ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์แสดงความเห็นเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 7% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -10.5 เหรียญ หรือ -0.6% อยู่ที่ระดับ 1,749.67 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.6 เหรียญ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,754.4 เหรียญ และปรับตัวลง 0.9% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 20.997 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 7.2 เหรียญ หรือ 0.73% ปิดที่ 984.3 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.73 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 904.62 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ขายสุทธิ 15.95 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 71.04 ตัน
- Fitch Solutions ระบุว่า การที่ตลาดมีความหวังด้านบวกมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน จะส่งผลให้มีความเสี่ยงมากขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป และอาจปรับขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่ทำจุดสูงสุดในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ล้วนเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ
- นักวิเคราะห์จาก Reliance Securities ชี้ว่า ราคาทองคำจะยังคงผันผวนต่อไป จนกว่าได้รับความชัดเจนด้านนโยบายการการเงินจาก เฟด
- นักยุทธศาสตร์การลงทุนตลาดของบริษัทอาร์เจโอ ฟิวเจอร์สกล่าวว่า เจ้าหน้าที่เฟดระบุว่าเฟดจำเป็นจะต้องทำให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลงต่อไปและ "นักลงทุนก็ตีความถ้อยแถลงดังกล่าวว่าหมายถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และปัจจัยนี้ก็กระตุ้นให้มีการเทขายทองออกมา"
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.28 จุด หรือ 0.26% มาอยู่ที่ระดับ 106.97 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 3.806% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.51% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.7% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนิอาโปลิส นีล แคชคารี กล่าวสนับสนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย โดยระบุว่า เฟดก็ไม่ควรหยุดจนกว่าจะมีความชัดเจนว่า อัตราเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดแล้ว
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัส ซูซาน คอลลืนส์ กล่าวสนับสนุนเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงขึ้น พร้อมระบุ ยังไม่ตัดการพิจารณาการประับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ออกจากพิจารณาในการประชุม
- นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ECB จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอาจถึงขั้นต้องจำกัดกิจกรรมเศรษฐกิจ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยชี้ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญของ ECB เหนือการลดบัญชีงบดุล
- ผลสำรวจของรอยเตอร์ดทำระหว่างวันที่ 14-17 พ.ย. พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ 78 คนจาก 84 ประเมิน เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่กรอบ 4.25-4.50% ในการประชุมนโยบายระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับสูงสุดที่ 4.75-5.00% ในช่วงต้นปีหน้า
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ หลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัยได้ช่วยชดเชยการลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,745.69 จุด เพิ่มขึ้น 199.37 จุด หรือ +0.59%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,965.34 จุด เพิ่มขึ้น 18.78 จุด หรือ +0.48%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,146.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.10 จุด หรือ +0.01%
- โกลด์แมน แซคส์ คาดการ์ว่า จีนจะมีจีดีพีแท้จริงเพิ่มขึ้น 4.5% ในปีหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จีนค่อยๆออกจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งอาจจะทำให้การอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น และคาดว่า จีนจะยุตินโยบายโควิดในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า โดยคาดว่าการอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นจะมีส่วนสนับสนุน 2 ใน 3 ของเป้าหมายจีดีพีทั้งปี และโกลด์แมนคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 3% ในปีนี้
- นายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษประกาศแผนงบประมาณซึ่งมีขนาด 55,000 ล้านปอนด์ต่อปีเพื่อแก้ไขสถานะทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ โดยแผนดังกล่าวรวมถึงการปรับขึ้นภาษีในตอนนี้ และการปรับลดงบรายจ่ายของรัฐบาลอังกฤษลงในอนาคต
- สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า จีนควรจะตั้งเป้าการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2566 ไว้ที่อย่างน้อย 5% และเร่งฟื้นเศรษฐกิจจากที่ชะลอตัวในปัจจุบัน
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 1.56 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 80.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2565 และร่วงลง 9.98% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 2.16 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 87.62 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 8.7% ในรอบสัปดาห์นี้
- หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก ING ระบุว่า ในระยะสั้น แนวโน้มราคาน้ำมันยังคงเป็นลบ จากปัจจัยเศรษญกิจมหภาคที่มีทิศทางแย่ลง และมีสัญญาณของอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอลง
- นักวิเคราะห์จากธนาคาร Commonwealth ระบุว่า เราควรติดตามการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการจัดการโควิด ในเมืองกว่างโจวทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นจุดที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้นสูงมากอย่างมีนัยสำคัญ
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมระบุในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้บริหารธุรกิจต่าง ๆ ว่า จะปกป้องกลยุทธ์อินโด-แปซิฟิกของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขณะที่บรรดาผู้ที่เคลือบแคลงสงสัยได้ตั้งคำถามถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐที่มีต่อภูมิภาค และการคงไว้ซึ่งอำนาจทางเศรษฐกิจ
- นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ พยายามที่จะโน้มน้าวให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื่อว่า สหรัฐเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีค่าที่สุด ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงเทพฯ โดยคณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กำลังกังวลต่อการขยายอิทธิพลของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- นายยาเซ็ค ซิเวียรา หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติโปแลนด์เปิดเผยว่า นายอันเดรจ์ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์อาจอนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์จากยูเครนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมสืบสวนเหตุขีปนาวุธตกที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในโปแลนด์ใกล้ชายแดนยูเครนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
- รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธอีก 1 ลูกในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่คณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ (JCS) ระบุว่า ขีปนาวุธที่ยิงครั้งล่าสุดในวันนี้ อาจเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้ตกห่างจากชายฝั่งตะวันตกของเกาะฮอกไกโดประมาณ 210 กิโลเมตร
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- โควิดไทยแนวโน้มเพิ่มขึ้น เตือนเฝ้าระวัง "เดลตาครอน XBC" โควิดลูกผสมระหว่าง "เดลตา-โอไมครอน BA.2" ประเมินโจมตีปอดเหมือน "เดลตา" แพร่ระบาดได้รวดเร็วเหมือน "โอมิครอน"
- จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 25,353 รายในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 2,362 ราย และไม่แสดงอาการ 22,991 ราย โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันพฤหัสบดีเพิ่มขึ้นจากระดับ 23,276 รายในวันพุธ ทั้งนี้ ไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ในจีน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 5,226 ราย
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.85 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.73 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.45-36.10 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.65-35.85 บาทต่อดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทองคำ, ทองคำ, ราคาทองคำ