดับ 140 เยนต่อดอลลาร์ โดยเช้านี้ค่าเงินบาทเปิด ที่ระดับ 36.78 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.71 บาทต่อดอลลาร์
- กระทรวงอุตสาหกรรมของไทย ระบุ หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ โดยเฉพาะการเปิดประเทศ มีคำสั่งซื้อและเพิ่มการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ค.อยู่ที่ 95.71 ขยายตัวเพิ่มขึ้น6.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ภาพรวม MPI ใน 7 เดือนแรกของปี 2565 ขยายตัว 1.23% และ คาดว่าครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, กรุงเทพธุรกิจ