ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ และดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นง
- ราคาทองคำตลาดโลกเมื่อวันศุกร์ปิดที่ 1,797.67 เหรียญ สำหรับวันนี้ไม่มีราคาทองคำตลาดโลก เนื่องจากวันหยุดยาวของต่างประเทศ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8.9 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ระดับ 1,804.2 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 0.2% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 29.8 เซนต์ หรือ 1.26% ปิดที่ 23.92 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 45 ดอลลาร์ หรือ 4.57% ปิดที่ 1,029.6 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 913.01 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ซื้อสุทธิ 4.92 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 62.65 ตัน
- นักวิเคราะห์จาก Kitco Metals ระบุว่า ทิศทางอุปสงค์ของกลุ่มโลหะทีค่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในปี 2023 โดยที่เงินเฟ้อยังอาจคงเป็นปัญหาต่อไป แต่ในช่วงกลางปี คาดว่าบรรดาธนาคารกลางจะเริ่มเปลี่ยนทิศนโยบาย และจะทำให้ราคาของกลุ่มโลหะทีค่าปรับตัวขึ้นได้
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.07 จุด หรือ -0.07% มาอยู่ที่ระดับ 104.33 จุด
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก FWDBONDS กล่าวว่า เศรษฐกิจไม่ได้ใกล้เคียงภาวะที่ย่ำแยมากตามที่ตลาดคิดไว้ เฟดจึงอาจจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นอีกในปีหน้า เพราะเศรษฐกิจไม่ได้ชะลอตัวลง แรงกดดันด้านราคาในช่วงขาขึ้นก็อาจจะคงอยู่ต่อไป
- ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนบริษัทเอ็มบาร์ก กรุ๊ป คาดการณ์ว่า ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นในปี 2566 จากปัจจัยที่ไม่ถูกต้อง ในขณะที่ธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ยกระดับความพยายามในการลดงบดุล
- แบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุว่า เยอรมนีจะออกพันธบัตรใหม่มูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า และจำนวนพันธบัตรรัฐบาลใหม่ที่นักลงทุนจะต้องซื้อในปีหน้านั้นจะสูงกว่าตัวเลขก่อนหน้านี้เมื่อ 10 ปีก่อนถึง 2 เท่า
- นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์, ดอยช์ แบงก์ และซิตี้กรุ๊ปคาดว่า ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า โดยบีเอ็นพี พาริบาส์ชี้ว่า การขายพันธบัตรเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารคาดว่าจะดันผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของเยอรมนีเพิ่มขึ้นอีก 0.45% สู่ระดับ 2.75% ในไตรมาสแรก.
- ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) และกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (MTI) เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสิงคโปร์เดือนพ.ย. ทรงตัวที่ 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับเดือนก่อนหน้า
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2524 ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะทำการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอีกครั้งในเดือนม.ค.
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางก่อนวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่สูงกว่าคาด และหุ้นกลุ่มพลังงานนำตลาดพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,203.93 จุด เพิ่มขึ้น 176.44 จุด หรือ +0.53%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,844.82 จุด เพิ่มขึ้น 22.43 จุด หรือ +0.59%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,497.86 จุด เพิ่มขึ้น 21.74 จุด หรือ +0.21%
- ดัชนีค่าใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐ (PCE) ปรับตัวขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงในเดือนพฤศจิกายน โดยปรับขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ปรับขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และปรับขึ้นในอัตราชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเมื่อเทียบรายปี โดยปรับขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ปรับขึ้น 5% เมื่อเทียบรายปี
- อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 40 ปี โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับขึ้น 3.7% ในเดือนพ.ย.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมปะนี (TSMC) ใกล้เสร็จสิ้นการเจรจากับบรรดาซัพพลายเออร์หลัก โดย TSMC อาจตั้งโรงงานในยุโรปแห่งแรกในเมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนี
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ หลังมีรายงานว่ารัสเซียลดการส่งออกน้ำมันดิบจากแถบบอลติก โดยข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยลบเกี่ยวกับสภาพอากาศหนาวเย็นในสหรัฐที่จะส่งผลกระทบต่อความต้องการเชื้อเพลิงเพื่อการเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 2.07 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 79.56 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มขึ้น 6.9% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 2.94 ดอลลาร์ หรือ 3.63% ปิดที่ 83.92 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 6.2% ในรอบสัปดาห์นี้
- นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า จากการที่น้ำมันดิบคลคลังขอสหรัฐปรับตัวลดลง และฤดูหนาวที่รุนแรงในสหรัฐโดยเฉพาะในทางตอนฬต้อย่างรัฐเทกซัส ฟลอริดา และรัฐทางตะวันออก ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเตาพุ่งสูงขึ้น
- ญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะอนุญาตการยืดอายุใช้งานเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เกินข้อจำกัดปัจจุบันที่ 60 ปี และก่อสร้างโรงไฟฟ้ารุ่นใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าที่จะปลดระวาง ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายด้านนิวเคลียร์ของประเทศ
- รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียอาจปรับลดการผลิตน้ำมันลง 5%-7% ในช่วงต้นปี 2566 หรือประมาณ 500,000-700,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อตอบโต้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันด้วยการหยุดขายให้กับประเทศที่สนับสนุนมาตรการดังกล่าว
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เดินทางออกจากรุงวอชิงตันดีซีของสหรัฐแล้ว พร้อมกับผลลัพธ์ที่ดี โดยจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ และมีการทำข้อตกลงอื่น ๆ ซึ่งจะชี้แจงในภายหลัง
- รัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 ให้คำมั่นว่าจะมอบเงินมูลค่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้าเพื่อช่วยยูเครนรับมือการโจมตีที่ยืดเยื้อของรัสเซีย
- นายรอน ไวเดน ประธานคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐ เรียกร้องให้บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ รวมถึงเทสลา เจเนอรัล มอเตอร์ และฟอร์ด เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานระหว่างบริษัทกับจีน หลังพบความเชื่อมโยงระหว่างบริษัทรถยนต์และหน่วยงานของจีนในภูมิภาคที่เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่ามีการใช้แรงงานทาส
- สหรัฐกล่าวหาว่าเกาหลีเหนือได้ทำการจัดส่งขีปนาวุธและจรวดให้กับวากเนอร์ (Wagner) บริษัททหารรับจ้างของรัสเซีย เพื่อนำไปใช้ทำศึกในประเทศยูเครน
- วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างงบประมาณของรัฐบาลมูลค่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ยูเครนมูลค่า 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงระบบการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- จีนวางแผนที่จะลดเวลากักตัวให้กับนักเดินทางที่มาจากต่างประเทศ หลังยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ โดยพิจารณาเปลี่ยนมาใช้นโยบาย “0+3” ที่จะกำหนดให้นักเดินทางจากต่างประเทศสังเกตอาการเป็นเวลา 3 วัน แทนข้อกฎเกณฑ์เดิมที่กำหนดให้นักเดินทางจากต่างประเทศต้องเข้ารับการกักตัวที่โรงแรมหรือศูนย์กักตัว
- หน่วยงานด้านสาธารณสุขของจีนคาดการณ์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนจะพุ่งแตะระดับสูงสุดภายในเวลา 1 สัปดาห์ พร้อมกับสั่งขยายระบบสาธารณสุขให้ครอบคลุมเพื่อรองรับผู้ป่วย อย่างไรก็ดี จีนยังคงมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิดได้
- รัฐมนตรีสาธารณสุขของอินเดียออกมาเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังโควิด-19 รวมถึงเข้ารับการฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัย ขณะที่อินเดียยังคงเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ทั่วประเทศจีน
- รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐเตรียมการช่วยเหลือจีนด้านวัคซีนเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ รัฐบาลจีนยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.76 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.73 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.50-35.20 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.65-34.85 บาทต่อดอลลาร์
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง