• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 21 ธันวาคม 2566

    21 ธันวาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันอังคาร เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับสัญญาทองคำ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 30.24 เหรียญ หรือ 1.69% อยู่ที่ระดับ 1,817.83 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 27.7 เหรียญ หรือ 1.54% ปิดที่ 1,825.4 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.072 เหรียญ หรือ 4.62% ปิดที่ 24.271 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 25.3 เหรียญ หรือ 2.56% ปิดที่ 1,013 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.74 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 913.88 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ซื้อสุทธิ 5.79 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 61.78 ตัน


  • นักวิเคราะห์ของบริษัทคิทโค เมทัลส์กล่าวว่า "บรรยากาศการซื้อขายทองคำอยู่ในภาวะสงบเงียบ และการซื้อขายก็เริ่มเข้าสู่บรรยากาศของช่วงก่อนวันหยุด"


  • นักวิเคราะห์อาวุโสจาก City Index ระบุว่า มุมมองที่มองว่าเฟดจะปรับขึ้นระดับอัตราดอกเบี้ยสุท้ายขึ้นอีก ทำให้ราคาทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ในปีหน้า

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.77 จุด หรือ -0.74% มาอยู่ที่ระดับ 103.95 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.09 % มาอยู่ที่ระดับ 3.686% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.259% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.57% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ยังคงตรึงเป้าหมายของมาตรการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) ไว้ตามเดิม โดยตรึงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ -0.1% และตรึงเป้าหมายอัตราผลตอบแทน JGB อายุ 10 ปีไว้ที่ระดับราว 0%


  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตัดสินใจว่าเปิดโอกาสให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับขึ้นได้มากกว่าเดิม โดยบีโอเจใช้วิธีขยายกรอบความเคลื่อนไหวสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ประเภทอายุ 10 ปีให้กว้างขึ้น จากเดิมที่อนุญาตให้เคลื่อนไหวได้ในกรอบ -0.25% จนถึง 0.25% เป็นให้เคลื่อนไหวได้ในระดับตั้งแต่ -0.50% จนถึง 0.50%


  • ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีไว้ที่ 3.65% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 5 ปีไว้ที่ 4.30%


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยตลาดฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการ อย่างไรดี นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายที่อ่อนแอในช่วงเทศกาลวันหยุดของผู้บริโภค และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในการประชุมเมื่อวานนี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,849.74 จุด เพิ่มขึ้น 92.20 จุด หรือ +0.28%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,821.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.96 จุด หรือ +0.10% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,547.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.08 จุด หรือ +0.01%


  • ธนาคารโลกปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากการดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์เป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปีและภาวะตกต่ำของภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนสำหรับปี 2565 ลงสู่ 2. 7% ร่วงลงจาก 4.3% ในเดือนมิ.ย. ส่วนการเติบโตที่คาดการณ์ไว้ในปีหน้านั้นได้ปรับลดลงจาก 8.1% เป็น 4.3%


  • ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นจาก 86.4 ในเดือนพ.ย. สู่ 88.6 ในเดือนธ.ค. และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 87.4 ในขณะที่เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ถึงแม้เยอรมนีเผชิญกับวิกฤติพลังงานและอัตราเงินเฟ้อสูง


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารคอมเมอร์ซแบงก์กล่าวว่า เศรษฐกิจเยอรมนีไม่มีแนวโน้มที่จะดิ่งลงอย่างรุนแรงในระดับที่มากเท่ากับช่วงหลังเกิดวิกฤติโรคระบาด

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และข่าวสหรัฐวางแผนซื้อน้ำมันเพื่อนำเข้าสู่คลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) อย่างไรก็ดี ตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในจีน รวมทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐที่อาจส่งผลให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนเดินทางน้อยลงในช่วงเทศกาลวันหยุด


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 76.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 79.99 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ผู้อำนวยการฝ่ายสัญญาล่วงหน้าพลังงานของบริษัทมิสุโฮ ระบุ ยังคงกังวลว่าอาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงในอนาคต ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ในช่วงนี้

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้อนุมัติโครงการระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือยูเครนให้สามารถรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจหลังจากถูกรัสเซียรุกราน และเพื่อช่วยส่งเสริมการจัดหาเงินทุนจากผู้บริจาค


  • ประธานคณะกรรมการรัฐสภาชุดใหม่ที่ดำเนินการเกี่ยวกับจีนเปิดเผยว่า เขาวางแผนที่จะมุ่งตรวจสอบการลงทุนของสหรัฐในจีน ท่ามกลางความกังวลเป็นวงกว้างเกี่ยวกับภัยคุกคามจากสงครามเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน


  • หน่วยงานของรัฐในลุยเซียนาและรัฐเวสต์เวอร์จิเนียนับเป็นหน่วยงานล่าสุดที่สั่งแบนการใช้บริการโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง ติ๊กต๊อก (TikTok) บนอุปกรณ์ของรัฐบาล เนื่องจากกังวลว่าจีนอาจใช้ติ๊กต๊อกเพื่อติดตามชาวอเมริกันและเซ็นเซอร์เนื้อหาต่าง ๆ


  • เกาหลีเหนือประณามยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงล่าสุดของญี่ปุ่น โดยกล่าวหาว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงรากฐานของสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาค พร้อมเตือนว่าเกาหลีเหนือจะแสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นเลือกทางที่ผิดและอันตรายแค่ไหน ด้วยการดำเนินการตอบโต้ แต่ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าตอบโต้ด้วยวิธีใด

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด



  • ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า ประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นแบบป้องกันสองสายพันธุ์  (Bivalent)  ถัดจากการฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์เดียวนั้น จะช่วยป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 ได้สูงถึง 57% เมื่อเทียบกับการไม่ฉีดวัคซีน และ 45% เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์เดียวในช่วง 11 เดือนก่อนหน้านี้


  • โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้แสดงความกังวลว่า โรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนักจนฉุดไม่อยู่ในประเทศจีน อาจจะนำไปสู่การกลายพันธุ์ใหม่ ๆ ของไวรัส โดยขณะนี้จีนซึ่งมีประชากรสูงที่สุดในโลกยังคงเผชิญกับผลกระทบของการผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ซึ่งเป็นนโยบายที่ควบคุมการแพร่ระบาดได้


  • จีนพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายใหม่จำนวน 5 รายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวน 2 รายที่พบในวันอาทิตย์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 5,242 ราย นอกจากนี้ จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แสดงอาการรายใหม่จำนวน 2,722 รายในวันจันทร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 1,995 รายในวันอาทิตย์ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการเพิ่มขึ้นเป็น 383,175 ราย


  • นครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ได้เพิ่มจำนวนคลินิกไข้ (Fever Clinic) ขึ้นเกือบสองเท่า ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในท้องถิ่นจะพุ่งแตะระดับสูงสุด

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.65 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์  โดยจะมีกรอบแนวรับที่ 34.50 บาท แนวต้าน 34.70 บาท


  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยยอดขายรถยนต์ภายในประเทศทั้งระบบในเดือนพ.ย. อยู่ที่ 68,284 คัน ลดลง 4.79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบกับเดือนต.ค. อยู่ที่ 64,618 คัน เพิ่มขึ้น 0.24% ในขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์ในเดือนพ.ย. อยู่ที่ 87,979 คัน ลดลง 10.98% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เทียบกับเดือนต.ค. อยู่ที่ 94,228 คัน เพิ่มขึ้น 15.51%


  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการช้อปดีมีคืน กำหนดให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า และบริการมาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงวงเงินสูงสุด 40,000 บาทต่อคน แบ่งเป็น วงเงินสำหรับการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าทั่วไปไม่เกิน 30,000 บาท และการซื้อสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีใบกำกับภาษีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 10,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.2566 รวมระยะเวลา 46 วัน

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com