• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 12 มกราคม 2566

    12 มกราคม 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ เนื่องจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันนี้


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -1.42 เหรียญ หรือ -0.08% อยู่ที่ระดับ 1,875.48 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.4 เหรียญ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,878.9 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18.4 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 23.481 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 4.2 เหรียญ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,084.3 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.74 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 912.43 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 5.21 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 5.21 ตัน

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.16 จุด หรือ -0.16% มาอยู่ที่ระดับ 103.06 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 3.543% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.22% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.68% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • นางอิซาเบล ชนาเบล สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีจำเป็นจะต้องปรับนโยบายการเงิน เพื่อทำให้นโยบายการเงินมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าอีซีบีกำลังปรับลดขนาดงบดุลลงในช่วงนี้เพื่อแก้ไขปัญหาอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงในยูโรโซน ทั้งนี้ อีซีบีพยายามสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสีเขียวในทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวางการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว


  • โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเขตยูโรโซนจะขยายตัว 0.6% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวลง เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติร่วงลง และการเปิดประเทศของจีน


  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนของธนาคารจีนในปี 2565 อยู่ที่ระดับ 21.31 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 3.15 ล้านล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 1.36 ล้านล้านหยวนจากปี 2564


  • มอร์แกนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนขึ้น 0.3% สู่ระดับ 5.7% ในปีนี้ และปรับเพิ่มเป้าหมายค่าเงินหยวนขึ้นเป็น 6.65 หยวนต่อดอลลาร์ และคาดว่าดัชนีหุ้นจีนของ MSCI จะพุ่งขึ้นอีก 16%


  • นางซายูริ ชิราอิ อดีตสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า บีโอเจสามารถปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ให้เป็นแบบ "กรอบตัวเลข" (range) ได้ เพื่อที่บีโอเจจะได้รักษาความยืดหยุ่นของนโยบายการเงินไว้ต่อไป ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออาจจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันวันที่ 2 ในวันพุธ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,973.01 จุด พุ่งขึ้น 268.91 จุด หรือ + 0.80%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,969.61 จุด เพิ่มขึ้น 50.36 จุด หรือ +1.28% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,931.67 จุด เพิ่มขึ้น 189.04 จุด หรือ +1.76%


  • ธนาคารโลก ระบุว่า เศรษฐกิจ EMDE มีแนวโน้มยังคงทรงตัวในปีนี้ เนื่องจากได้รับการชดเชยจากเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่หากไม่นับรวมจีนแล้ว เศรษฐกิจ EMDE มีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวลงอย่างมากจาก 3.8% ในปี 2565 สู่ 2.7% ในปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ต่างประเทศที่ทรุดตัวลงอย่างชัดเจน ผสมผสานกับปัญหาเงินเฟ้อสูง ภาวะการเงินตึงตัว และอุปสรรคในประเทศอื่น ๆ


  • นายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ เผยว่า เซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีนคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัวมากกว่า 5.5% ในปีนี้


  • นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของบลูมเบิร์กคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวราว 4.9% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ทีมที่ปรึกษาของรัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 4.5% – 5.5% ขณะที่คณบดีของมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาแห่งชาติของจีนกล่าวว่า การจะผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตสูงกว่าระดับ 6% ได้นั้น จำเป็นต้องพึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภค


  • เกาหลีใต้มีการจ้างงานในปี 2565 เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 20 ปี หลังจากเกาหลีใต้ได้ค่อย ๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติในช่วงก่อนโรคโควิด-19 แพร่ระบาด โดยมีจำนวนประชาชนที่มีงานทำในปี 2565 ของเกาหลีใต้อยู่ที่ 28.08 ล้านคน เพิ่มขึ้น 816,000 คนจากปี 2564 และเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งในปีนั้นจำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 882,000 คน


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนพ.ย. 2565 เนื่องจากเทศกาลขายสินค้าในวันแบล็กฟรายเดย์และทางออนไลน์เป็นปัจจัยกระตุ้นยอดซื้อเสื้อผ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการอุปโภคบริโภคที่เริ่มฟื้นตัวจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางออสเตรเลียเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากมุมมองบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียจะลดลงเนื่องจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตร โดยมุมมองดังกล่าวช่วยบดบังปัจจัยลบจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 77.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.57 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 82.67 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของรัฐบาลสหรัฐคาดการณ์ว่า การบริโภคพลังงานโดยรวมของสหรัฐจะปรับตัวลง 0.9% ในปี 2566 เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย


  • ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ จะได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศของจีน โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในไตรมาส 3 ของปีนี้


  • สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) จะส่งคณะผู้ตรวจสอบไปยังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทุกแห่งในยูเครน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อตรวจสอบสถานะความปลอดภัยของนิวเคลียร์และรังสีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • รัสเซียและจีนพร้อมที่จะกลับมาเปิดเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวร่วมกันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะกลับมาฟื้นฟูความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในระดับที่ลึกขึ้น


  • รัฐบาลญี่ปุ่นประท้วงการตัดสินใจของจีนที่สั่งระงับการออกวีซ่าให้แก่พลเมืองของญี่ปุ่น พร้อมกับเรียกร้องให้จีนยกเลิกการตัดสินใจดังกล่าว ทั้งนี้ จีนได้ระงับการออกวีซ่าแก่ผู้ที่เดินทางจากญี่ปุ่น เพื่อตอบโต้ต่อการที่ญี่ปุ่นออกมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดกับผู้ที่เดินทางจากจีน


  • อินเดียเตรียมจัดซื้อขีปนาวุธป้องกันการโจมตีทางอากาศแบบประทับบ่า เพื่อประจำการตามแนวชายแดนติดกับจีน เนื่องจากมีการส่งกำลังทหารเข้าในภูมิภาคมากขึ้น และความเป็นปรปักษ์ระหว่างทั้งสองประเทศย่างเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ ควรแนะนำให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยในเที่ยวบินระยะไกล อันเนื่องจากการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยล่าสุดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ


  • ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า XBB.1.5 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยใหม่ของเชื้อไวรัสโอมิครอน กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในสหรัฐ และคาดว่าจะทำให้มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐในสัปดาห์แรกของปี (นับถึงวันที่ 7 ม.ค.)


  • บรรดาผู้ผลิตยารักษาโรคโควิด-19 ชั้นนำของสหรัฐปฏิเสธคำขอลดราคาจากจีน ซึ่งตอกย้ำความท้าทายที่จีนกำลังเผชิญในการผลักดันให้ประชาชนจำนวนมากเข้าถึงยาต้านไวรัสได้อย่างง่ายดาย


  • ไชน่า ซิติก แบงก์ อินเตอร์เนชันแนล ของจีนในฮ่องกง เสนอฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ให้กับลูกค้ารายใหม่ที่มีฐานะร่ำรวย เพื่อกระตุ้นธุรกิจในโอกาสที่จีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงกลับมาเปิดพรมแดนไปมาหาสู่ระหว่างกันอีกครั้ง หลังพรมแดนของทั้งสองฟากฝั่งปิดตัวลงมานานถึง 3 ปีและมีการออกมาตรการจำกัดในด้านต่าง ๆ

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.34 บาทต่อดอลลาร์ทรงตัวจากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.25-33.60 บาท/ดอลลาร์ ภาพรวมค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากนักลงทุนรอรายงานเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในวันนี้


  • ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3.0-3.5% แม้เศรษฐกิจไทยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสูงถึง 20-25 ล้านคน จากปัจจัยหนุนที่จีนเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66 ขณะที่ปี 65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 11.1 ล้านคน มากกว่าที่ได้เคยคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ โดยอัตราเข้าพักโรงแรมเดือนธ.ค.65 อยู่ที่ 63% เข้าใกล้ระดับปกติที่ 77%

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com