ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวในวันพุธ โดยตลาดปรับฐาน หลังจากพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -2.83 เหรียญ หรือ -0.16% อยู่ที่ระดับ 1,814.1 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ระดับ 1,825.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันอังคารที่ 20 ธ.ค.
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 7.7 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 24.194 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 11 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ 1,002 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 913.88 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ซื้อสุทธิ 5.79 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 61.78 ตัน
- นักกลุยุทธ์ค่าเงินจาก OCBC ระบุว่า แม้ว่าการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะกดดันราคาทองคำ แต่การที่เรากำลังเข้าสู่ช่วงสุกท้ายของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นได้บ้าง
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.26 จุด หรือ 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 104.22 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 3.664% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.219% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.56% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- ผู้อำนวยการประจำญี่ปุ่นของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เป็น "ขั้นตอนที่สมเหตุผล"
- โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า มาตรการครั้งต่อไปของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะเป็นการยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ หลังจาก BOJ สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงินทั่วโลกด้วยการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในการประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
- นักวิเคราะห์หลายราย ซึ่งรวมถึงหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่นจากบริษัทยูบีเอส ซิเคียวริตีส์และอดีตเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า การที่นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ สร้างปรากฏการณ์ช็อกตลาดด้วยการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรนั้น เป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนทราบว่า BOJ มีแผนที่จะยุติการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultra-loose Monetary Policy)
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันพุธ (21 ธ.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทไนกี้ และเฟดเอ็กซ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,376.48 จุด พุ่งขึ้น 526.74 จุด หรือ +1.60%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,878.44 จุด เพิ่มขึ้น 56.82 จุด หรือ +1.49% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,709.37 จุด เพิ่มขึ้น 162.26 จุด หรือ +1.54
- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยยูโรโซนใกล้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้ในเดือนต.ค. ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการนำเข้าพลังงานที่มีราคาถูกลง โดยยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของยูโรโซนร่วงลงสู่ระดับ 400 ล้านยูโร จาก 8 พันล้านยูโรในเดือนก.ย. และกว่า 2.0 หมื่นล้านยูโรในเดือนส.ค.
- รัฐบาลได้ปรับลดมุมมองต่อผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากความต้องการเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลกกำลังหยุดชะงัก แต่ก็คงการประเมินภาวะเศรษฐกิจโดยรวมโดยระบุว่า เศรษฐกิจกำลังปรับตัวดีขึ้นปานกลาง
- กระทรวงการคลังของเกาหลีใต้เผย การขยายตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปี 2566 จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.6% จากการขยายตัว 2.5% ที่คาดการณ์เอาไว้สำหรับปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มสูญเสียแรงผลักดันและการบริโภคภายในประเทศที่พุ่งขึ้นหลังผ่อนปรนการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 เริ่มอ่อนกำลังลง
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด รวมทั้งความหวังที่ว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง หลังจากไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 2.06 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 78.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 2.21 ดอลลาร์ หรือ 2.76% ปิดที่ 82.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นักวิเคราะห์จาก CMC Markets analyst ระบุว่า ปริมาณน้ำมันสำรองคงคลังสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด เป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน ส่งผลให้ปัญหาอุปทานน้ำมันขาดแคลนน้ำมันจะแย่ลงอีกครั้ง จากการจีนกลับมาเปิดเมือง และ สหรัฐเริ่มกลับมาซื้อน้ำมันเติมน้ำมันาสำรองคงคลังทางยุทธศาสตร์อีกครั้ง
- เอสแอนด์พี โกลบอล คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งแตะระดับ 121 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อจีนกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี นายเยอร์กินเตือนว่า ตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญกับความไม่แน่นอน 3 ประการ
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน มีกำหนดเดินทางเยือนสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามในยูเครนเปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนก.พ. โดยการประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความคล่องตัวและความสามารถในการป้องกันของยูเครน
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- ญี่ปุ่นจะจับตาสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในจีนอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก การปรับขึ้นราคา และข้อจำกัดด้านอุปทาน
- จีนเริ่มอนุญาตให้พนักงานที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เพียงเล็กน้อยทำงานได้ตามปกติ ในขณะที่ภาครัฐพยายามจำกัดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากกรณีที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น หลังยกเลิกการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์แบบฉับพลันเมื่อช่วงต้นเดือนนี้
- รัฐบาลฮ่องกงจะอนุญาตให้ประชาชนเข้าใช้บริการในบาร์ได้โดยไม่ต้องตรวจเชื้อโควิด-19 แบบเร่งด่วนที่มีผลเป็นลบอีกต่อไป และยกเลิกการจำกัดจำนวนลูกค้าสำหรับสถานที่ต่าง ๆ ขณะที่ฮ่องกงยังคงเดินหน้าผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เหลืออยู่บางส่วนก่อนผู้นำฮ่องกงเดินทางเยือนจีน
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 34.68 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเมื่อวานที่ 34.66 บาทต่อดอลลาร์ โดยคาดว่าวันนี้จะมีกรอบแนวรับที่ 34.50 บาท แนวต้าน 34.70 บาท
- นักกลยุทธ์ตลาดเงิน ธนาคารกรุงไทย มองว่า แม้ว่าเงินบาทอาจได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่า จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ แต่เงินบาทก็อาจไม่ได้แข็งค่ามากกว่าแนวรับที่มองไว้ แถว 34.50 บาทต่อดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง