• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 กันยายน 2565

    20 กันยายน 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 0.49 เหรียญ หรือ 0.03% มาอยู่ที่ระดับ 1,675.73 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.3 เหรียญ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,678.2 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.30 เซนต์ หรือ 0.12% ปิดที่ 19.358 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.9 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 957.95 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ 15.42 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 17.71 ตัน

 

  • นักวิเคราะห์จากจาก City Index ระบุว่า ปัจจุบันราคาทองคำเคลื่อนไหวออกด้านข้างในกรอบหรือ Sideway ซึ่งทิศทางต่อไปขึ้นอยู่กับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยระดับราคา 1,680 เหรียญเป็นจุดพลิกผันที่นักลงทุนจับตามองในระยะสั้นนี้ ทั้งนี้ หากเฟดมีการขึ้นดอกเบี้ยอย่างดุดันมาก จะส่งผลให้ทองคำอาจร่วงลงสู่ระดับ 1,600-1,650 เหรียญได้

 

  • นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ความตึงเครียดที่มากขึ้นในภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ หนุนการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เป็นทางเลือกทดแทนสำหรับการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

 

  • ยอดขายทองคำในอินเดียมีแนวโน้มอ่อนแอในปีนี้ เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อและสภาพอากาศที่แปรปรวนในฤดูมรสุมอาจจะบั่นทอนรายได้ของเกษตรกร ซึ่งลดความสามารถในการซื้อทองของชาวอินเดีย

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -0.06 จุด หรือ -0.06% มาอยู่ที่ระดับ 109.58 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.046% มาอยู่ที่ระดับ 3.494% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.942% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.448%

 

  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า ซึ่งจะสร้างความยากลำบากให้แก่ผู้บริโภค ในขณะที่อีซีบีพยายามจะกดดันอุปสงค์ให้ลดลง เพราะว่าอุปสงค์เป็นปัจจัยที่หนุนให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงยิ่งขึ้นไปอีกในช่วงนี้

 

  • นักกลยุทธ์การลงทุนของบริษัท ING ระบุว่า "เนื่องจากอีซีบีเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงแรก และทำตามอย่างธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงนี้ ดังนั้นผมจึงคาดว่า นักลงทุนจะปรับตัวรับการคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีในอนาคตด้วย"

 

  • กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า จีนเพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 9.70 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. จาก 9.678 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย

 

  • นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับเดิมในสัปดาห์นี้ เนื่องจากธนาคารกลางจีน (PBOC) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันพรุ่งนี้

 

  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ลดอัตราดอกเบี้ยธุรกรรมการซื้อหลักทรัพย์โดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) ระยะ 14 วัน พร้อมยกระดับการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบธนาคาร เพื่อรับมือกับอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงใกล้สิ้นสุดไตรมาส 3/2565

 

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย

 

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,019.68 จุด เพิ่มขึ้น 197.26 จุด หรือ + 0.64%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,899.89 จุด เพิ่มขึ้น 26.56 จุด หรือ +0.69% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,535.02 จุด เพิ่มขึ้น 86.62 จุด หรือ +0.76%

 

  • โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีของสหรัฐในปีหน้า โดยคาดว่าจีดีพีของสหรัฐจะเติบโต 1.1% ในปีหน้า ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเติบโต 1.5% นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 0.50% และคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ย.และธ.ค. ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับสูงสุดที่ 4-4.25% ภายในปลายปี โดยระบุว่า "แนวทางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นประกอบกับภาวะตึงตัวขึ้นในสภาวะทางการเงินบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ย่ำแย่ลงสำหรับเศรษฐกิจ และการจ้างงานในปีหน้า"

 

  • ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนพบว่า คาดการณ์เงินเฟ้อระยะ 1 ปีลดลงสู่ระดับ 4.6% ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบปีตั้งแต่เดือนก.ย.2021 จากระดับ 4.8% ในเดือนส.ค. และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อระยะ 5 ปีลดลงสู่ระดับ 2.8% โดยลดลงต่ำกว่ากรอบ 2.9-3.1% เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนก.ค.2021

 

  • นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากมูดี้ส์ อะนาไลติกส์กล่าวว่า "เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินยังคงร่วงลง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีก แต่ความวิตกเกี่ยวกับภาวะถดถอย, อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และภาวะชะลอตัวในตลาดแรงงานอาจจำกัดการเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นผู้บริโภค"

 

  • โฆษกคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนจะเร่งอัดฉีดเงินทุนเพื่อเริ่มโครงการก่อสร้างให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ

 

  • กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่หลั่งไหลเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ในช่วง 8 เดือนแรก เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 8.9274 แสนล้านหยวน

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัว อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

 

  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 85.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 92.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

  • นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ตลาดน้ำมันยังคงมีประเด็นที่ค้างคาเกี่ยวกับยุโรปคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย นอกจากนี้ ภาวะอุปทานน้ำมันที่ยังคงปั่นป่วนในช่วงก่อนเดือนธันวาคม ทำให้มีโอกาสน้อยที่จะเห็นการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตของสหรัฐ ในขณะที่การผ่อนคลายมาตรการการจำกัดโควิดของจีน ช่วยหนุนปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

 

  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า กองกำลังทหารของสหรัฐพร้อมที่จะปกป้องไต้หวัน หากมีการโจมตีไต้หวันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งถือเป็นการเน้นย้ำคำมั่นสัญญาของสหรัฐที่มีต่อไต้หวัในช่วงเวลาที่การรุกรานของจีนเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งของเกาะไต้หวัน

 

  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตือนปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ว่า หากจีนละเมิดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ก็จะถือเป็นความผิดพลาดครั้งมโหฬารแต่ยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าจีนได้จัดหาอาวุธให้รัสเซียเพื่อใช้ในการบุกยูเครน

 

  • นายแมทธิว ซัสเซ็กซ์ รองศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยกริฟฟิธ ประเทศออสเตรเลียวิเคราะห์ว่า จีนถือไพ่เหนือกว่าในความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียและคาดว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะไม่ปล่อยให้รัสเซียได้เคลื่อนไหวตามใจชอบอีกต่อไป

         

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 774 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,674,403 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 11-17 ก.ย.2565 จำนวน 95,966 ราย สะสม 8,035,983 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 15 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 10,957 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 32,655 ราย

 

  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่าการระบาดของโควิด-19 สิ้นสุดลงแล้ว แม้สหรัฐยังคงเผชิญกับผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 หลายร้อยรายต่อวัน

 

  • เมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวนของจีน ประกาศยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์แล้วในวันนี้ (19 ก.ย.) ซึ่งจะทำให้ประชาชน 21 ล้านคนของเมืองนี้สามารถเดินทางออกจากบ้านและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง หลังจากที่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา

 

  • รัฐบาลฮ่องกงอาจประกาศจะยุติมาตรการกักตัวที่โรงแรมสำหรับนักเดินทางขาเข้า เพื่อพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจของฮ่องกง

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท



  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ 36.87 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 37.00 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.75-37.00 บาทต่อดอลลาร์

 

  • โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลวางเป้าหมายสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยให้ภาพรวมปี 2566 การท่องเที่ยวของไทยกลับมาอยู่ในสัดส่วนเป็น 80% ของปี 2562 (ก่อนสถานการณ์โควิด-19)  คาดปี 2566 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุดรวม 2.38 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศ 880,000 ล้านบาท

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com