MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ในวันพุธ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และความกังวลเกี่ยวกับภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นปัจจัยกดดันตลาด

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -18.35 เหรียญ หรือ -0.99% อยู่ที่ระดับ 1,835.8 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20.1 เหรียญ หรือ 1.08% ปิดที่ 1,845.3 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2566
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 30.1 เซนต์ หรือ 1.38% ปิดที่ 21.572 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 21.4 เหรียญ หรือ 2.28% ปิดที่ 917.8 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 921.08 ตัน ภาพรวมเดือนกุมภาพันธ์ ขายสุทธิ 0.59 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 3.44 ตัน

• นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสของ City Index กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลให้นักลงทุนไม่กล้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ รวมถึงนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟดมีแนวโน้มกดดันราคาทองคำในอนาคตได้

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.67 จุด หรือ 0.65% มาอยู่ที่ระดับ 103.88 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.807% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.635% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.83% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• นายโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ระบุว่า เฟดจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อมากกว่าความเสี่ยงที่มีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และหากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของเฟด การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม

• นางลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า เฟดต้องเตรียมความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น หากการดำเนินการดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเศรษฐกิจ

• นายแพทริก ฮาเกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เชื่อว่าคณะกรรมการเฟดยังจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่เหนือระดับ 5% หรืออาจจะสูงกว่านั้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

• นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่งมาก และมีความเสี่ยงที่ชัดเจนว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเฟดจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นอีก โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสู่ 5% – 5.5% ภายในสิ้นปีนี้ ถือเป็นกรอบที่เหมาะสม

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,128.05 จุด เพิ่มขึ้น 38.78 จุด หรือ + 0.11%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,147.60 จุด เพิ่มขึ้น 11.47 จุด หรือ +0.28% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,070.59 จุด เพิ่มขึ้น 110.45 จุด หรือ +0.92%

• ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษ ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 10.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ราคาอาหารและพลังงานที่อยู่ในระดับสูงยังคงสร้างแรงกดดันต่อภาคครัวเรือนอังกฤษอย่างต่อเนื่อง โดยด้านดัชนี CPI พื้นฐาน หรือ Core CPI ซึ่งไม่รวมราคาอาหาร พลังงาน แอลกอฮอร์ หรือยาสูบ อยู่ที่ 5.3% ในเดือนม.ค. เทียบกับ 5.8% ในเดือนธ.ค.

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลให้เศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 78.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 85.38 ดอลลาร์/บาร์เรล

                   

• ตลาดได้รับปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 16.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แตะที่ 471.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2564

• กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2566 ขึ้น 100,000 บาร์เรล/วัน โดยระบุว่าการเปิดประเทศของจีนจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการน้ำมัน

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

• นางนิกกี ฮาลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติ และอดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์ แคโรไลนา เริ่มต้นแคมเปญหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐปี 2567 ซึ่งเป็นการท้าชนกับตัวเก็งของพรรคอย่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีคะแนนนิยมแข็งแกร่ง

• ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐจากกรณีที่กองทัพสหรัฐยิงบอลลูนสอดแนมของจีนที่ล่วงล้ำน่านฟ้าสหรัฐนั้น มีแนวโน้มที่จะบานปลายกลายเป็นความตึงเครียดด้านการค้าและนำไปสู่การเกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานในวันข้างหน้า โดยสมาคมการค้าหลายแห่งซึ่งเป็นตัวแทนของบรรดาบริษัทที่ต้องพึ่งพาการผลิตจากจีนนั้น ได้แนะนำให้สมาชิกเริ่มหาหนทางในการกระจายห่วงโซ่อุปทาน

• รายงานที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ ระบุว่า รัสเซียได้นำเยาวชนชาวยูเครนอย่างน้อย 6,000 คนหรือมากกว่านั้นไปที่ยังสถานที่ต่าง ๆ ในรัสเซียและไครเมียที่รัสเซียยึดครองอยู่ โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้การศึกษาใหม่ในเรื่องการเมือง

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด

• อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับเครือข่าย ตรวจพบสายพันธุ์ XBB.1.5 จำนวน 2 ราย ในไทย เป็นชาวไทย 1 ราย และต่างชาติ 1 ราย ปัจจุบันหายดีแล้ว และยังไม่พบผู้ใกล้ชิดติดเชื้อ ซึ่งกรมได้ส่งข้อมูลเผยแพร่ไปยังฐานข้อมูล GISAID แล้ว

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.23 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.31 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.15-34.50 บาทต่อ ดอลลาร์

• รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะสามารถเติบโตได้ 3.7% ดีขึ้นจากปี 65 และคาดว่าในปี 67 จะเติบอย่างต่อเนื่องจากปีนี้เช่นกัน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ น่าจะเริ่มชะลอตัวลงจากปีก่อน โดยอยู่ในระดับที่ทรงตัว แต่ก็ยังไม่เข้าเป้าหมายกรอบเงินเฟ้อที่ตั้งไว้ที่ 1-3% แต่เชื่อว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ในปี 67 ดังนั้น นโยบายการเงินจึงยังไม่สามารถผ่อนคลายได้โดยเร็วนัก ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังไม่สามารถเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ ทั้งนี้ ธปท. ได้วางนโยบายการเงินภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน โดยชั่งน้ำหนัก 3 ปัจจัยสำคัญควบคู่กัน คือ การเติบโตของเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน พร้อมย้ำว่า ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเหมือนเช่นประเทศอื่น 

• ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2566 มีโอกาสจะขยายตัวได้ 3.8% โดยมองว่า 2 ส่วนที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยในปีนี้ คือภาคการท่องเที่ยว และการลงทุน

• รมว.คลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะได้รับแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีกว่าที่คาด รวมทั้งการบริโภคภายในประเทศ ที่ได้อานิสงส์จากมาตรการของรัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน โดยการใช้จ่ายขยายตัวในระดับ 3-4% เป็นการขยายตัวในระดับที่เหมาะสม

• สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนม.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 93.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 92.6 ในเดือนธ.ค.65 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 43 เดือนนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.62

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง