ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -11.99 เหรียญ หรือ -0.68% อยู่ที่ระดับ 1,741.23 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.7 เหรียญ หรือ 0.78% ปิดที่ 1,740.3 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 51.5 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 20.915 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.5 เหรียญ หรือ 1.16% ปิดที่ 999.3 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 908.09 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ขายสุทธิ 12.48 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 67.57 ตัน
- นักวิเคราะห์จาก IG Market ระบุว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวไปตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์อย่างใกล้ชิด และความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นเกิดจากสถานการณ์ความไม่พอใจของประชาชนในประเทศจีนที่คอยกดดันค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์
- นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ความต้องการทองคำจริง (Physical Gold) ยังคงอ่อนแอ แม้ว่าความต้องการทองคำของบรรดาธนาคารกลางจะยังคงแข็งแกร่ง
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.51 จุด หรือ 0.48% มาอยู่ที่ระดับ 106.57 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 3.683% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.442% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.76% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์คเปิดเผยผลสำรวจความเห็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของวอลล์สตรีท โดยเฉลี่ยคาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดที่ 4.875% ภายในเดือนมีนาคม 2023 และค่ากลางจากผลสำรวจคาดการณ์ว่า การลดสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลของเฟดจะสิ้นสุดลงในไตรมาส 3 ปี 2024
- นักวิเคราะห์สกุลเงินของบริษัทโมเน็กซ์ ยุโรป ชี้ว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ในวันที่ 30 พ.ย. นี้ จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่นายพาวเวลล์กล่าวแสดงความเห็นนับตั้งแต่การประชุมเฟดในวันที่ 2 พ.ย.
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 500 จุดในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ในเมืองต่าง ๆ ของจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและจะยิ่งทำให้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานทวีความรุนแรงมากขึ้น
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,849.46 จุด ร่วงลง 497.57 จุด หรือ -1.45%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,963.94 จุด ลดลง 62.18 จุด หรือ -1.54% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,049.50 จุด ลดลง 176.86 จุด หรือ -1.58%
- อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Nomura Asia ex-Japan ระบุว่า แผนของจีนที่จะอยู่ร่วมกับโควิดดำเนินการช้าเกินไป ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว เร่งให้เกิดความไม่พอใจของประชาชน และการประท้วงในประเทศจีน กดดันเศรษฐกิจโดยรวม
- อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวอาจหนุนเชิงบวก อาจเร่งให้ประทศจีนมีความชัดเจนมากขึ้นในแผนการดำเนินการอยู่ร่วมกับโรคโควิด การตั้งตารางการกักตัวที่โปร่งใส
- นักวิเคราะห์จาก CBA ระบุว่า แม้ว่าจีนจะพยายามมุ่งสู่การยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ แต่อัตราการฉีกวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งทำให้การยกเลิกมาตรการจะเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม
- โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนอาจจะยุติการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero) ก่อนเดือนเม.ย. 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และมีความเป็นไปได้ว่าการยุตินโยบายดังกล่าวจะเป็นไปอย่างไร้ระเบียบ หลังจากการใช้นโยบายที่เข้มงวดเพื่อควบคุมโควิด-19 ได้ทำให้เกิดการประท้วงทั่วประเทศ
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร (โอเปกพลัส) จะปรับลดกำลังผลิตน้ำมันลงอีกในการประชุมวันที่ 4 ธ.ค.
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.26% ปิดที่ 77.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 83.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสัญญาเดือนใกล้ ปรับตัวลงมากกว่าสัญญาเดือนไกล ประกอบกับราคาของน้ำมันที่ส่งมอบทันที (Spot) ปรับร่วงลง ทั้งนี้ บริษัทนายหน้าค้าน้ำมัน วิเคราะห์ว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวบ่งชี้สัญญาณ การขาดแคลนอุปสงค์น้ำมันและ/หรือการล้นเกินของอุปทานน้ำมัน
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- ชาวจีนรวมตัวประท้วงทั่วประเทศเพื่อต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน ซึ่งในขณะนี้กลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง
- คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือตั้งใจจะมีกองกำลังนิวเคลียร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก พร้อมกับเลื่อนตำแหน่งนายทหารหลายสิบนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุด และให้คำมั่นว่าจะตอบโต้สิ่งที่เขาเรียกว่าภัยคุกคามนิวเคลียร์ของสหรัฐ
- แคนาดาเตรียมทบทวนกฎหมายด้านการลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับบทบาทของบรรดาวิสาหกิจของจีน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้ปะทะคารมกับนายจัสติน ทรูโด ผู้นำแคนาดา นอกรอบการประชุม G20 เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- ผู้เชี่ยวชาญในตลาดการเงินบางรายแสดงความเห็นว่า การที่ประชาชนชาวจีนลุกฮือประท้วงเพื่อต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดนั้น อาจผลักดันให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยกเลิกการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Poilcy) เร็วขึ้น
- จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 40,347 รายในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 3,822 ราย และไม่แสดงอาการ 36,525 ราย ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันอาทิตย์เพิ่มขึ้นจากระดับ 39,791 รายของวันเสาร์ขณะเดียวกันจีนไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ ซึ่งส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 5,233 ราย
- เซี่ยงไฮ้กำหนดให้ประชาชนต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีพีซีอาร์ (PCR) เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนเข้าใช้บริการสถานที่สาธารณะ เช่นร้านอาหาร ผับบาร์ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านเสริมสวย และสถานประกอบการอื่น ๆ ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.เป็นต้นไป
- นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี เจ้าหน้าที่การแพทย์ระดับสูงของสหรัฐ ได้แสดงความกังขาเกี่ยวกับการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน โดยชี้ว่านโยบายดังกล่าวไม่น่าจะช่วยควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อได้ พร้อมแนะนำให้จีนผลักดันการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งกลยุทธ์นี้เป็นวิธีที่จะช่วยให้รอดพ้นจากโควิด-19 ส่วนการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์และโควิดเป็นศูนย์ต่อไปนั้นถือเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง
- นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติสหรัฐและหัวหน้าคณะที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนระบุว่า สหรัฐยังคงตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเขาเผชิญความยากลำบากอย่างยิ่งในการรับมือกับโรคระบาด ท่ามกลางความแตกแยกทางการเมืองในประเทศ
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.75 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.54 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ35.65-35.90 บาทต่อดอลลาร์
- กระทรวงพาณิชย์เผยการส่งออกในเดือนต.ค. มีมูลค่า 21,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เทียบกับที่โพลล์รอยเตอร์คาดไว้เพิ่มขึ้น 6%
- การนำเข้าในเดือนต.ค. มีมูลค่า 22,400 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบกับที่โพลล์รอยเตอร์คาดไว้เพิ่มขึ้น 10%
- มียอดขาดดุลการค้าในเดือนต.ค. ที่ 600 ล้านดอลลาร์ ขณะที่โพลล์รอยเตอร์คาดขาดดุล 1.15 พันล้านดอลลาร์
- การส่งออกในเดือนต.ค.หดตัวลงจากการส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม เนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์ของคู่ค้าสำคัญ
- ในเดือนต.ค. การส่งออกไปตลาดสหรัฐ ลดลง 0.9%, จีน หดตัว 8.5%, สหภาพยุโรป หดตัว 9.8%, ญี่ปุ่น ลดลง 3.1% และอาเซียน หดตัว 3.6%
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนตุลาคม 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณทรงตัวจากเดือนก่อน อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกและทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิด
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews, FXStreet
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทองคำ, ทองคำ, ราคาทองคำ