• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 12 กันยายน 2565

    12 กันยายน 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ หลังได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี และยูโรแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยได้หนุนแรงซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยด้วย


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 9.07 เหรียญ หรือ 0.53% มาอยู่ที่ระดับ 1,717.49 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.4 เหรียญ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,728.6 เหรียญ และปรับตัวขึ้นเกือบ 0.4% ในรอบสัปดาห์นี้
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 32.5 เซนต์ หรือ 1.76% ปิดที่ 18.767 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.51 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 966.64 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ 6.73 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 9.02 ตัน


  • ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ก.ย.65 อยู่ที่ระดับ 56.89 จุด ปรับตัวลดลง 1.16 จุด หรือคิดเป็น 1.99% จากระดับ 58.05 จุด ในเดือน ส.ค.65 โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีปรับลดลงมาจาก ความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) , กระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวสูงขึ้น


  • นักวิเคราะห์อิสระ รอส นอร์แมน ระบุว่า ปัจจัยผสมผสานระหว่างค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับฐานและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่อ่อนตัวลง ช่วยหนุนราคาทองคำ ประกอบกับอุปสงค์ของเหรียญตราและทองคำแท่งมีทิศทางเป็นบวก เช่นเดียวกับความต้องการเครื่องประดับที่ฟื้นตัว ช่วยหนุนราคาทองคำเล่นกัน


  • นักวิเคราะห์จาก Kinesis Money ระบุว่า การที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในรอบการประชุมเดือนนี้ ปกติแล้วจะส่งผลลบต่ำทองคำ แต่จากความเป็นจริงที่ ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวลงต่อไปอีก แสดงให้เห็นว่าบรรดานักลงทุนยังคงมองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -0.98 จุด หรือ -0.9% มาอยู่ที่ระดับ 108.6 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.006% มาอยู่ที่ระดับ 3.317% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.561% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.244%


  • บริษัทโนมูระ โฮลดิ้งส์ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนก.ย.และพ.ย.ปีนี้ โดยคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย. และจากนั้นจะปรับขึ้น 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมทั้งสองครั้งดังกล่าว


  • ดอยช์แบงก์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้งในเดือนต.ค. หลังจากที่การประชุมล่าสุด อีซีบีมีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ


  • นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทลอมบาร์ด โอเดียร์กล่าวว่า "เมื่อพิจารณาจากการที่เศรษฐกิจยูโรโซนอาจจะอยู่ในภาวะชะงักงันหรือหดตัวลงในอนาคต เราก็คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่พุ่งขึ้นแตะระดับที่สูงเท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในตอนนี้" โดยเขาคาดว่า อัตราดอกเบี้ยของอีซีบีอาจจะแตะจุดสูงสุดที่ระดับเพียง 1.5%


  • ผู้จัดการลงทุนของบริษัทพิมโคกล่าวว่า "อีซีบีตั้งเป้าที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอย่างรวดเร็วจนอัตราดอกเบี้ยแตะระดับที่ไม่ส่งทั้งผลบวกและผลลบต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี เราคาดว่า อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.50% ในเดือนต.ค.และในเดือนธ.ค." และเขากล่าวเสริมว่า อีซีบีมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% ในปีหน้า


  • นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า สกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ไม่เป็นผลดีกับบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับหน่วยงานการเงินของญี่ปุ่นที่ออกมาเตือนเกี่ยวกับความผันผวนที่รุนแรงของเงินเยน หลังจากเงินเยนทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเทียบกับดอลลาร์


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ และปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้น โดยมองข้ามความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และดูเหมือนว่านักลงทุนได้ปรับตัวรับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนนี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,151.71 จุด เพิ่มขึ้น 377.19 จุด หรือ +1.19%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,067.36 จุด เพิ่มขึ้น 61.18 จุด หรือ +1.53%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,112.31 จุด เพิ่มขึ้น 250.18 จุด หรือ +2.11%


  • นางเจเนต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะชะลอตัวลงอีก แต่ก็เตือนว่ายังมีความไม่แน่นอนอยู่


  • ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนอาจจะอยู่ที่ 8.1% ในปีนี้ โดยปรับขึ้นจากระดับ 6.8% ที่เคยคาดไว้ในเดือนมิ.ย. ส่วนอัตราเงินเฟ้อในปี 2023 อาจจะอยู่ที่ 5.5% โดยปรับขึ้นจากระดับ 3.5% ที่เคยคาดไว้ในเดือนมิ.ย.


  • กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังพิจารณาออกมาตรการชุดใหม่เพื่อลดความน่าดึงดูดในการทำธุรกิจกับจีน ในขณะที่เยอรมนีพยายามลดการพึ่งพาจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชีย


  • นายโรเบิร์ต ฮาเบก รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเตือนว่า ธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศมีความเสี่ยงที่จะต้องปิดกิจการ เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อสูงและวิกฤตด้านพลังงาน ทั้งนี้ นายฮาเบกได้ขยายเวลาการใช้มาตรการสนับสนุนภาคธุรกิจในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว


  • ราคาผู้บริโภคเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวมากกว่าคาด ท่ามกลางปัญหาจากคลื่นความร้อนและยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตชะลอตัวลงด้วย ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งชะลอลงจากการปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นคาดไว้ว่าอาจจะปรับขึ้น 2.8%


  • ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งสะท้อนราคาที่โรงงานจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ค้าส่งนั้น ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 โดยชะลอลงหลังจากปรับขึ้น 4.2% ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจปรับขึ้น 3.1%


  • นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้สั่งการให้จัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ในเดือนต.ค. เพื่อช่วยเศรษฐกิจในการรับมือกับผลกระทบของเงินเฟ้อ นอกเหนือไปจากมาตรการปรับลดเงินเฟ้อที่มีการปรับปรุงในวันศุกร์ที่ผ่านมา


  • นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นควรใช้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินเยนในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น พร้อมกับกล่าวเสริมว่า เธอต้องการให้เปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันพรุ่งนี้


  • อินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกโดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของตลาดโลกนั้น ได้กำหนดภาษีส่งออกข้าวบางส่วนเพื่อรักษาอุปทานข้าวภายในประเทศหลังจากผลผลิตข้าวลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาอาหารทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น และซ้ำเติมวิกฤตความอดอยากในหลายประเทศ

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน และการร่วงลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน แต่ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 3.25 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 86.79 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ยังคงปรับตัวลง 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 3.69 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 92.84 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ยังคงลดลง 0.2% ในรอบสัปดาห์นี้


  • ความต้องการบริโภคน้ำมันในประเทศจีนอาจจะหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีในปีนี้ โดยการบริโภคน้ำมันอาจปรับลดลงถึง 380,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2022 จากการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนไม่เดินทางในช่วงวันหยุดและลดการบริโภคน้ำมัน


  • นักวิเคราะห์จาก CMC Market มีความเห็นว่า การเทขายน้ำมันในปริมาณมากในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันเริ่มหยุดแรงเทขายชั่วคราว เนื่องจากทิศทางการฟื้นตัวของการเปิดรับความเสี่ยงของตลาดในหลายสินทรัพย์

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

 


  • กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศถอนทหารออกจาก 2 พื้นที่ในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกของยูเครน หลังกองทัพยูเครนเครนได้ดำเนินการโจมตีตอบโต้อย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา


  • คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐกำลังพิจารณาออกคำสั่งบริหาร เพื่อคัดกรองและจำกัดการลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยของสหรัฐในประเทศจีนและในประเทศปฏิปักษ์อื่น ๆ


  • กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังพิจารณาออกมาตรการชุดใหม่เพื่อลดความน่าดึงดูดในการทำธุรกิจกับจีน ในขณะที่เยอรมนีพยายามลดการพึ่งพาจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชีย

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 698 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,668,244 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 28 ส.ค. - 3 ก.ย.2565 จำนวน 131,139 ราย สะสม 7,832,514 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 15 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 10,856 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 32,554 ราย


  • จีนยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.นี้ โดยทางการจีนได้ออกมาตรการจำกัดการเดินทางภายในประเทศเพิ่มเติม แม้หลายพื้นที่ของประเทศยังคงตกอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์อันเข้มงวด


  • นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้แนะนำว่า เกาหลีเหนือควรเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเดือนพ.ย. โดยได้อ้างถึงคำเตือนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูหนาว

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ  36.42 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 36.30 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 36.00-36.60 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.30-36.50 บาทต่อดอลลาร์


  • สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดทำผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retail Sentiment Index) ประจำเดือน ส.ค.65 ทรงตัวเท่ากับดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือน ก.ค.65 แม้จะมีสัญญาณบวก เพราะผู้บริโภคออกมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาด และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น แต่ผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ แนวโน้มดอกเบี้ยที่จะดีดตัวเพิ่มขึ้น และค่าแรงขั้นต่ำที่ประกาศปรับเพิ่มขึ้น 5-8% ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้น


  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาข้าวในประเทศผู้ส่งออกสำคัญได้แก่ อินเดีย ไทย เวียดนาม และเมียนมา มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังอินเดียตัดสินใจสกัดการส่งออกเพื่อรักษาอุปทานข้าวภายในประเทศ

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com