MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยยังคงได้แรงหนุนจากการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -2.35 เหรียญ หรือ -0.13% อยู่ที่ระดับ 1,754.26 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.4 เหรียญ หรือ 0.48% ปิดที่ 1,754 เหรียญ และปิดตลาดทรงตัวในรอบสัปดาห์นี้หลังจากลดลง 0.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.3 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 21.43 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9 เหรียญ หรือ 0.9% ปิดที่ 987.8 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.03 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 908.96 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ขายสุทธิ 11.61 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 66.7 ตัน

 

• นักวิเคราะห์จาก Kitco Metal ระบุว่า สถานการณ์โควิดในจีนยังไม่มีทิศทางที่ดีขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำและตลาดอื่นๆ ในช่วง 1-2 สัปดาฟ์ถัดจากนี้

 

• นักวิเคราะ์จาก IG Market ระบุว่า การอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์ช่วยหนุนราคาทองคำ เป็นผลจากมุมมองเฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย และมองว่าผ่านจุดสูงสุดของการใช้นโยบายการเงินเข้มงวดของเฟดแล้ว ช่วยหนุนให้ราคาทองคำสามารถเริ่มฟื้นตัว

 

• นักวิเคราะห์จาก Kinesis Money ระบุว่า นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดกำลังเข้าสู่ทิศทางนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.11 จุด หรือ 0.1% มาอยู่ที่ระดับ 106.06 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 3.687% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.459% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.77% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

 

• ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยรายงานการประชุม แสดงให้เห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายกังวลว่าภาวะเงินเฟ้ออาจจะฝังรากลึกในระบบเศรษฐกิจยูโรโซน และปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนให้อีซีบีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป 

 

• ผู้กำหนดนโยบายธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) บรรจุประเด็นเรื่องการปรับลดขนาดงบดุลของอีซีบีลงจากระดับ 9 ล้านล้านยูโรไว้ในวาระการประชุม บ่งชี้ว่าอีซีบีใกล้ที่จะเริ่มต้นดำเนินมาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT)

 

• อดีตผู้บริหารธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า ความเสี่ยงมากขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจจะขัดขวางบีโอเจจากการทยอยถอนนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve Control) อย่างน้อยก็ไปจนถึงปี 2024

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 พ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ยังคงซบเซาหลังวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และตลาดมีการซื้อขายเพียงครึ่งวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลยอดขายสินค้าในวัน Black Friday และสถานการณ์โควิด-19 ในจีน

 

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,347.03 จุด เพิ่มขึ้น 152.97 จุด หรือ +0.45%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,026.12 จุด ลดลง 1.14 จุด หรือ -0.03%
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,226.36 จุด ลดลง 58.96 จุด หรือ -0.52%

 

• ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเพียง 1.2% ในปี 2566 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในปี 2552 พร้อมคาดการณ์ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความเสี่ยงที่จะบานปลายกลายเป็น "สงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น"

 

• อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในกรุงโตเกียวพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปีในเดือนพ.ย. และเกินเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน โดยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ปรับขึ้น 3.6% ในเดือนพ.ย.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.5%

 

• นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากอ็อกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์ระบุในรายงานว่า ถ้าจีนเลื่อนการเปิดเศรษฐกิจไปถึงครึ่งแรกของปี 2567 นั้น การฟื้นตัวที่คาดไว้ในภาคการบริโภคของเอกชนนั้น จะล่าช้าออกไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบเกือบ 1 จุดเปอร์เซ็นต์ต่อการคาดการณ์ของบริษัทที่ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.2% ในปี 2566
• ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2565 ของเยอรมนีขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับค่าตามฤดูกาลและปฏิทินแล้ว โดยเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้น

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันศุกร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงนั้น ยังคงถ่วงตลาดลง

 

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.13% ปิดที่ 76.28 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 4.78% ในรอบสัปดาห์นี้
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 83.63 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 4.55% ในรอบสัปดาห์นี้

 

• นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าการระบาดของไวรัสโควิดในจีนที่มากขึ้น เริ่มส่งผลกระทบต่อการบริโภคน้ำมันในประเทศจีน จากการที่การจราจรชะลอตัวลง ซึ่งสามารถตีความเป็นอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงถึง 13 ล้านบาร์เรล หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

• นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ด้านอุปสงค์น้ำมันยังคงมีปัจจัยที่กดดันอยู่ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง เป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมัน

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

 

• รัสเซียกำลังร่างกฤษฎีกาของประธานาธิบดีซึ่งจะห้ามบริษัทและเทรดเดอร์ใด ๆ ของรัสเซียจากการขายน้ำมันให้กับบริษัทและประเทศใด ๆ ก็ตามที่เข้าร่วมในการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย

 

• รองหัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดียูเครนเปิดเผยว่า ทางการยูเครนได้จัดตั้งศูนย์พักพิงฉุกเฉิน 3,720 แห่งทั่วประเทศ ท่ามกลางภาวะขาดแคลนพลังงาน หลังรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

 

• รัฐบาลอังกฤษได้แจ้งให้หน่วยงานต่าง ๆ หยุดติดตั้งกล้องวงจรปิดของจีนในอาคารต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยระบุถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศ

         

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด

• จีน เผย จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอยู่ที่ 32,943 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 3,103 ราย และไม่แสดงอาการ 29,840 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากระดับ 31,656 รายในวันพุธ อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังคงอยู่ที่ 5,232 ราย

 

• ปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,854 รายเมื่อวันพฤหัสบสดีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1,611 รายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศจีนก็พุ่งแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ กรณีดังกล่าวทำให้ยอดสั่งซื้อสินค้าผ่านทางแอปพลิเคชันซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น เฟรชฮิปโป (Freshippo) หรือที่รู้จักกันในชื่อเหอหม่า (Hema) เพิ่มขึ้นแบบถล่มทลายจนจัดส่งสินค้าไม่ทัน ขณะที่ ร้านขายของชำอื่น ๆ ในเขตเฉาหยาง ซึ่งเป็นเขตที่ใหญ่ที่สุดของปักกิ่ง ก็ไม่สามารถรับคำสั่งซื้อเพิ่มได้เช่นกัน

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน ระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดโดยรวมจะเปิดรับความเสี่ยง หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แต่สถานการณ์ COVID-19 ในจีนที่น่ากังวล ได้เริ่มกลับมากดดันสินทรัพย์ฝั่งเอเชียมากขึ้น เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ผู้เล่นในตลาดเลือกถือดอลลาร์เป็นSafe Haven เงินหยวนเคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินบาท

โดยคาดว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  35.95 บาทต่อดอลลาร์ "อ่อนค่าลง”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ สำหรับในสัปดาห์นี้ ควรจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะประธานเฟด และรอลุ้นรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด (เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้ถึงระดับใด)

 

• ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงแผนลงทุนในปี 2566 พัฒนาโครงการทางพิเศษสายใหม่ 5 โครงการ วงเงินรวมกว่า 1.1 แสนล้านบาท
• โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมทบทวนเป้าหมายนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวในประเทศใหม่ จากเดิมที่ตั้งเป้าคนไทยเที่ยวไทย ปี 2565 ไว้ 160 ล้านคน-ครั้ง โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 ถึงสิ้นเดือน ต.ค. 2565 มีคนไทยเที่ยวไทยมากถึง 200 ล้านคน-ครั้งแล้ว ขณะที่ตัวเลขก่อนโควิดในปี 2562 คนไทยเที่ยวไทยอยู่ที่ 222 ล้านคน-ครั้ง โดยคาดว่าตัวเลขจะสูงกว่าช่วงก่อนโควิด

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

 

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทองคำ, ทองคำ, ราคาทองคำ