• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2565

    4 ตุลาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 37.75 เหรียญ หรือ 2.27% อยู่ที่ระดับ 1,699.63 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 30 เหรียญ หรือ 1.79% ปิดที่ 1,702 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.55 เหรียญ หรือ 8.14% ปิดที่ 20.589 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 3.19 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 942.89 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 3.19 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 32.77 ตัน


  • นักกลยุทธ์จาก IG Markets ระบุว่า ราคาทองคำอาจจะรีบาวด์ปรับตัวขึ้นบ้างในระยะสั้นจากการที่ในเชิงเทคนิคเกิดการขายที่มากเกินไป หรือ oversold อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่ยังไม่เห็นแนวโน้มเฟกผ่อนคลายนโยบายการเงินที่ยังคงเข้มงวดอยู่ ก็จะยังคงเกิดแรงขายทองคำได้อีก


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -0.59 จุด หรือ -0.53% มาอยู่ที่ระดับ 111.59 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.16 % มาอยู่ที่ระดับ 3.643% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  ปรับตัวลดลง -0.11 % มาอยู่ที่ระดับ 4.115% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.47% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นางลาเอล เบรนาร์ด กล่าวว่า เฟดจะต้องคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่งตามความพยายามที่จะลดอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงต่อไป และต้องเฝ้าระวังการลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันสมควร


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า สัดส่วนของดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่มีการรายงานไปยังไอเอ็มเอฟ เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังอยู่ในวงจรการขึ้นดอกเบี้ยแบบเชิงรุกเพื่อจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก โดยสัดส่วนของดอลลาร์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59.5% จาก 58.8% ในไตรมาสแรก


  • หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทเพพเพอร์สโตน ระบุว่า  "ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังคงมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ต่อไป และผมก็มองว่าสิ่งที่สำคัญสำหรับยุโรปและอังกฤษไม่ใช่ความเคลื่อนไหวด้านอัตราดอกเบี้ย แต่เป็นความเปลี่ยนแปลงในด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ" นอกจากนี้ เขากล่าวเสริมว่า "ผมคิดว่าสิ่งที่นักลงทุนจะพยายามทำกันในตอนนี้ ก็คือการดูว่ามีตลาดแห่งใดที่เรามีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มด้านเงินเฟ้อ และผมก็มองว่าตลาดสหรัฐเข้าข่ายนี้


  • ค่าเงินเยนดิ่งลงมากถึง 0.4% แตะ 145.30 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากร่วงลง 21% ในปีนี้ ก่อนหน้านี้เยนเคยร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีที่ 145.90 เยนมาแล้วในวันที่ 22 ก.ย. ทำให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายต้องเข้าแทรกแซงเพื่อชะลอการร่วงเป็นครั้งแรกของปีนี้


  • นายชูนิชิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นพร้อมดำเนินการอย่างเด็ดขาดในตลาดปริวรรตเงินตรา หากค่าเงินเยนยังคงผันผวนรุนแรงต่อเนื่อง นับเป็นการส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนที่เทขายเงินเยน


  • รายงานสรุปความเห็นจากการประชุมนโยบายในเดือนก.ย.ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) บ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงเงินเฟ้อญี่ปุ่นอาจพุ่งสูงเกินกว่าคาดการณ์ 
    • ทั้งนี้กรรมการรายหนึ่ง ระบุว่า "มีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้ออาจจะเบี่ยงเบนไปทางขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน สิ่งนี้จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบแบบง่ายๆ และไม่มีอคติใดๆ
    • กรรมการหลายคนระบุถึงความจำเป็นที่ต้องคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไปเนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังอ่อนแออยู่ และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวในปีงบประมาณหน้า เมื่อผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้นบรรเทาลง 

  • แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) ระบุว่า การแทรกแซงของบรรดาธนาคารกลางในสัปดาห์ที่แล้วช่วยคลายความตื่นตระหนกในตลาด แต่การดำเนินการโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางอังกฤษยังไม่น่าเชื่อถือ และไม่มีการประสานงานกัน


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 700 จุดในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,490.89 จุด พุ่งขึ้น 765.38 จุด หรือ +2.66%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,678.43 จุด เพิ่มขึ้น 92.81 จุด หรือ +2.59% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,815.43 จุด เพิ่มขึ้น 239.82 จุด หรือ +2.27%


  • สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน รัฐบาลลิซ ทรัสส์ แห่งสหราชอาณาจักร ถอนแผนการปรับลดการจัดเก็บภาษีครั้งใหญ่ของนายกวาซี กวาร์เทง หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนัก และถูกบีบให้กลับลำนโยบาย ทั้งจากภายในพรรคอนุรักษนิยมและจากความอลหม่านวุ่นวายในตลาดการเงิน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.


  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นในไตรมาส 3/2565 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 เนื่องจากผลกระทบของต้นทุนการวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น 


  • นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นประกาศว่า จะพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หลังทรุดตัวลงอย่างหนักจากการบังคับใช้มาตรการปิดพรมแดนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยตั้งเป้าหมายใหม่ว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นกว่า 5 ล้านล้านเยน (3.5 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อปี


  • ผู้อำนวยการฝ่ายแผนยุทธศาสตของบริษัทโนมูระกล่าวว่า "อัตราดอกเบี้ยถือเป็นแกนกลางของสินทรัพย์ทุกประเภท และก็ไม่มีแนวโน้มว่าราคาหุ้นจะถูกปรับให้สูงขึ้น จนกว่าจะมีความชัดเจนว่า อัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดจะอยู่ที่ระดับใด"


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% ในวันจันทร์ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ในการประชุมวันพุธนี้


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 4.14 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 83.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.72 ดอลลาร์ หรือ 4.4% ปิดที่ 88.86 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • แหล่งข่าวโอเปกเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสซึ่งรวมถึงรัสเซีย จะจัดการประชุมวันพุธที่ 5 ต.ค.นี้ โดยมุ่งเน้นไปที่แนวโน้มการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 500,000 บาร์เรลถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อพยุงตลาดน้ำมัน ในขณะแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียอาจเสนอให้โอเปกพลัสปรับลดการผลิตน้ำมันลงถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน


  • นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า หากกลุ่มโอเปคพลัสปรับลดกำลังการผลิตน้อยกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวัน อาจทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงได้ อย่างไรก็ตาม เราเห็นถึงความเป็นไปได้อย่างมีนัยสำคัญที่โอเปคพลัสจะปรับลดกำลังการผลิตลงมากถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน


  • สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่า ตลาดก๊าซทั่วโลกจะยังคงตึงตัวในปีหน้า เนื่องจากอุปทานก๊าซในท่อส่งจากรัสเซียลดน้อยลงและอุปสงค์ก๊าซในยุโรปที่ลดลงจากการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานและราคาที่พุ่งสูงขึ้น

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • ทีอาร์เอ็ม แลบส์ บริษัทบริหารจัดการความเสี่ยงและกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลเปิดเผยว่า กลุ่มผู้สนับสนุนรัสเซียกำลังระดมทุนในรูปของสกุลเงินคริปโทฯ เพื่อช่วยในการรุกรานยูเครนและเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐ


  • ยูเครนประกาศว่าสามารถยึดคืนพื้นที่ศูนย์ส่งกำลังบำรุงทางตะวันออกของเมืองลือมันได้โดยสมบูรณ์แล้ว พร้อมชูธงชาติเหนือสถานที่ราชการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยนับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญเหนือรัสเซียในรอบหลายสัปดาห์ และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุทธการรุกตอบโต้ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครนเพื่อกดดันรัสเซีย


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท



  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ37.80 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 38.08 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37.70-38.00 บาทต่อดอลลาร์



ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews, Prachchat

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com