ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันอังคาร หลังจากจีนประกาศเปิดประเทศเร็วกว่าคาดทั้งขาเข้าและขาออกในเดือนม.ค.ปีหน้า
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 15.29 เหรียญ หรือ 0.85% อยู่ที่ระดับ 1,812.5 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 18.9 เหรียญ หรือ 1.05% ปิดที่ 1,823.1 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 29.7 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 24.217 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,032.7 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 5.5 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 918.51 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ซื้อสุทธิ 10.42 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 57.15 ตัน
- นักกลุยทธ์ค่าเงินจาก OCBC ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากตลาดมีแนวโน้มเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการผล่อนคลายมาตรการกักตัวของจีน ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำ
- นักกลุยทธ์ค่าเงินจาก OCBC ระบุว่า การฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพของราคาทองคำจะเป็นไปได้ถ้าหากเฟดเปลี่ยนท่าทีนโยบายการเงินผ่อนคลาย
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.21 จุด หรือ 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 104.33 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.11 % มาอยู่ที่ระดับ 3.849% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.372% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.52% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัทซิส กรุ๊ป คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางของประเทศตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่ใกล้ที่จะเสร็จสิ้นจากวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยผลสำรวจประจำเดือนธ.ค. ว่าผู้บริโภคของเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่ 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และชะลอตัวลงจากการสำรวจในเดือนพ.ย.ซึ่งอยู่ที่ 4.2% ซึ่งเน้นย้ำถึงมุมมองของตลาดที่ว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้จะยุติวงจรการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินในไม่ช้านี้
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 1% เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,241.56 จุด เพิ่มขึ้น 37.63 จุด หรือ +0.11%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,829.25 จุด ลดลง 15.57 หรือ -0.40% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,353.23 จุด ร่วงลง 144.64 จุด หรือ -1.38%
- แบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบัล รีเสิร์ช กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ ถือเป็นหนึ่งในการปรับขึ้นที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 20 ปี ทั้งนี้ โดยปกติแล้วเมื่อภาวะการเงินหดตัวลงอย่างรุนแรงเช่นนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็มักจะเป็นมากกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อย
- บริษัทวิจัย Destination Analysts ระบุว่า ชาวอเมริกันพร้อมออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นในปี 2566 โดยมีสัดส่วน 31% สนใจเที่ยวต่างประเทศมากกว่าในประเทศ
- เว็บไซต์ฮอปเปอร์ รายงานการค้นหาเที่ยวบินในสัปดาห์แรกของเดือน ธ.ค. พบว่า ชาวอเมริกัน 63% มีจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเป็นต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน บวกกับความหวาดกลัวต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มเบาลงในเดือน พ.ย.
- ยอดค้าปลีกของสหรัฐในช่วงเทศกาลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. จนถึงวัน 24 ธ.ค.ปีนี้ ปรับตัวขึ้น 7.6% ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 7.1%โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทค้าปลีกออกแคมเปญลดแลกแจกแถมเพื่อดึงดูดลูกค้า
- อัตราว่างงานของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย.ลดลงแตะระดับ 2.5% จากระดับ 2.6% ในเดือนต.ค ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่ตลาดแรงงานของญี่ปุ่นส่งสัญญาณฟื้นตัว
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า จีนได้ปรับทบทวนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับปี 2564 เพิ่มเป็นขยายตัว 8.4% จากเดิมที่ 8.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
- ยอดการจัดส่งสมาร์ตโฟนของจีนในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวลง 22% เนื่องจากผลกระทบของอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัวลงและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นในภาคการผลิตของจีน
- ชาวจีนเริ่มเร่งวางแผนเดินทางเยือนต่างประเทศ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในช่วงปลายเดือนม.ค.ปีหน้า ขานรับภาครัฐเตรียมเปิดพรมแดนเร็ว ๆ นี้
- ประชาชนในฮ่องกงตอบสนองต่อข่าวจีนเตรียมยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทางขาเข้าในต้นปีหน้าอย่างฉับไว โดยพากันแห่ค้นหาเที่ยวบินไปยังเมืองต่าง ๆ ของจีนแผ่นดินใหญ่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตทันที
- กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของบริษัทจากเกาหลีใต้ลดลง 5% เมื่อเทียบรายปีในช่วง Q3/2565 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยาวนาน
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยในวันอังคาร หลังมีรายงานว่าโรงกลั่นน้ำมันบางส่วนในสหรัฐเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง หลังจากที่ปิดทำการไปก่อนหน้านี้เนื่องจากผลกระทบของพายุหิมะ โดยข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวจีนเปิดประเทศ ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 79.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 84.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ประธานบริษัทลิโพว์ ออยล์ แอสโซซิเอทส์ คาดการณ์ว่า พายุหิมะที่พัดถล่มทั่วสหรัฐอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงานทั่วโลก โดยการผลิตน้ำมันในรัฐนอร์ทดาโคตาปรับตัวลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน และการผลิตก๊าซธรรมชาติในประเทศลดลง 10-15% เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวจัด
- หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัย์ ฟุจิโตมิ ชี้ว่า คำสั่งซื้อน้ำมันได้รับแรงกระตุ้นมาจากความกังวลพายุฤดูหนาวในสหรัฐจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันขาดแคลน อย่างไรก็ดี ปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนหลายรายออกไปพักผ่อนวันหยุด แต่อย่างไรก็ตาม พยากรณ์อากาศคาดว่า สภาพอากาศในสหรัฐจะดีขึ้นในสัปดาห์นี้ และสิ่งนี้หมายความว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในครั้งนี้อาจจะไม่ดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ประกาศว่าจะเดินหน้าสร้างหน่วยทหารที่เชี่ยวชาญด้านโดรน ตอบโต้การบุกรุกชายแดนของโดรนจากเกาหลีเหนือ
ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด
- เจ้าหน้าที่จีนเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถึงบ้านให้แก่ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- นายคิชิดะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะกำหนดให้นักท่องเที่ยวที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่หรือผู้มีประวัติเดินทางไปจีนแผ่นดินใหญ่ภายใน 7 วัน ต้องทดสอบหาเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (30 ธ.ค.) โดยผู้มีผลตรวจโควิดเป็นบวกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 7 วัน นอกจากนี้ นายคิชิดะยังสั่งจำกัดแผนเพิ่มเที่ยวบินไป-กลับประเทศจีนอีกด้วย
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน ระบุว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.62 บาทต่อดอลลาร์ "ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า โดยภาพรวมเงินบาทยังคงมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways ควรระมัดระวังความผันผวนของตลาดค่าเงินในช่วงปลายปี ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็รอจังหวะซื้อเงินดอลลาร์อยู่
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย การส่งออกไทยเดือนพ.ย.มีมูลค่า 22,308 ล้านดอลลาร์ลดลง 6.0% โดยการส่งออกไทยติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากเดือน ต.ค.ติดลบ 4.4%
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเป้าหมายของนโยบายการเงินสําหรับระยะปานกลาง และเป้าหมายสําหรับปี 2566 (กรอบเงินเฟ้อ) โดยคงกรอบอัตราเงินเฟ้อปี 2566 ไว้ที่ 1 - 3% เท่ากับปี 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เงินเฟ้อล่าสุดในเดือน พ.ย.อยู่ที่ 5.55%
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปิดเผยดัชนีอุตสาหกรรม (MPI) เดือน พ.ย. อยู่ที่ 95.11 หดตัวจากปีก่อน 5.6% ขณะที่กำลังการผลิตอยู่ที่ 62.63% คาดการณ์ดัชนี MPI ทั้งปี 65 ขยายตัว 1.0% ส่วนครึ่งปี 66 จะขยายตัวในกรอบ 2.5 – 3.5%
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง